หากพูดถึงสภาพอากาศของโลกในปัจจุบัน เราจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะจากสภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติในหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น อุณหภูมิที่สูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว และระบบนิเวศต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด
การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในระบบสภาพอากาศโลก เพราะเนื่องจากปรากฏการณ์นี้จะเป็นตัวกำหนดสภาพอากาศต่าง ๆ บนพื้นโลก และส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของของมนุษย์ และขณะนี้ปรากฏการณ์เอลนีโญก็ได้กลับมาอีกครั้ง และเป็นครั้งที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ล่าสุดนี้ นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าในปี 2024 ปรากฏการณ์เอลนีโญอาจทำให้เกิดสภาพอากาศที่แปรปรวนมากกว่าครั้งก่อน ๆ ทำให้สภาพอากาศผันผวนอย่างมาก แล้วเราจะรับมือกับปรากฏการณ์นี้กันได้อย่างไร? วันนี้เราก็มีความรู้ดี ๆ มาฝากทุกคน ได้ทำความเข้าใจ และเตรียมรับมือเอลนีโญ ไปพร้อมกับเรา
ปรากฏการณ์เอลนีโญ คืออะไร? การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ทุกคนควรรู้
ปรากฏการณ์เอลนีโญ คือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำ และกระแสลมในมหาสมุทรแปซิฟิกทำให้
เกิดการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศโลก โดยกระแสลมที่มีกำลังอ่อนได้เปลี่ยนทิศทางให้พัดจากทางทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก จึงทำให้กระแสน้ำอุ่นนั้นมีการไหลไปยังทวีปอเมริกาใต้
จากเหตุการณ์นี้ก็ส่งผลให้ประเทศที่อยู่ทางฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลียนี้ได้รับผลกระทบในเรื่องของความแห้งแล้ง แทนที่จะเกิดฝนตกตามฤดูกาล และในทางกลับกัน ทางฝั่งอเมริกาใต้ที่มีความแห้งแล้งนั้นก็จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นแทน ปรากฏการณ์เอลนีโญนั้น มักจะเกิดอยู่แบบนี้ประมาณ 12-18 เดือน โดยเฉลี่ย
ซึ่งปรากฏการณ์เอลนีโญจะมีอยู่ด้วยกัน 3 สภาพ นั่นก็คือ ร้อน เย็น และเป็นกลาง โดยสภาวะร้อนจะเกิดขึ้นทุก ๆ 2-7 ปี ที่ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและทำให้อุณหภูมิของโลกเรานั้นอบอุ่นขึ้น ซึ่งหากนึกถึงเหตุการณ์ที่ปรากฏการณ์เอลนีโญนั้นรุนแรงที่สุด ก็คงจะต้องนึกย้อนกลับไปในปี 2016 ที่ปรากฏการณ์เอลนีโญเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้อุณหภูมิโลกร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์
นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังเกิดขึ้นในรอบนี้อาจจะทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นอีกถึง 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งก็สามารถทำลายสถิติในปี 2016 ไปได้ง่าย ๆ เลย จึงทำให้ทั่วโลกต้องเตรียมพร้อมในการรับมือต่อปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
4 แนวทางการรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญ
ปรากฏการณ์เอลนีโญมาถึง สิ่งที่พวกเรากลัวก็คือเรื่องของ
ปัญหาความแห้งแล้งที่อาจทำให้เกิดความยากลำบากต่อการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อโลกมีความร้อนมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้การใช้ ชีวิตของเราเปลี่ยนไป ซึ่งจะมีผลกระทบไปยังเศรษฐกิจโดยรวมเหมือนกัน
อีกทั้งยังทำให้ธรรมชาติเกิดการขาดความสมดุลเป็นเหตุให้ทั้งต้นไม้ และสัตว์เล็กใหญ่เกิดปัญหาทางชีวภาพได้อีกเช่นเดียวกัน เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญนี้มีผลกระทบทั้งต่อพืช สัตว์ และการใช้ชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นเราจึงได้นำเอาแนวทางในการรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญมาฝากกัน
1. ใช้น้ำอย่างประหยัด
ในช่วงปรากฏการณ์เอลนีโญ การใช้น้ำอย่างประหยัดรวมไปถึงเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ การทำอาหาร หรือการทำธุระส่วนตัวที่จะต้องใช้น้ำทั้งสิ้น โดยไม่ควรใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือยและเกินความจำเป็น เพราะนอกจากจะไม่เป็นการประหยัดน้ำแล้วก็ยังส่งผลต่อเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากยิ่งขึ้นในช่วงที่ประสบปัญหาภัยแล้งนี้ไปได้อีกด้วย
2. ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถทำได้หลากหลายวิธี อย่างการทำอาหารที่เรานั้นมักจะล้างผักผ่านทางซิงค์ล้างจาน ก็ให้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการนำเอาภาชนะ หรือกะละมัง มารองในการล้างผักผลไม้ และนำเอาน้ำที่ใช้นั้นมารดต้นไม้ได้อีกครั้ง เป็นต้น ซึ่งก็จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้น้ำโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำในการรดต้นไม้เพิ่มได้นั่นเอง
3. ปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น
เป็นเรื่องจริงที่การปลูกต้นไม้นั้นจำเป็นจะต้องใช้เวลา ถึงอย่างนั้นในตอนที่ต้นไม้เริ่มโต และผลิใบเขียวขจีออกมาก็เท่ากับว่ามันเริ่มที่จะฟอกอากาศในบริเวณนั้นได้แล้ว เป็นการเพิ่มความร่มรื่นให้กับบริเวณบ้าน ที่จะสามารถลดการใช้ไฟจากการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมไปได้ในตัวอีกด้วย อีกทั้งการปลูกต้นไม้นี้ก็ยัง
ช่วยลดมลพิษทางอากาศที่อาจทำให้เกิดโรคในช่วงปรากฏการณ์เอลนีโญแบบนี้ได้อีกเช่นเดียวกัน
4. ลดการสร้างมลพิษทางอากาศ
ปรากฏการณ์เอลนีโญมักทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้นทั่วโลก ปัญหาที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันเลยก็คือเรื่องของการใช้รถยนต์ ยิ่งมีจำนวนของรถบนถนนมากไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือจักรยานยนต์นั้น ก็จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากท่อไอเสียที่ยิ่งทำให้สภาพอากาศของโลกถูกทำลาย และส่งผลให้อุณหภูมิโลกร้อนมากยิ่งขึ้น
การหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาใช้ขนส่งสาธารณะแทน ซึ่งอาจจะต้องเปลี่ยนแนวทางการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ก็จะช่วยลดจำนวนรถยนต์บนถนนได้ดี ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาของมลพิษทางอากาศได้อีกหนึ่งทาง หากมองในแง่ดีเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญให้เบาลงได้
ต้องยอมรับว่าปรากฏการณ์เอลนีโญนี้นั้นสร้างความวิตกกังวลให้กับหลาย ๆ อาชีพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร เพราะภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญสามารถส่งผลกระทบในเรื่องฝนขาดช่วง และไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
ดังนั้นพวกเราจะต้องเตรียมรับมือกับการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญนี้ อีกทั้งทุก ๆ หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรที่จะเข้ามาสอดส่องดูแลเพื่อทำให้เรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันรวมไปถึงการประกอบอาชีพต่าง ๆ นี้สามารถที่จะขับเคลื่อนได้ต่อไป โดยการเตรียมแผนการรองรับที่สามารถใช้ได้จริง และเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับความเสียหายสูงสุด เพื่อทำให้เศรษฐกิจนั้นไม่เกิดการสั่นคลอน และสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ในตัว อย่างไรก็ตามการเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้นลดน้อยลงได้อีกเช่นเดียวกัน