4 วิธีรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่อาจทำให้ร้อนจนตาลาย

4 วิธีรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่อาจทำให้ร้อนจนตาลาย

By Krungsri Plearn Plearn
หากพูดถึงสภาพอากาศของโลกในปัจจุบัน พูดได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก จากสภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติในหลาย ๆ ที่ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น อุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข็งที่ขั้วโลกเกิดการละลายตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงระบบนิเวศตามธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบ

จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นสาเหตุให้เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ อีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีความสำคัญที่เราควรทำความเข้าใจ เพราะเนื่องจากปรากฏการณ์นี้จะเป็นตัวกำหนดสภาพอากาศต่าง ๆ บนพื้นโลก ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และขณะนี้ปรากฏการณ์เอลนีโญก็ได้กลับมาอีกครั้ง และเป็นครั้งที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา

อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ยังมีการคาดการณ์อีกว่า ในปี 2024 ที่ใกล้จะถึงนี้อาจทำให้เกิดสภาพอากาศที่แปรปรวนมากกว่าครั้งไหน ๆ แล้วเราจะรับมือกับปรากฏการณ์นี้กันได้อย่างไร? วันนี้เราก็มีความรู้ดี ๆ มาฝากทุกคน ได้ทำความเข้าใจ และเตรียมรับมือเอลนีโญ ไปพร้อมกับเรา
การรณรงค์ภาวะเอลนีโญ
ปรากฏการณ์เอลนีโญ คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำ และกระแสลมที่ทำให้เกิดการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศโลก โดยกระแสลมที่มีกำลังอ่อนได้เปลี่ยนทิศทางให้พัดจากทางทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก จึงทำให้กระแสน้ำอุ่นนั้นมีการไหลไปยังทวีปอเมริกาใต้

ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ก็ส่งผลให้ประเทศที่อยู่ทางฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลียนี้ได้รับผลกระทบในเรื่องของความแห้งแล้ง แทนที่จะเกิดฝนตกตามฤดูกาล และในทางกลับกัน ทางฝั่งอเมริกาใต้ที่มีความแห้งแล้งนั้นก็จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นแทน โดยมักจะเกิดอยู่แบบนี้ประมาณ 12-18 เดือน โดยเฉลี่ย

ซึ่งปรากฏการณ์เอลนีโญจะมีอยู่ด้วยกัน 3 สภาพ นั่นก็คือ ร้อน เย็น และเป็นกลาง และในสภาวะร้อนนี้ก็มักจะเกิดขึ้นทุก ๆ 2-7 ปี ที่ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและทำให้อุณหภูมิของโลกเรานั้นอบอุ่นขึ้น ซึ่งหากนึกถึงเหตุการณ์ที่ปรากฏการณ์เอลนีโญนั้นรุนแรงที่สุด ก็คงจะต้องนึกย้อนกลับไปในปี 2016 ที่เป็นปีที่โลกของเราร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์

แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคาดคะเนเอาไว้อีกว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังเกิดขึ้นในครั้งนี้อาจจะทำให้อุณหภูมิของโลกสูงเพิ่มมากขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งก็สามารถทำลายสถิติในปี 2016 ไปได้ง่าย ๆ เลย จึงทำให้ทั่วโลกต้องเตรียมพร้อมในการรับมือต่อปรากฏการณ์ของเอลนีโญที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างจริงจังในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้นั่นเอง
ภาวะเอลนีโญทำให้เกิดแห้งแล้ง

4 แนวทางการรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญ

เมื่อปรากฏการณ์เอลนีโญมาถึง สิ่งที่พวกเรากลัวก็คือเรื่องของปัญหาความแห้งแล้งที่อาจทำให้เกิดความยากลำบากต่อการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อโลกมีความร้อนมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้การใช้ ชีวิตของเราเปลี่ยนไป ซึ่งจะมีผลกระทบไปยังเศรษฐกิจโดยรวมเหมือนกัน

อีกทั้งยังทำให้ธรรมชาติเกิดการขาดความสมดุลเป็นเหตุให้ทั้งต้นไม้ และสัตว์เล็กใหญ่เกิดปัญหาทางชีวภาพได้อีกเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงได้นำเอาแนวทางในการรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญมาฝากกัน
การใช้น้ำประหยัดช่วยบรรเทาสภาวะเอลนีโญ

1. ใช้น้ำอย่างประหยัด

การใช้น้ำอย่างประหยัดในที่นี้ ก็เหมารวมไปถึงเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ การทำอาหาร หรือการทำธุระส่วนตัวที่จะต้องใช้น้ำทั้งสิ้น โดยไม่ควรใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือย และเกินความจำเป็น เพราะนอกจากจะไม่เป็นการประหยัดน้ำแล้วก็ยังส่งผลต่อเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากยิ่งขึ้นในช่วงที่ประสบปัญหาภัยแล้งนี้ไปได้อีกด้วย
การปลูกต้นไม้ช่วยบรรเทาสภาวะเอลนีโญ

2. ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถทำได้หลากหลายวิธี อย่างการทำอาหารที่เรานั้นมักจะล้างผักผ่านทางซิงค์ล้างจาน ก็ให้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการนำเอาภาชนะ หรือกะละมัง มารองในการล้างผักผลไม้ และนำเอาน้ำที่ใช้นั้นมารดต้นไม้ได้อีกครั้ง เป็นต้น ซึ่งก็จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้น้ำโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำในการรดต้นไม้เพิ่มได้นั่นเอง
ปลูกต้นไม้สีเขียวช่วยลดสภาวะเอลนีโญ

3. ปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น

เป็นเรื่องจริงที่การปลูกต้นไม้นั้นจำเป็นจะต้องใช้เวลา ถึงอย่างนั้นในตอนที่ต้นไม้เริ่มโต และผลิใบเขียวขจีออกมาก็เท่ากับว่ามันเริ่มที่จะฟอกอากาศในบริเวณนั้นได้แล้ว เป็นการเพิ่มความร่มรื่นให้กับบริเวณบ้าน ที่จะสามารถลดการใช้ไฟจากการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมไปได้ในตัวอีกด้วย อีกทั้งการปลูกต้นไม้นี้ก็ยังช่วยลดมลพิษทางอากาศที่อาจทำให้เกิดโรคในช่วงที่เกิดภัยแล้งแบบนี้ได้อีกเช่นเดียวกัน
ใช้ขนส่งสาธารณะบรรเทาสภาวะเอลนีโญ

4. ลดการสร้างมลพิษทางอากาศ

ปัญหาที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันเลยก็คือเรื่องของการใช้รถยนต์ ยิ่งมีจำนวนของรถบนถนนมากไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือจักรยานยนต์นั้น ก็จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากท่อไอเสียที่ยิ่งทำให้สภาพอากาศของโลกถูกทำลาย และส่งผลให้อุณหภูมิโลกร้อนมากยิ่งขึ้น

การหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาใช้ขนส่งสาธารณะแทน ซึ่งอาจจะต้องเปลี่ยนแนวทางการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ก็จะช่วยลดจำนวนรถยนต์บนถนนได้ดี ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาของมลพิษทางอากาศได้อีกหนึ่งทาง หากมองในแง่ดีเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุณหภูมิความร้อนให้ต่ำลงได้อีกด้วย

ต้องยอมรับว่าปรากฏการณ์นี้นั้นสร้างความวิตกกังวลให้กับหลาย ๆ อาชีพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร เพราะภัยแล้งสามารถส่งผลกระทบในเรื่องฝนขาดช่วง และไม่เป็นไปตามธรรมชาติ

ดังนั้นพวกเราจะต้องเตรียมรับมือกับการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญนี้ อีกทั้งทุก ๆ หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรที่จะเข้ามาสอดส่องดูแลเพื่อทำให้เรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันรวมไปถึงการประกอบอาชีพต่าง ๆ นี้สามารถที่จะขับเคลื่อนได้ต่อไป โดยการเตรียมแผนการรองรับที่สามารถใช้ได้จริง และเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับความเสียหายสูงสุด เพื่อทำให้เศรษฐกิจนั้นไม่เกิดการสั่นคลอน และสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ในตัว อย่างไรก็ตามการเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้นลดน้อยลงได้อีกเช่นเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Follow us on
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Powered by
© 2567 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
Follow