รวบรวมไอเดียผสมผสานความเชื่อเข้าไปในธุรกิจแบบญี่ปุ่น

รวบรวมไอเดียผสมผสานความเชื่อเข้าไปในธุรกิจแบบญี่ปุ่น

By Japan salaryman
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนไทยเรามีความผูกพันกับความเชื่อมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งอาจเริ่มต้นจากความศรัทธาตั้งมั่นศาสนาที่ตัวเองนับถือก่อน แล้วต่อยอดไปสู่สิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อนั้น ๆ หลอมรวมกันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว ความเชื่อหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากในประเทศไทยคือความเชื่อในวัตถุมงคล เช่น พระเครื่อง เทวรูป เครื่องรางของขลัง เพราะมีความเชื่อว่าวัตถุดังกล่าวจะเป็นผู้ช่วยให้สิ่งที่เราทำอยู่ประสบความสำเร็จง่ายขึ้น ช่วยให้เราแคล้วคลาดปลอดภัย
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์เกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธาและวัตถุมงคลมากมายในประเทศไทย เช่น จตุคามรามเทพ, ตุ๊กตาลูกเทพ, พระตรีมูรติ, ไลลา, ไอ้ไข่แห่งวัดเจดีย์ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเชื่อความศรัทธาอย่างมหาศาลแล้ว ยังก่อให้เกิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวัตถุมงคลเป็นจำนวนมาก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เราไม่อาจประเมินค่าได้
เรื่องราวความเชื่อและความศรัทธาดังกล่าวไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ยังสามารถหาได้ในที่อื่นๆ ทั่วโลก ในประเทศญี่ปุ่นเองจากประสบการณ์ที่ผมได้ใช้ชีวิตในญี่ปุ่นมา 7 ปี รวมทั้งการอ่านแบบสำรวจความคิดเห็นสาธารณะของ ISSP (The International Social Survey Programme ของ NHK) เกี่ยวกับความเชื่อของคนญี่ปุ่นที่มีต่อศาสนา พบว่าคนญี่ปุ่นในปัจจุบันแม้ไม่ได้มีความเชื่อความศรัทธาในศาสนาเข้มข้นมากเท่าไหร่นัก
แต่ยังมีความผูกพันกับความเชื่อความศรัทธาในรูปแบบต่างๆ เช่น การเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลอง 7 5 3 ที่พ่อแม่ญี่ปุ่นจะนิยมพาลูกไปศาลเจ้าที่ตนเองนับถือเมื่อลูกมีอายุ 3 ขวบ, 5 ขวบ และ 7 ขวบ พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก, การแต่งงานในพิธีแต่งงานแบบชินโตที่จะจัดขึ้นที่ศาลเจ้าชินโต, การนิยมซื้อเครื่องรางที่จะเห็นได้ทั่วไปในวัดและศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
ในบทความนี้ผมจึงอยากมาเล่าเรื่องราวธุรกิจของประเทศญี่ปุ่นที่มีความเข้าใจเรื่องความศรัทธาและความเชื่อของผู้คน และพยายามผสมผสานความเชื่อเข้าไปในธุรกิจจนประสบความสำเร็จ

OMAMO ธุรกิจเครื่องรางญี่ปุ่น Order Made ออนไลน์ ที่จะออกแบบเครื่องรางตามคำขอ พร้อมการปลุกเสกจากพระญี่ปุ่น

ตัวอย่างเครื่องรางญี่ปุ่น order made สามารถเลือกสิ่งที่จะขอพร และเลือกลายได้ ราคา 3,000 เยน
ตัวอย่างเครื่องรางญี่ปุ่น order made สามารถเลือกสิ่งที่จะขอพร และเลือกลายได้ ราคา 3,000 เยน
(รวมภาษีและค่าจัดส่งในประเทศญี่ปุ่น)
photo credit: https://www.youtube.com
โดยปกติแล้วเมื่อคนญี่ปุ่นไปขอพรที่ศาลเจ้าหรือวัด มักจะซื้อเครื่องรางเพื่อให้สมหวังตามความปรารถนาในด้านต่างๆ เช่น ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ, ให้ความรักยืนยาว, ให้ประสบความสำเร็จด้านการเรียน, ขับขี่ปลอดภัย เป็นต้น
ซึ่งเครื่องรางในรูปแบบดั้งเดิมนั้นมีข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ คือไม่สามารถตอบโจทย์ทุกความปรารถนาได้ และมีลวดลายค่อนข้างจำกัด ทาง OMAMO เห็นช่องว่างทางการตลาดตรงนี้จึงออกแบบ “เครื่องรางแบบ Order Made” ที่จะถูกปลุกเสกโดยพระ Chiko Sakai รองเจ้าอาวาสวัด Ikegami Jisso ในกรุงโตเกียว
ผู้ที่สนใจซื้อเครื่องรางสามารถเข้าไปในเว็บไซต์ Omamo.me แล้วเข้าไปสั่งเครื่องรางญี่ปุ่นในแบบเฉพาะของตัวเอง โดยระบุ “ชื่อ” “ความกังวล หรือความปรารถนา” พร้อมเลือกลวดลายที่ชอบ (หรือสามารถเลือกลวดลายแบบ “โอมาคาเสะ” คือให้พระเลือกลวดลายให้เราก็ได้) เพียงเท่านี้ก็จะได้เครื่องรางที่พระปลุกเสกให้ตามความต้องการของเราเอง
โดยทางวัดจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนหลังจากสั่ง ตัวอย่างการระบุ “ความกังวล” หรือ “ความปรารถนา” ก็มีหลากหลายเลย ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่ไม่อยากฉี่รดที่นอน, ผู้หญิงที่อยากให้สามีรักสามีหลง, คนที่ไม่อยากนอนกรน, คนที่ไม่อยากหัวล้าน, คนที่อยากเป็นที่รู้จักมากขึ้น และโด่งดังในวงการบันเทิง เป็นต้น
นอกจากความตั้งใจปลุกเสกให้ตามความปรารถนาของแต่ละคนแล้ว ทางดีไซเนอร์ของ OMAMO ยังออกแบบลวดลายเครื่องรางญี่ปุ่นอย่างพิถีพิถัน โดยใช้ลวดลายโบราณของประเทศญี่ปุ่น เช่น SEIGAIHA (คลื่น), YAGASURI (ลูกศร), YOSHIWARA TSUNAGI (โซ่) เอามาออกแบบให้มีความหมาย พร้อมกับความนำสมัยเข้ากับทุกเพศทุกวัย
เครื่องรางป้องกันไม่ให้ฉี่รดที่นอน ออกแบบด้วยลายน้ำไหล (Ryusui) ด้านบน แต่ Block น้ำไหลด้วยลายกำแพง (Higaki) ด้านล่าง
เครื่องรางป้องกันไม่ให้ฉี่รดที่นอน ออกแบบด้วยลายน้ำไหล (Ryusui) ด้านบน
แต่ Block น้ำไหลด้วยลายกำแพง (Higaki) ด้านล่าง
photo credit: https://www.youtube.com
ด้วยความพิเศษดังกล่าวจึงทำให้เครื่องรางแบบ Order Made ของ Omamo มียอดสั่งซื้อเข้ามาอย่างถล่มทลาย จากที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ตอนแรกว่าอยากมียอดขายแค่เดือนละ 50 ชิ้นก็พอแล้ว กลายเป็นยอดขายมากกว่า 6,000 ชิ้น ภายในระยะเวลา 3 เดือนเท่านั้น โดยช่องทางการประชาสัมพันธ์สินค้ามีเพียงแค่เว็บไซต์พร้อมคลิปวิดีโอเพียงที่เดียวเท่านั้น

OMAMORI MEISHI นามบัตรนำโชคที่เขียนโดยลายพู่กันของพระ EIJYU HAYASHI รองเจ้าอาวาสวัด JYOKOJI วัดในพระพุทธศาสนานิกายชินกอน

