สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย

ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก
1.89%*
ประเมินหลักประกัน
ฟรี**
ค่าจดจำนอง
ฟรี***
ส่วนลดอัตราดอกเบี้ย
0.25%****
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 3.830% - 5.732% ต่อปี*

*สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 18 ส.ค. 68 = 6.870% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน Fact sheet คลิก
**ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68)
***ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น
****เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สมัครสินเชื่อบ้านกรุงศรี

กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

This site is protected by reCAPTCHA and the Google
Privacy Policy and Terms of Service apply.

สมัครสินเชื่อบ้านออนไลน์ กู้เงินซื้อบ้าน

สำหรับคนที่กำลังวางแผนกู้ซื้อบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่ หรือบ้านมือสอง และกำลังมองหาธนาคารที่ให้สินเชื่อบ้าน พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุด มาที่ธนาคารกรุงศรี คือคำตอบที่เหมาะกับคุณ เราเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบให้คุณเลือกสรร ด้วยบริการกู้ซื้อบ้าน การขอสินเชื่อผ่อนบ้านกับธนาคารที่มีด้วยกันหลากหลายประเภท สมัครง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้คุณได้กู้เงินซื้อบ้านใหม่หรือกู้เงินสร้างบ้านได้ตามความต้องการ

นอกจากนี้ คุณสามารถใช้เครื่องมือคำนวณสินเชื่อบ้าน เพื่อช่วยวางแผนการเงินของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น
  • คำนวณเงินผ่อนบ้าน
  • คำนวณค่างวดบ้าน
  • คิดดอกเบี้ยบ้านเบื้องต้น

เพียงคลิกที่ “เครื่องมือคำนวณสินเชื่อ” แล้วกรอกข้อมูล ระบบจะแสดงผลการคำนวณผ่อนบ้านเบื้องต้นให้คุณเห็นทันที
 

3 เหตุผลในการเลือกสินเชื่อกู้ซื้อบ้านกับกรุงศรี

  1. อัตราดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกกู้ธนาคารซื้อบ้าน ซึ่งที่ธนาคารกรุงศรี เราให้อัตราดอกเบี้ยกู้บ้านต่ำ สำหรับทั้งบ้านใหม่จากโครงการและบ้านมือสองที่จะซื้อต่อจากคนอื่น ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านได้มากขึ้น
  2. เงื่อนไขของเงินกู้ : เงื่อนไขของเงินกู้ เช่น วงเงินการกู้ ระยะเวลาการผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ก็มีความสำคัญเช่นกัน ที่ธนาคารกรุงศรีเราพร้อมให้วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่* หรือวงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินสำหรับบ้านมือสอง และผ่อนสบาย ๆ สามารถชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี**
    *สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารสนับสนุน (Platinum Developers) (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)
    **ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี
  3. บริการลูกค้า : ธนาคารกรุงศรี เราพร้อมเป็นคู่คิดในการวางแผนขอสินเชื่อ ด้วยพนักงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการลูกค้าทุกคนด้วยใจ ยินดีให้คำแนะนำและตอบคำถามทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการกู้เงินซื้อบ้าน การจำนองบ้านกับธนาคาร หรือการขอลดดอกเบี้ยบ้าน หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมโทร 1572 ในทุกวันทำการ

สูตรคำนวณดอกเบี้ยกู้บ้าน

สูตรคำนวณดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านแบบลดต้นลดดอก

ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น = เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวด / จำนวนวันใน 1 ปี*
เงินต้นลดลง = จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในงวดนั้น - ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น
เงินต้นคงเหลือ (เพื่อคำนวณดอกเบี้ยงวดถัดไป) = เงินต้นคงเหลือจากงวดก่อน - เงินต้นลดลง

*จำนวนวันใน 1 ปี ขึ้นกับการกำหนดของสถาบันการเงิน ซึ่งอาจเป็น 360 วัน 365 วัน หรือ 366 วันก็ได้ แต่ไม่ว่าจะกำหนดจำนวนเป็นเท่าใดก็ตาม สถาบันการเงินจะต้องใช้จำนวนวันเดียวกันสำหรับการคำนวณทั้งดอกเบี้ยจ่าย เช่น เงินฝาก และดอกเบี้ยรับ เช่น สินเชื่อ

