เกิดเป็นมนุษย์เงินเดือนหาเช้ากินค่ำ อย่าเพิ่งท้อถอยว่าแต่ละปีได้รับแค่เงินเดือนกับโบนัส เพราะถ้าคุณรู้จักต่อยอดลงทุน และหาเทคนิคทำให้เงินก้อนที่ได้รับงอกเงยขึ้น รับรองว่าบัญชีเงินเก็บของคุณก็สามารถเติบโตได้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน
ใกล้สิ้นปีแล้ว สำหรับมนุษย์เงินเดือนถือเป็นช่วงเวลาที่รอคอยมานานนับแรมปี เพราะไม่ใช่แค่วันหยุด แต่ช่วงเวลาปลายปียังมีอะไรที่รออีกหลายอย่าง เช่น ปลายปีแล้วจะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนดี ปีหน้าจะได้ปรับตำแหน่งหรือเปล่า รวมทั้งสิ่งที่รอมานานคือ “เงินโบนัส” นั่นเอง
โบนัส คือ เงินค่าตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้กับพนักงานเมื่อบริษัทมีผลประกอบการที่ดี เป็นเงินก้อนที่แยกออกจากเงินเดือน เพื่อเป็นแรงจูงใจและกระตุ้นพนักงานให้มีกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไป แต่ละบริษัทจะมีหลักการในการจ่ายโบนัสแตกต่างกันไป เช่น จ่ายให้ 1 - 2 ครั้งต่อปี จ่ายให้ตามผลงานพนักงาน หรือจ่ายเท่ากันทุกคน แต่ไม่ว่าบริษัทจะมีหลักการจ่ายอย่างไร มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ยังเฝ้ารอคอยและอยากเห็นเงินเข้าบัญชีไว ๆ
สำหรับบางคนเงินโบนัสคือเงินเก็บ บางคนคือเงินใช้หนี้ บางคนคือรางวัลที่จะมอบให้กับตัวเอง แต่มีคนไม่น้อยเลยที่มองเห็นโอกาสจากเงินก้อนนี้ เพราะหากมองว่าเป็นแค่เงินเก็บ เงินก้อนนี้ก็จะลดค่าไปตามอัตราเงินเฟ้อ ถ้าเป็นเงินใช้หนี้ เงินก้อนนี้ก็จะหมดไปในพริบตา หรือถ้าจะให้รางวัลกับตัวเอง เงินก้อนนี้ก็คือความสุข ที่ประทับความทรงจำดี ๆ ไว้
แล้วคนที่มองเห็นโอกาสจากเงินก้อนนี้ล่ะ เขาจะได้อะไรจากเงินก้อนนี้บ้าง?
คนที่มองเห็นโอกาสในเงินโบนัส คือ คนที่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า จะทำให้เงินโบนัสก้อนนี้งอกเงยขึ้นมาได้อย่างไร บทความวันนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้เงินโบนัสเพิ่มเท่านั้นนะ ส่วนคนที่วางแผนใช้เงินโบนัสเรียบร้อยแล้ว ก็ลองฟังไว้เป็นไอเดียสำหรับไว้เพิ่มโบนัสปีหน้า ก็ไม่ว่ากัน
1. แบ่งเงินโบนัสมาลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม
การลงทุนในหุ้น คือ การซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยตัวเราจะเป็นคนจัดการบริหารและดูแลเอง ส่วนการลงทุนในกองทุนรวม คือ การนำเงินไปฝากลงทุน โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็นคนบริหารเงินแทนตัวเรา ผลตอบแทนที่จะได้รับจากทั้งสองวิธี จะได้จากเงินปันผล และส่วนต่างของราคาที่ซื้อมากับราคาที่ขายไป
