Content Marketing ศาสตร์ต้องรู้ คู่ร้านค้าออนไลน์

Content Marketing ศาสตร์ต้องรู้ คู่ร้านค้าออนไลน์

By Krungsri Plearn Plearn

ถือเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับการเปิดร้านค้าออนไลน์ที่เห็นกันมากมายทุกครั้งที่เลื่อนกระดานข่าวในเฟซบุ๊ก ความง่ายดายของแพลตฟอร์มนี้ สามารถเปลี่ยนให้ทุกคนก้าวไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ได้เพียงไม่กี่คลิก

การมีร้านนั้นง่าย แต่การค้าการขายในโลกอินเทอร์เน็ตกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ทุกคนที่เริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์คงรู้แบบคร่าว ๆ แล้ว ว่าสินค้าที่จะขายคืออะไร มีความน่าสนใจแค่ไหน และคนซื้อคือใคร แต่การขายของให้นักช้อปกลุ่มมิลเลนเนียล รู้เพียงแค่นั้นยังไม่พอครับ เพราะต่อให้นักช้อปกลุ่มนี้จะซื้อของออนไลน์จนเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเขาก็ไม่ได้หน้ามืดกดซื้อทุกอย่างที่อยากได้ ทุกครั้งที่สนใจสินค้าสักอย่างหนึ่ง เขาจะหาข้อมูลสินค้ามาประกอบการตัดสินใจ ทั้งแหล่งผลิต ทั้งเทียบราคาจากหลาย ๆ แห่ง อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนก่อน ๆ ดูว่ามีโปรโมชั่นอะไรเพื่อลดราคาหรือไม่ ไม่ว่าจะใช้ในการซื้อครั้งนี้หรือการซื้อครั้งหน้า เพราะอินเทอร์เน็ตคือทุกสิ่งของพวกเขา กลุ่มมิลเลนเนียลเกิดมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีในยุคก้าวกระโดด คนกลุ่มนี้ไม่ต้องปรับตัวใด ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น นักการตลาดออนไลน์จึงมุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้เป็นหลัก

เมื่อมีสินค้าพร้อม มีหน้าเพจร้านค้าพร้อมแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย คือศาสตร์ที่เรียกว่า Content marketing หรือการตลาดเชิงเนื้อหา สิ่งที่กำลังจะบอกคืออย่างนี้ครับ การตลาดออนไลน์เป็นเรื่องของความสม่ำเสมอ มันต่างจากการออกจากบ้านไปเปิดร้านขายของ พอตลาดวายแล้วเก็บของกลับบ้าน แต่การขายแบบ Always open ในเฟซบุ๊กนั้น ต้องสร้างความน่าสนใจ สร้างแรงดึงดูดเสมอ เพราะคนซื้ออาจแวะมาชมร้านคุณได้ตลอดแม้ตอนคุณนอน และการถ่ายรูปสินค้าแล้วบอกว่าราคาเท่าไรนั้นน้อยเกินไป

ไม่ยัดเยียดจะขายของท่าเดียว

 
ลองนึกดูเวลาเราไปเดินช้อปปิ้งดูสินค้าอยู่เพลิน แล้วพนักงานขายเดินมาประกบแจ บางทีเราก็รู้สึกไม่อยากดูต่อแล้ว ไปดีกว่า เพราะนอกจากข้อมูลสินค้าที่ครบถ้วนแล้ว การมีคอนเทนต์ดี ๆ ให้เพจเกิดความเคลื่อนไหวจะช่วยสร้างความจดจำได้มาก คุณควรฝึกวิธีการนำเสนอ ทักษะด้านงานเขียนต่าง ๆ โดยที่เนื้อหานั้นอาจเชื่อมโยงไปหาสินค้าที่ขายแบบเนียน ๆ ไม่ควร Hard Sale แต่ทุก ๆ คอนเทนต์ของคุณควรจะมี 4 อย่างนี้อย่างน้อยหนึ่งข้อ อย่างแรกคือ ให้สาระความรู้หรือคำแนะนำ อย่างที่สอง ให้ความสนุกสนานและความบันเทิง อย่างที่สาม คือให้ไอเดียสร้างแรงบันดาลใจอยากเอาไปใช้ต่อ อย่างสุดท้าย คือโน้มน้าวความคิด หรือจูงใจให้กระทำบางอย่าง
 