ตัวอย่าง

คุณกู้สินเชื่อไปในวงเงิน 2,000,000 บาท ผ่อนชำระเงินต้นงวดแรกไปแล้ว 100,000 บาท เงินต้นคงเหลือ 1,900,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ผ่อนชำระทั้งหมด 20 ปี หรือ 240 งวด จะใช้สูตรต่อไปนี้
ดอกเบี้ยของงวดที่สอง (สมมติเดือนนั้นมี 30 วัน)
(1,900,000 x 4% X 30) / 365 = 6,246.57 บาท
เงินต้นลดลง
เงินต้นลดลง = ยอดผ่อนชำระต่อเดือน - ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น
100,000 - 6,246.57 = 93,753.43 บาท
เงินต้นคงเหลือสำหรับงวดที่ 3
เงินต้นคงเหลือ = 1,900,000 - 93,753.43 = 1,806,246.57 บาท
และทำเช่นนี้ต่อไปในงวดถัด ๆ ไป ดอกเบี้ยจะลดลงเรื่อย ๆ

ข้อดีของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก

  • จ่ายเงินต้นมากขึ้น ดอกเบี้ยลดลงเร็ว
  • ลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว
  • สามารถโปะเงินต้นเพิ่ม เพื่อลดดอกเบี้ยได้

เลือกสินเชื่อบ้านที่ไหนดี ? สินเชื่อจากธนาคารกรุงศรีคือคำตอบที่ใช่

ธนาคารกรุงศรี เรามีความมุ่งมั่นที่พร้อมมอบบริการและทางเลือกที่ดีที่สุด ให้สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินสร้างบ้านใหม่ กู้เงินเพื่อซื้อบ้านมือสอง หรือการจำนองบ้านกับธนาคาร เรามีแพ็กเกจสินเชื่อบ้านที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
  • สมัครง่าย ผ่านช่องทางออนไลน์
  • คำนวณเงินผ่อนบ้านได้เองก่อนตัดสินใจ
  • ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง ผ่อนสบาย

เลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะกับคุณได้ที่ ธนาคารกรุงศรี แล้วทำให้บ้านในฝันเป็นจริงได้วันนี้ ! เข้ามาดูรายละเอียดข้อมูลเบื้องต้น ลักษณะเด่นจากบริการของเรา คุณสมบัติของผู้กู้ รวมถึงช่องทางการสมัครสินเชื่อได้ดังนี้
ขายบ้านต่อ แนะนำต่อ ได้หลายต่อ

รายละเอียด

  • บุคคลธรรมดา ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
  • พนักงานประจำที่มีอายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป (งานปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
  • ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวและประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
  • ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้และซึ่งสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ได้
  • อัตราดอกเบี้ยบ้านมือสองและบ้านมือหนึ่งต่ำ
  • วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่*
    หรือวงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินสำหรับบ้านมือสอง
  • อนุมัติเร็ว
  • สบายๆ กับการผ่อนชำระนานได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี)

*สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการ Top Group / Super Prime 1-A (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)

สิทธิพิเศษ สำหรับผู้ใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0.25% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
ประเภท จำนวนเงินที่เรียกเก็บ ช่องทางการชำระเงิน
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน
(วงเงินกู้รวมต่อหลักประกันไม่เกิน 100 ล้านบาท)
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
3,210 บาท ต่อหลักประกัน
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
เบี้ยประกันอัคคีภัย
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ตามอัตราของบริษัทประกัน ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
เพื่อสาขาทำการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทประกันภัย
ค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ
ค่าอากรแสตมป์
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
คิด 0.05% ของวงเงินกู้
(ไม่เกิน 10,000 บาท)
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
ค่าจดจำนอง
(เรียกเก็บ ณ วันจดจำนองที่กรมที่ดิน)
คิด 1% ของทุนจำนอง  
ค่าเบี้ยปรับกรณีปิดภาระหนี้ก่อนกำหนด
(เมื่อลูกค้ารีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่นภายใน 3 ปีแรก นับจากวันทำสัญญา)
คิด 3% ของยอดหนี้คงเหลือ -

ช่องทางการสมัคร

สาขาทั่วประเทศ (ในวันทำการ)