วิธีการเพิ่มเงินโบนัสวิธีนี้ทำได้ง่าย ๆ คือ นำเงินในส่วนของโบนัสไปซื้อหุ้นไว้นั่นเอง ซึ่งโบนัสจะเพิ่มขึ้นมาได้ ก็ต่อเมื่อหุ้นที่ซื้อมานั้นได้แจกเงินปันผล เงินเพิ่มส่วนนี้เหมือนการได้ดอกเบี้ยจากธนาคารนั่นละ เพราะแม้จะได้รับเงินปันผล แต่เงินทุนก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิม และโบนัสที่จะเพิ่มมาอีกส่วน จะได้รับก็ต่อเมื่อขายหุ้นในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อ เช่น ซื้อมาหุ้นละ 9 บาท ขายไปหุ้นละ 12 บาท จะได้ส่วนกำไรหรือโบนัสเพิ่มมาหุ้นละ 3 บาท แต่การได้โบนัสเพิ่มโดยการขายหุ้นนี้ จะไม่มีทุนคงเหลือแล้วนะ เพราะได้ขายหุ้นออกไปด้วยแล้ว
ดังนั้น หากต้องการเพิ่มโบนัสโดยการลงทุนในหุ้นให้ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ก็ควรจะเลือกซื้อหุ้นที่มีทั้งเงินปันผลและมีแนวโน้มว่าราคาจะสูงขึ้นด้วย ที่สำคัญวิธีการลงทุนแบบนี้ต้องใจเย็นสักหน่อย ไม่ควรนำเงินโบนัสทั้งก้อนมาเทลงทุนในหุ้นทั้งหมด ควรจะแบ่งเงินเหลือไว้ในกระเป๋าเผื่อไว้ยามฉุกเฉินบ้าง หรือมือใหม่ทั้งหลายลองอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ
มือใหม่หัดเล่นหุ้นกับการเปิดบัญชีหุ้น เพื่อเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน
2. แบ่งเงินโบนัสไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า
อสังหาริมทรัพย์ที่นิยมลงทุน ได้แก่ ที่ดิน คอนโดฯ บ้าน ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ หรืออาคารสำนักงาน การเพิ่มโบนัสวิธีนี้ จะทำโดยการไปลงทุนซื้อบ้าน ที่ดิน คอนโดฯ ทาวน์โฮม หรืออาคาร แล้วนำอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ไปปล่อยเช่ารายวัน รายเดือน
สิ่งที่ควรระวังก็คือ ต้องศึกษาทำเลและกลุ่มผู้เช่าให้ดีก่อนที่จะเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพราะจะทำให้ปล่อยเช่าได้ง่าย และได้ราคาเช่าสูง คือ ถ้าได้อสังหาริมทรัพย์มาราคาถูก อยู่ในทำเลที่จะปล่อยเช่าได้ง่ายและได้ราคาดี จะส่งผลให้ได้รายได้ดี นั่นคือจะได้โบนัสเพิ่ม แบบทุนทรัพย์ยังคงเหลือให้เก็บกินทั้งชาติเลยละ
3. แบ่งเงินโบนัสไปเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์
วิธีนี้เป็นที่นิยมกันมาก เพราะใช้เงินน้อย เวลาน้อย ผลตอบแทนสูง ทำได้โดยการซื้อใบจองอสังหาริมทรัพย์แล้วขายใบจอง ผลตอบแทนได้จากส่วนต่างของราคาที่ซื้อใบจองและราคาขายใบจอง
แม้วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดูเหมือนจะลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูง แต่เป็นวิธีที่ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ค่อนข้างสูง เป็นต้นว่า ต้องรู้ทำเล ชื่อเสียงของโครงการ ต้องรู้ช่วงเวลาในการจะปล่อยใบจองเพื่อทำกำไร เป็นต้น
4. แบ่งเงินโบนัสไปลงทุนต่อยอดทำธุรกิจ
การมีเงินก้อนเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ได้เริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ต้องเริ่มจากการมีเงินลงทุนด้วยกันทั้งนั้น เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์ การขายของออนไลน์ หรือธุรกิจค้าขายทุกประเภท การทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องลงมือทำด้วยตัวเอง คนทำงานประจำไม่น้อยมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจที่ไม่ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง เพียงแค่มีเงินก้อนในการลงทุนเท่านั้น เช่น ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟ หรือลงทุนเซ้งล็อกขายของในตลาดนัดแล้วจ้างคนขาย เอาเวลาเลิกงานมาดูแลเล็กน้อย แค่นี้ก็มีเงินเพิ่มมาแบบสบาย ๆ
5. แบ่งเงินโบนัสไปลงทุนในทองคำ
การลงทุนในทองคำก็คล้ายกับการลงทุนในหุ้น แต่วิธีการทำง่ายกว่าตรงที่ไม่จำเป็นต้องไปเปิดพอร์ตหรือเสียเวลานั่งบริหารพอร์ตเหมือนหุ้น เพียงแค่เอาเงินไปซื้อทองคำมาเก็บไว้ แล้วรอวันที่ทองคำราคาสูงกว่าราคาตอนที่ซื้อ ถ้าพอใจในส่วนต่าง ก็สามารถนำทองไปขาย และรับเงินโบนัสเพิ่มง่าย ๆ ชิลล์ ๆ
6. แบ่งเงินโบนัสไปซื้อต้นไม้ปลูก
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง อาจจะเป็นวิธีเพิ่มเงินโบนัสที่ทุกคนมองข้ามไป คิดว่าเป็นไปไม่ได้ หรือไม่คุ้มค่า แต่มาลองฟังกันก่อน การมีที่ดินเปล่าถ้าอยู่ในทำเลที่ปล่อยเช่าได้ก็ดีไป จะได้ปล่อยเช่าแล้วเก็บค่าเช่ารายเดือนหรือรายวันได้ แต่ถ้าที่ดินนั้นห่างไกลถนนไกลผู้คนล่ะ จะทำประโยชน์จากที่ดินนั้นได้อย่างไร การปลูกต้นไม้เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดิน เพราะการซื้อต้นกล้าที่ใช้เงินเพียงหลักสิบ พอเวลาผ่านไปสิบปี เงินหลักสิบจะเปลี่ยนเป็นเงินหลักหมื่นได้ทันที เนื่องจากปัจจุบันต้นไม้ในป่าธรรมชาติมีเหลือน้อย มูลค่าของต้นไม้นับวันจึงมีแต่จะสูงขึ้น การมีต้นไม้ก็เปรียบได้กับการมีทองนั่นแหละ เพราะไม่เพียงแต่ต้นไม้จะช่วยลดโลกร้อนได้ แต่ต้นไม้ยังจะสร้างรายได้ได้ด้วย
แม้ว่าจะเป็นวิธีเพิ่มโบนัสแบบง่าย ๆ วิธีหนึ่ง แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่มีความรู้ในการปลูกและดูแลต้นไม้ เพราะต้นไม้เมื่อปลูกลงไปในดิน ก็ย่อมต้องการการดูแลเอาใจใส่สักระยะหนึ่งจนกว่าจะตั้งตัวได้
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับคนที่กำลังมองหาโอกาสจากเงินโบนัสก้อนโต ก็คงได้ไอเดียไปเพิ่มโบนัสกันแล้วใช่ไหมล่ะ ส่วนคนที่เผลอใช้เงินโบนัสไปล่วงหน้า ก็ไม่ต้องโอดครวญไป ไว้ปีหน้าฟ้าใหม่ สามารถเอาไอเดียเหล่านี้ไปลงมือเพิ่มโบนัสกันได้ แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ขอให้ทุกคนศึกษาเรียนรู้ให้รอบคอบก่อนที่จะลงทุน เพื่อจะได้ทำให้โบนัสเพิ่มขึ้นมาจริง ๆ ไม่สูญเปล่าไปกับการลงทุนที่ขาดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง