ในช่วงที่ผ่านมา “โรคซึมเศร้า” ถือเป็นประเด็นที่สังคมพูดถึงอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัยและเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ “การฆ่าตัวตาย” แล้วถ้าคนรอบข้างมีความเสี่ยงหรือกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ เราในฐานะคนใกล้ชิดพวกเขามีวิธีดูแลคนเป็นโรคซึมเศร้าอย่างไรบ้าง
แต่ก่อนจะไปพูดถึงวิธีดูแลคนเป็นโรคซึมเศร้า ผู้ที่ดูแลต้องเข้าใจโรคนี้เสียก่อน เนื่องจากโรคซึมเศร้าถือเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางจิตใจโดยตรง หากไม่เข้าใจอย่างละเอียด อาจนำไปสู่การดูแลและรับมือกับคนเป็นโรคซึมเศร้าที่ผิดวิธี ซึ่งอาจทำให้สภาวะทางจิตใจของผู้ป่วยย่ำแย่ลงได้
สาเหตุของโรคซึมเศร้า
1. เกิดขึ้นจากพันธุกรรม
เป็นหนึ่งในปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ไม่คาดคิดว่าโรคซึมเศร้าสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทุกคน เพียงแค่มีโอกาสเป็นโรคดังกล่าวได้มากกว่าคนทั่วไป เช่น หากมีฝาแฝดเป็นโรคซึมเศร้า ฝาแฝดอีกคนมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้สูงถึง 60 – 80% หรือหากมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าก็มีโอกาสป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 20%
2. เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม
ความเครียดมรสุมชีวิตจากปัญหารอบตัว, การมองตัวเองในแง่ลบที่เป็นผลมาจากการเลี้ยงดู, การสูญเสียครั้งสำคัญในชีวิตและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งอาจสรุปได้ว่าระหว่างพันธุกรรมกับสิ่งแวดล้อม ปัจจัยที่ส่งผลให้เป็นโรคซึมเศร้าอยู่ที่สัดส่วน 40:60
ทีนี้เมื่อทราบถึงสาเหตุของโรคซึมเศร้าแล้ว ก็ต้องหมั่นสังเกตกันสักหน่อยว่าคนรอบข้างที่มีความเสี่ยงหรือกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มีอาการเป็นอย่างไรบ้าง จะได้ประเมินระดับความรุนแรงของอาการได้ถูกต้อง ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่สำคัญที่ส่งผลต่อการรักษาและวิธีรับมือกับคนเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วย
9 อาการของโรคซึมเศร้า
- รู้สึกเศร้า ท้อแท้กับชีวิตและหงุดหงิดง่าย
- เลิกสนใจกับสิ่งที่ชอบทำในอดีต ขาดความสนใจต่อสิ่งรอบข้าง
- ความอยากอาหารเปลี่ยนไป ทำให้น้ำหนักขึ้นลงผิดปกติ
- นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินกว่าปกติ
- มีอาการกระวนกระวายและเฉื่อยชา แสดงออกให้เห็นชัด
- ดูหมดเรี่ยวแรง หมดไฟ อ่อนเพลีย ไม่มีพลัง
- โทษตัวเองในทุกเรื่อง มองตัวเองว่าไร้ค่าอยู่เสมอ
- ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถตัดสินใจกับปัญหาต่าง ๆ ได้
- คิดถึงความตาย พูดเรื่องความตายและอยากฆ่าตัวตายบ่อย ๆ
ซึ่งข้อสำรวจดังกล่าวเป็นเกณฑ์ที่จิตแพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโรคซึมเศร้า เมื่อมีอาการ 5 ข้อขึ้นไป โดยต้องมีข้อ 1 และข้อ 2 อยู่ด้วยและหากมีอาการยาวนานติดต่อกันเกินกว่า 2 สัปดาห์ ก็เข้าข่ายเสี่ยงควรปรึกษาจิตแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อหาแนวทางรักษาและวิธีรับมือกับคนเป็นโรคซึมเศร้าต่อไป
เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุและอาการของโรคซึมเศร้าแล้วก็มาถึงแนวทางวิธีดูแลคนเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งต้องแยกออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ สิ่งที่ควรทำ, สิ่งที่ควรพูด, สิ่งที่ไม่ควรทำและสิ่งที่ไม่ควรพูด
DO สิ่งที่ควรทำกับคนเป็นซึมเศร้า
1. หมั่นพูดคุยกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าให้เห็นถึงข้อดีของตัวเองเสมอ
ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาเลยก็ว่าได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้หันมามองเห็นคุณค่าของตัวเองที่จะทำให้มีกำลังใจสู้ต่อและอยากใช้ชีวิตต่อไป
2. รับฟังอย่างตั้งใจ ไม่กดดันและไม่ตัดสิน
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักคิดอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นภาระของผู้อื่น การจะให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกในใจ จึงต้องให้เขารู้สึกว่ามีคนอยากรับฟังเขาอยู่จริง ๆ ไม่กดดัน ไม่ตัดสินและต้องสร้างความไว้วางใจ ซึ่งการฟังที่ดีจะช่วยให้เราเก็บข้อมูลไว้ใช้สำหรับการป้องกันและรักษาได้ด้วย
3. หมั่นชวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าออกมาทำกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหว
จะเป็นเล่นกีฬา เล่นเกม ทำงานศิลปะ งานฝีมือและอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากจะช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยหลั่งสารสร้างความสุขอย่างเอ็นโดรฟินออกมาแล้ว ยังช่วยลดความเครียด การคิดฟุ้งซ่านได้อีกด้วย
สิ่งที่ควรพูดกับคนเป็นซึมเศร้า
- อยากให้ฉันกอดไหม
- เธอไม่ได้อยู่คนเดียวนะ
- เธอสำคัญสำหรับฉันเสมอนะ
- ฉันอาจไม่เข้าใจเธอ แต่ฉันจะอยู่ข้าง ๆ เธอนะ
- ฉันรักเธอ อดทนไว้นะ
- ออกไปเดินเล่นกันไหม
DON’T สิ่งที่ไม่ควรทำกับคนเป็นซึมเศร้า
อย่าบอกปัด ๆ หรือตีตัวออกห่าง
หากทำแบบนี้จะทำให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารู้สึกว่าไม่มีที่พึ่งพิง รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ อาจทำให้เกิดความคิดที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อได้
เมื่อพูดถึงเรื่อง “ความตาย” ห้ามทำเป็นไม่ได้ยิน
หากผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเอ่ยถึงเรื่อง “ความตาย” แล้วคนใกล้ชิดกลับมีท่าทีต่อต้าน อาจทำให้สภาวะจิตใจของผู้ป่วยรู้สึกแย่ลงได้
ห้ามกดดัน เร่งรัดหรือตัดสิน
หากพูดคำนี้ “ทำไมยังไม่หายอีก” อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกดดันว่าตัวเองเป็นภาระ อาจทำให้อาการแย่หนักลงกว่าเดิม
สิ่งที่ไม่ควรพูดกับคนเป็นซึมเศร้า
- ทำไมถึงทำไม่ได้
- อย่าคิดมากเลย
- สู้ ๆ นะ (เปรียบเสมือนการปล่อยให้ผู้ป่วยต่อสู้เพียงลำพัง)
- ไม่อยากรู้สึกแบบนี้ ก็ต้องเลิกคิด
- ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ผ่านไป
- จะเศร้าไปถึงไหนกัน
- ทำไมยังไม่หายอีก
- เข้าใจว่ารู้สึกอย่างไร ฉันก็เคยเป็น
- เลิกเศร้าได้แล้ว
วิธีดูแลคนเป็นโรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องอาศัยความเข้าใจและความใส่ใจเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีคนรอบข้างมีความเสี่ยงหรือกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ แล้วต้องการรักษาหรือปรึกษาจิตแพทย์ สามารถใช้สิทธิ์ “
ประกันสังคม” ของผู้ป่วยรักษาได้ แต่ในส่วนของ “
ประกันสุขภาพ” ต้องตรวจสอบเงื่อนไขกันให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าแผนประกันที่ทำไว้ ครอบคลุมเรื่องการรักษาโรคซึมเศร้าหรือไม่