ไม่ต้องถี่ แต่ให้มีไม่ขาด

 
อย่างที่กล่าวไปแล้ว การผลิตคอนเทนต์ออกมาอย่างสม่ำเสมอ คือการสร้างความเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด ไม่ต้องถี่จนสร้างความรบกวน แต่ต้องคุ้มค่ากับการแวะชมแวะอ่าน ทุก ๆ คลิกนั้นคือความเป็นไปได้ที่ร้านค้าของคุณจะได้เข้าไปนั่งในใจลูกค้าและยอมควักเงินให้กับสินค้าที่คุณนำเสนอ ส่วนจะโพสต์เวลาไหนในแต่ละวันนั้น ก็มีการวิเคราะห์กันออกมามากมายโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณจะขายอะไรและขายให้กับใคร เช่นกลุ่มคนทำงานชอบใช้เฟซบุ๊กช่วงที่เพิ่งมาถึงที่ทำงาน คนสูงอายุนิยมใช้ช่วงบ่าย ปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคซึ่งก็เปลี่ยนแปลงไปไม่สิ้นสุด
 
Content Marketing ศาสตร์ต้องรู้ คู่ร้านค้าออนไลน์
 

ไม่น่าเบื่อ ยิ่งสนุก ยิ่งถูกแชร์ต่อ

 
โดยส่วนมากคอนเทนต์ออนไลน์ที่ดีจะเป็นบทความที่กระชับแบบ 2 minutes read พร้อมรูปสวย ๆ เนื้อหาต้องโดน ไม่เวิ่นเว้อ ถ้าคิดจะเขียนยาว ๆ วิธีการเล่าต้องเยี่ยมเพื่อดึงผู้อ่านให้อยู่กับบทความนั้นได้นาน ๆ โดยในตอนจบ ผู้อ่านต้องได้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งจากสี่อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้า อาจเพิ่มความคึกคักด้วยคอนเทนต์ชวนแชร์เพื่อรับโปรโมชั่นจากทางร้าน และอย่าลืมว่าการแชร์ นั่นหมายความว่าคอนเทนต์ของเพจคุณจะไปปรากฎที่หน้าไทม์ไลน์ของลูกค้ารายนั้น ๆ และหากเป็นคุณล่ะ อยากให้รูปแบบไหน คอนเทนต์แบบไหนโชว์บนไทม์ไลน์ จะอยากแชร์บางสิ่งบางอย่างให้ไทม์ไลน์ของเราเป็นแหล่งข้อมูลดี ๆ ของกลุ่มเพื่อน หรือจะเป็นไทม์ไลน์แบบที่เพื่อน ๆ อยาก Unfollow
 
ท้ายที่สุด ร้านค้าออนไลน์ กับ Content marketing คงเป็นเรื่องที่ต้องเดินไปด้วยกัน หากคุณคือเจ้าของร้านจงติดตามสังเกตเทรนด์การตลาดออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ เพราะศาสตร์ประเภทนี้มักปรับเปลี่ยนไปไวเอามาก ๆ ซึ่งคอนเซ็ปต์ง่าย ๆ แบบที่หยิบมาเล่าให้ฟังนี้ จะเป็นแนวทางที่ช่วยให้ร้านเล็ก ๆ ของคุณได้เสิร์ฟเรื่องราวดี ๆ แก่ลูกค้า มากกว่าแค่สินค้าคุณภาพที่เตรียมเอาไว้เพียงอย่างเดียว
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : marketingoops.com, ceoblog.co, contentshifu.com, blog.sellsuki.co.th
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา