"เทรนด์ท่องเที่ยวใหม่" กับวิธีการเจาะกลุ่มตลาดคนมีเงินของญี่ปุ่น

ถ้าผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบญี่ปุ่นมาก ๆ (แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) และมีเงินเป็นถุงเป็นถัง ผมจะรู้สึกอยากมีประสบการณ์แบบนั้นสักครั้งในชีวิตนะ แต่ก่อนจะเริ่มเก็บเงินให้ครบ 1 ล้านเยนผมอยากชวนเพื่อน ๆ มาอ่านก่อนว่า ประสบการณ์เข้าพักในปราสาทญี่ปุ่นที่ผมเกริ่นมานี้คืออะไร ให้อะไรกับคนเข้าพักบ้าง ปราสาทที่ไหน และเหตุใดถึงมีแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบนี้ ไปอ่านกันเลย

ถ้าทางการญี่ปุ่นเค้าส่งบัตรเชิญมาให้ผมไปเข้าพักในปราสาทญี่ปุ่น เชื่อมั้ยครับว่าผมสามารถตอบตกลงใจภายในเสี้ยววินาทีว่า “ไปแน่นอน” เพราะนี่คือปรากฏการณ์ครั้งแรกในญี่ปุ่นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักในปราสาทจริง ๆ ได้ ซึ่งเป็นโปรเจกต์การท่องเที่ยวที่ก่อตั้งขึ้นโดยบริษัท Value Management บริษัทญี่ปุ่นที่มีปณิธานที่จะสืบสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ให้อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นต่อไปตราบนานเท่านาน ซึ่งปราสาทที่บริษัท Value Management เลือกในครั้งนี้คือ ปราสาทโอะซุ (OZU CASTLE) ที่ตั้งอยู่ในเมืองโอะซุ จังหวัดเอฮิเมะ พื้นที่ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ปราสาทโอะซุมีประวัติศาสตร์เก่าแก่มาก ถูกก่อสร้างครั้งแรกในสมัยคามากูระ (ค.ศ.1185-1333) ตามจารึกทางประวัติศาสตร์ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของปราสาทที่มีชื่อว่า Sadayasu Kato

จนในยุคเมจิพบว่าปราสาทแห่งนี้ได้ถูกทำลายเกือบทั้งหมด แต่ก็ได้รับการบูรณะอย่างสมบูรณ์อีกครั้งในปี 2004 ซึ่งทำด้วยไม้ และใช้วิธีก่อสร้างแบบดั้งเดิม จึงทำให้ทุกคนสามารถยลโฉมความสวยงามของปราสาทโอะซุในรูปแบบดั้งเดิมได้ในปัจจุบัน

ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าพักในปราสาทโอะซุอยู่ที่ 550,000 เยน/คน/คืน (ราคารวมภาษี) และมีเงื่อนไขว่าต้องเข้าพักอย่างน้อย 2 คน ทำให้การสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวนี้ต้องมีเงินมากกว่า 1 ล้านเยนถึงจะเข้าพักได้ และถ้าต้องการเข้าพักมากกว่า 2 คน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 110,000 เยน/คืน/คน สำหรับผู้ใหญ่ (ชั้นมัธยมต้นขึ้นไป), 55,000 เยน/คืน/คน สำหรับนักเรียนชั้นประถม และ 33,000 เยน/คืน/คน สำหรับเด็กเล็ก และเข้าพักได้สูงสุด 6 คนเท่านั้นครับ ซึ่งหลังจากเปิดตัว Ozu Castle Stay หรือประสบการณ์เข้าพักในปราสาทโอะซุไปในวันที่ 23 กรกฎาคม 2020 ก็ได้รับความสนใจมาจากสื่อทั่วโลก

มีบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งสนใจจัดทริปค้างคืนปราสาทโอะซุ ทำให้ชื่อเสียงเมืองโอะซุซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทโอะซุ ดังขึ้นมาชั่วข้ามคืน แต่ก็น่าเสียดายเหมือนกันที่หลังเปิดตัวได้ไม่นาน ทั่วโลกประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ประสบการณ์เข้าพักในปราสาทที่เชื่อว่าจะต้องดังมาก ๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศต้องชะงักลง เพราะมีการระงับการเดินทางของคนต่างชาติเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น แต่ระหว่างการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเองให้ความสนใจมากกับประสบการณ์การเข้าพักในปราสาท เพราะในหมู่คนญี่ปุ่นเองก็ไม่มีใครเคยมีประสบการณ์พักในปราสาทแน่นอน เพราะที่นี่เป็นที่แรกและที่เดียวในตอนนั้น

จากการหาข้อมูลจาก ozucastle.com เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการของปราสาทโอะซุเค้าเล่าว่า นอกจากประสบการณ์สุดพิเศษในการนอนในปราสาทที่ทุกคนวาดภาพเอาไว้แล้ว เค้าได้จัดแพลนไว้อย่างละเอียดลออมาก เพื่อให้แขกทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ย้อนเวลากลับไปเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญของปราสาทแห่งนี้

15:30 เดินทางถึงที่พัก พร้อมเปลี่ยนเครื่องแต่งกายสวมชุดเกราะญี่ปุ่นประหนึ่งเราเป็นคนสำคัญของปราสาทแห่งนี้

17:00 เข้าร่วมพิธีต้อนรับที่จัดไว้เพื่อให้เกียรติผู้เข้าพัก ในขั้นตอนนี้คณะต้อนรับจะมีการยิงปืนต้อนรับด้วย

18:00 ชมการแสดงดนตรีชั้นสูง และศิลปะดั้งเดิม

18:30 ทานมื้อเย็นภายในปราสาท

20:30 ชื่นชมตัวปราสาทยามค่ำคืนจากบริเวณ Lounge ที่จัดเตรียมให้

22:30 ประสบการณ์นอนในตัวปราสาทประหนึ่งว่าคุณคือผู้บัญชาการทหารของปราสาทแห่งนี้

7:30 ทานมื้อเช้าที่ Garyu Sanso ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น

9:30 เที่ยวชมเมืองโอะซุ

โดยก่อนที่จะเกิดมาเป็นโปรเจกต์ดังกล่าว บริษัท Value Management มองเห็นว่า เมืองโอะซุแม้จะเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ มีปราสาทและมีสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมมากมาย แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ฉะนั้น จึงต้องคิดหาโปรเจกต์ที่ช่วยจุดพลุให้เมืองโอะซุเป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงปิ๊งไอเดียการจัดแพ็กเกจเข้าพักในปราสาทโอะซุนี้

ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นที่เปิดโอกาสให้คนนอกทั้งคนญี่ปุ่นและคนต่างชาติเข้าพักในปราสาทได้ พร้อมสัมผัสประสบการณ์พิเศษไม่เหมือนใคร จึงกลายเป็นที่รู้จักและบอกต่อกันเป็นวงกว้างในปัจจุบัน นอกจากความน่าสนใจในแพ็กเกจการเข้าพักในปราสาทโอะซุแล้ว ผมรู้สึกสนใจในความคิดริเริ่มพยายามผลักดันให้โปรเจกต์ที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดได้ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศญี่ปุ่น แล้วการออกแบบประสบการณ์ที่จะมอบให้กับผู้เข้าพักก็มีความพิเศษสมกับที่คนร่ำลือมาตลอดว่า ธุรกิจท่องเที่ยวในญี่ปุ่นได้รับความไว้วางใจจากคนทั่วโลก เพราะความใส่ใจในรายละเอียดแบบนี้ ก็ได้แต่หวังว่าสักวันจะได้มีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์แบบนี้บ้าง คงประทับใจไม่มีวันลืมเลือนแน่นอน