ตัวอย่างนามบัตรนำโชคที่มีการใช้ลายพู่กันของพระ EIJYU HAYASHI ในนามบัตร ราคา 15,950 เยน (ราคารวมภาษี) / 1 กล่อง (100 ใบ)
ตัวอย่างนามบัตรนำโชคที่มีการใช้ลายพู่กันของพระ EIJYU HAYASHI ในนามบัตร
ราคา 15,950 เยน (ราคารวมภาษี) / 1 กล่อง (100 ใบ)
photo credit: https://www.omamorimoji.jp
แม้ในปัจจุบันอาจจะมีการใช้นามบัตรลดลงไปบ้าง แต่นามบัตรยังถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจของคนญี่ปุ่น เพราะคนญี่ปุ่นมักแลกนามบัตรระหว่างกันเมื่อพบกันครั้งแรกเสมอ โดยนามบัตรที่เราคุ้นเคยกันมักจะมีข้อมูลจำเป็น เช่น ชื่อ-นามสกุล, ตำแหน่ง, บริษัท, ที่อยู่บริษัท, เบอร์โทรศัพท์และอีเมลติดต่อ เป็นต้น
โดยใช้ตัวอักษรที่เรียบง่าย อ่านง่ายอย่างที่เราคุ้นเคยกันแต่ OMAMORI MEISHI หรือนามบัตรนำโชคเป็นไอเดียของพระ EIJYU HAYASHI รองเจ้าอาวาสวัด JYOKOJI ที่อยากเปลี่ยนนามบัตรธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นนามบัตรนำโชค โดยใช้ความสามารถการเขียนพู่กันของตัวเองออกแบบลายพู่กันลงในนามบัตรให้ลูกค้า
ซึ่งสร้างมูลค่าและเพิ่มความแตกต่างเมื่อเทียบกับนามบัตรทั่ว ๆ ไป นอกจากนี้ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของนามบัตรเองยังสามารถใช้เป็นเรื่องราวที่ใช้พูดคุยกับคนที่จะมอบนามบัตรให้ได้ด้วย
ภาพบรรยากาศห้องเรียนสอนเขียนพู่กันของพระ EIJYU HAYASHI ที่ได้รับความนิยมมาก และมีผู้เข้าเรียนในปัจจุบัน ประมาณ 100 คน
ภาพบรรยากาศห้องเรียนสอนเขียนพู่กันของพระ EIJYU HAYASHI ที่ได้รับความนิยมมาก
และมีผู้เข้าเรียนในปัจจุบัน ประมาณ 100 คน
photo credit: https://www.omamorimoji.jp
ลูกค้าคนหนึ่งที่ใช้บริการ OMAMORI MESHI เล่าว่า เขาชอบตรงที่สามารถใส่ประโยคที่ชอบไว้ที่ด้านหลังนามบัตรได้ และให้พระ EIJYU HAYASHI เขียนประโยคนั้นๆ เป็นลายพู่กัน เขาบอกว่า ใช้นามบัตรนี้ได้ไม่นานก็รู้สึกว่า ได้รับโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเขาก็เชื่อว่า อาจจะมาจากนามบัตรนำโชคที่เขาสั่งทำกับพระ EIJYU HAYASHI ก็ได้
ทั้งสองตัวอย่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของไอเดียธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นที่ผสมผสานความเชื่อความศรัทธาเข้าไปในธุรกิจด้วย จะสังเกตได้เลยว่า ทั้งเครื่องรางญี่ปุ่นของ OMAMO และนามบัตรนำโชคของ OMAMORI MEISHI นั้น สามารถขายในราคาที่สูงกว่าราคาปกติมาก แล้วมียอดการสั่งซื้อเข้ามาแบบไม่ขาดสายด้วย
หวังว่าจะเป็นไอเดียเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคุณผู้อ่านที่กำลังมองหาไอเดียทางธุรกิจอยู่ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ความเชื่อความศรัทธาฝังรากลึกอยู่ในสายเลือด ถ้าเรามองเห็นช่องว่าง หรือความต้องการทางการตลาดก็ไม่เสียหลายที่จะลองทำดูครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา