ในปัจจุบันมีนักธุรกิจจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จจนทำให้คนทั่วไปให้ความสนใจ และเกิดการติดตาม เพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่พวกเขามี ไม่ว่าจะเป็นความขยัน ความอดทน และการวางแผนที่ดี รวมทั้งสิ่งสำคัญที่สุดอย่างความรักและความชอบในสิ่งที่ลงมือทำ ซึ่งหากนำมันมาเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้นั้นเรียกได้ว่ามันคือทางลัดที่นำไปสู่เป้าหมายความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริง
วันนี้เราได้มีโอกาสมาพูดคุยกับ คุณตั้ม รัฐธนินท์ ศักดิ์ดำรงรัตน์ อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจที่เกิดจากความรักในงานเขียน ด้วยการผันตัวเองจากเด็กที่จบคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ที่คลุกคลีในวงการโฆษณาจนกลายเป็นเจ้าของ Brand Buffet เว็บไซต์ และ Facebook Page ที่นำเสนอเรื่องราวข่าวสารในแวดวงการตลาดที่มีคนติดตามมากที่สุดในขณะนี้
จุดเริ่มต้นของ Brand Buffet
ด้วยความเป็นคนที่ชอบเรื่องราวธุรกิจ เทรนด์ผู้บริโภคต่าง ๆ และมีความฝันอยากทำนิตยสาร คุณตั้มเล่าให้ฟังว่าในตอนทำงานนั้นได้มีโอกาสเป็นนักข่าวสายธุรกิจและการตลาด อีกทั้งได้เข้าไปอยู่ในธุรกิจเอเจนซี่โฆษณาที่ทำให้รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้องที่ทำเว็บไซต์ ด้วยความรักในการเขียนที่เรายังมีอยู่ในตัวจึงทำให้ตัดสินใจสร้างเว็บไซต์และ Facebook Page ซึ่งจุดนี้เองที่กลายเป็นแรงผลักดันในการสตาร์ทสร้าง Brand Buffet
ทำไมต้องเว็บไซต์ข่าวการตลาด
เพราะเราเป็นคนที่ได้เติบโตมาจากสายข่าวธุรกิจ การตลาด และโฆษณา จึงเอา Passion และความมั่นใจว่าข่าวธุรกิจเราทำได้ดีไม่แพ้ใคร ตรงนี้มาเป็นตัวตั้งในการทำเว็บไซต์นี้ขึ้น
อุปสรรคการทำ Brand Buffet ในช่วงแรก
ความท้าทายในช่วงแรก คือ การทำแบรนด์ หรือ
เว็บไซต์ อย่างไรให้คนรู้จักและชื่นชอบ รวมถึงเกิดการติดตามเราสม่ำเสมอ ต้องยอมรับเลยว่าช่วงเริ่มต้นเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว Facebook Page ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เราต้องทดลองโพสต์และทำคอนเทนต์หลาย ๆ รูปแบบ เพื่อหาจุดสมดุลว่าคนอ่านชอบแบบไหน ทำให้เราต้องทำความรู้จักและสร้างการรับรู้อย่างหนัก ในช่วง 1-2 ปีแรกที่เริ่มทำ
จุดคุ้มทุนในการทำคอนเทนต์ลงเว็บไซต์
จริง ๆ คุ้มทุนตั้งแต่ที่ได้ทำสิ่งที่เรารักแล้ว แต่ถ้ามองในแง่ธุรกิจ ค่าใช้จ่ายช่วงเริ่มต้นนั้นมีไม่มากนัก จะมาหนักตรงที่ต้องคิดไอเดียสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ออกมาทุกวัน หลังจากนั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการลงโฆษณาบนเฟซบุ๊ก (Facebook Ads) บ้าง เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมออนไลน์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุ้มทุนค่อนข้างเร็วเพียงในช่วงเวลาไม่เกิน 2 ปีที่ได้ทำงานกันมา
ทิศทางความแตกต่างสำหรับคอนเทนต์ของ Brand Buffet ในอดีตและปัจจุบัน
ช่วงเริ่มต้นยังไม่มีต้นแบบในการทำธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์ จึงลองทำคอนเทนต์ทุกแนวและปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่มียอด Engagement ดีและมีคนพูดถึงแบรนด์เรามากขึ้น แต่ในปัจจุบันคอนเทนต์จะเป็นในลักษณะเชิงลึก มีการวิเคราะห์ และเรื่องราวที่หลากหลายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
คอนเทนต์ที่ทำแล้วรู้สึกว่าท้าทายที่สุด
ทุกคอนเทนต์ท้าทายหมด เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าผู้อ่านหรือแฟน ๆ จะชอบบทความที่เรานำเสนอไปหรือไม่ ทุกวันนี้แต่ละบทความยังตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้กดปุ่มโพสต์ (Publish Online) เพราะลุ้นว่าผู้อ่านจะชอบหรือไม่ ?
ความสามารถที่เพิ่มขึ้นจากการทำ Brand Buffet
ด้วยตัวเนื้องานแล้ว เราได้รับข้อมูลข่าวสารมากมายจากทั่วโลกและเจอผู้บริหาร, นักการตลาด, นักคิดมากมาย ทำให้เราได้เจอ ได้ฟังมุมมอง และความรู้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังต้องติดตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอยู่ทุกวัน ทำให้เก่งและทันโลกอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญที่สุดของการทำ Start up ให้อยู่รอด
การทำธุรกิจ ต้องมีหลาย ๆ องค์ประกอบรวมกัน มีความตั้งใจ มีความรอบรู้ในสิ่งที่ทำ มีความอดทน และที่สำคัญต้องมีไหวพริบเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ก้าวต่อไปของ Brand Buffet
ในอนาคตต่อไปเราก็จะยังคงนำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นสาระ ประโยชน์ และถูกต้อง ด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่จะเพิ่มอรรถรสความเข้มข้นให้เนื้อหามากขึ้น เพื่อให้พื้นที่นี้เปรียบเสมือน
สังคมออนไลน์ ด้านการตลาดของเมืองไทยที่แบ่งปันและให้ข้อมูลข่าวสารดี ๆ แก่ผู้อ่าน
นับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เชื่อว่าหลายคนอยากมีเส้นทางความสำเร็จของตัวเองที่ไม่ต่างจากเจ้าของเว็บไซต์ Brand Buffet หากคุณค้นพบแล้วว่า Passion ของคุณคืออะไร แล้วสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจในฝันได้ เชื่อว่าในอนาคตธุรกิจ Start up ดี ๆ ที่มีประโยชน์กับสังคมบ้านเราแบบนี้จะมีออกมาให้เราเห็นอีกมากมาย