ค้นหาสาขา

ติดต่อทีมสินเชื่อบ้านกรุงศรี

โทรศัพท์ : 1572

เอกสารประกอบการสมัคร

  • สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนสมรส/ หย่า/ ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
  • สำเนาใบประกอบวิชาชีพที่ถือไม่น้อยกว่า
    2 ปี และยังไม่หมดอายุ สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ(ถ้ามี)
กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
  • หนังสือรับรองการทำงาน หรือสำเนาสลิปเงินเดือน (ฉบับล่าสุด) (สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • หนังสือรับรองโบนัสประจำ (ถ้ามี)
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (50 ทวิ และ ภงด.90/91) พร้อมใบเสร็จการชำระภาษีย้อนหลัง 2 ปี
กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
  • สำเนา ภ.พ.30 พร้อมใบเสร็จ (ถ้ามี)
  • สำเนา ภ.พ.20 (ถ้ามี)
  • สำเนาบริคณห์สนธิ ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ขนาดเท่าตัวจริงทุกหน้า)
  • ใบอนุญาตปลูกสร้าง / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่น สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน (ทด.13) หรือหนังสือสัญญาให้ที่ดิน (ทด.14 )
  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และหลักฐานการจ่ายชำระเงินดาวน์ (ถ้ามี)
  • สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน (กรณีถ้ามีสัญญาเงินกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอื่นและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ)
  • แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป

ดาวน์โหลดเอกสาร

 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Platinum Developers ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ใหม่จากโครงการในกลุ่ม Platinum Developers ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ใหม่จากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่หรือบ้านมือสอง) สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (อาคารพาณิชย์ใหม่/อาคารพาณิชย์มือสอง) สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่/บ้านมือสอง) จากโครงการทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (อาคารพาณิชย์ใหม่/อาคารพาณิชย์มือสอง) ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68
PDF
รวมโปรโมชันสินเชื่อกรุงศรี
ดูแลจนสุดทาง
ทุกสินเชื่อ จัดมาครบ ที่กรุงศรี
พิเศษฉลองครบรอบ 80 ปี
ยกขบวนโปรโมชันจัดเต็มทุกสินเชื่อ
รายละเอียดเพิ่มเติม

คำถามที่พบบ่อย

สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) รายละ 3,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) รายละ 3,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

what-is-mrr-thumb
รอบรู้เรื่องบ้าน

MRR คืออะไร และอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สำคัญอย่างไรในการกู้บ้าน

การมีบ้านเป็นของตัวเองคือความฝันของใครหลายคน แต่การผ่อนบ้านซึ่งเป็นภาระผูกพันระยะยาว 20-30 ปีนั้น มีเรื่องของ <strong>&ldquo;อัตราดอกเบี้ย&rdquo;</strong> เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ โดยเฉพาะ <strong>&ldquo;อัตราดอกเบี้ยลอยตัว&rdquo;</strong> ที่เปรียบเสมือนคลื่นในทะเลการเงิน สามารถปรับขึ้นลงได้ตลอดเวลา ส่งผลโดยตรงต่อค่างวดในแต่ละเดือน การทำความรู้จักกับ MRR ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่สำคัญ จึงเป็นกุญแจดอกแรกที่จะช่วยให้เราวางแผนการเงิน และเลือกสินเชื่อบ้านได้อย่างชาญฉลาด ไม่ต้องกังวลกับภาระที่อาจเพิ่มขึ้นโดยไม่คาดคิดในอนาคต<br /> <br /> การมีบ้านเป็นของตัวเองคือความฝันของใครหลายคน แต่การผ่อนบ้านซึ่งเป็นภาระระยะยาว 20&ndash;30 ปี ย่อมมาพร้อมสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ นั่นคือ <strong>&ldquo;อัตราดอกเบี้ย&rdquo;</strong> โดยเฉพาะ <strong>&ldquo;อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรือ MRR&rdquo;</strong> ที่เปรียบเสมือนคลื่นในทะเลการเงิน สามารถขึ้นหรือลงได้ตลอดเวลา และส่งผลโดยตรงต่อค่างวดบ้านของเราในแต่ละเดือน<strong>การเข้าใจ อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรือ MRR (Minimum Retail Rate)</strong> ซึ่งถือเป็นกุญแจดอกแรกที่จะช่วยให้เราวางแผนการเงิน และเลือกสินเชื่อบ้านได้อย่างมั่นใจมากขึ้น <strong>Krungsri The COACH</strong> จะมาช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น พร้อมชี้ทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อให้คุณก้าวสู่การมีบ้านในฝันได้อย่างมั่นใจ <div class="ar-category"> <div class="accordion" id="ar-drop"> <div class="row"> <div class="col-12"> <div id="ar-category"> <div class="card bg-transparent"> <div aria-expanded="false" class="card-header arrow active collapsed" data-bs-target="#collapse-26012" data-bs-toggle="collapse" id="heading26012"> <h3><button class="btn btn-link btn-ar-drop" type="button">คลิกอ่านหัวข้อที่สนใจ</button></h3> </div> <div class="collapse" data-bs-parent="#ar-drop" id="collapse-26012" style=""> <div class="card-body"> <ul class="ar-ul add-dot"> <li><a href="#title-1">MRR คืออะไร</a></li> <li><a href="#title-2">ดอกเบี้ย MRR แตกต่างกับ MLR และ MOR อย่างไร ?</a></li> <li><a href="#title-3">ดอกเบี้ยลอยตัวต่างจากดอกเบี้ยประเภทอื่นอย่างไร ?</a></li> <li><a href="#title-4">ทำไมต้องเข้าใจ MRR และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวก่อนขอสินเชื่อบ้าน ?</a></li> <li><a href="#title-5">Krungsri The COACH แนะนำ​ : สินเชื่อบ้านกรุงศรี ตัวช่วยให้การมีบ้านเป็นเรื่องง่าย</a></li> </ul> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>MRR คืออะไร</h2> </div> MRR (Minimum Retail Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยรูปแบบลอยตัว (Floating Rate) ที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี ส่วนใหญ่จะใช้คำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยอัตราดอกเบี้ยชนิดนี้มักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น นโยบายการบริหารทรัพย์สินและหนี้สินของธนาคาร การแข่งขันของตลาด เป็นต้น<br /> &nbsp; <center><img alt="กู้ด้วยดอกเบี้ย mrr สำหรับสินเชื่อบ้าน" class="img-fluid" height="434" loading="lazy" src="/getmedia/460694c9-df57-464f-9447-f05458e4dd21/what-is-mrr-image-detail.jpg.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" width="650" /></center> <br /> นั่นเป็นสาเหตุว่า ทำไมบางคนที่ยื่นขอสินเชื่อบ้านอาจพบว่าธนาคารมีการกำหนดอัตรา MRR -0.25% บ้าง -0.50% บ้าง หรืออาจเป็นตัวเลขที่ต่างกันออกไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงก็จะขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารในช่วงนั้น ๆ<br /> <br /> ท่านสามารถอ่านรายละเอียด เกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงอัตราดอกเบี้ย MRR ล่าสุดในปัจจุบันของธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ที่<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/rates/loan-rates/for-loans" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'article','event_action':'click_Text','event_label':'อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม'});" target="_blank">อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม</a> เพื่อนำไปพิจารณาคำนวณสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล ประกอบการตัดสินใจตามความสามารถในการผ่อนชำระของเรา <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-2"> <h2>ดอกเบี้ย MRR แตกต่างกับ MLR และ MOR อย่างไร ?</h2> </div> นอกจาก MRR แล้ว เรามักจะได้ยินชื่อ MLR และ MOR ควบคู่กันไปด้วยเสมอ แม้ทั้งหมดจะเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเหมือนกัน แต่มีการนำไปใช้กับกลุ่มลูกค้า และประเภทสินเชื่อที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate)</strong></span></h3> เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่มีประวัติทางการเงินที่ดี โดยธนาคารจะนำ MRR มาใช้เป็นฐานในการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ดอกเบี้ย MLR (Minimum Loan Rate)</strong></span></h3> เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ซึ่งมักเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีประวัติทางการเงินมั่นคง และมีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่เพียงพอ โดยจะใช้กับสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจที่มีกำหนดระยะเวลาการกู้ยืมที่แน่นอน และยาวนาน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate)</strong></span></h3> เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีเช่นกัน แต่จะใช้กับสินเชื่อประเภท วงเงินเบิกเกินบัญชี (Overdraft) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ทำให้ธนาคารต้องใช้เกณฑ์การพิจารณาที่เข้มงวดเป็นพิเศษ <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-3"> <h2>ดอกเบี้ยลอยตัวต่างจากดอกเบี้ยประเภทอื่นอย่างไร ?</h2> </div> ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) และ อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) คือความแน่นอนในการจ่ายค่างวด<br /> <br /> <strong>อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate)</strong> ให้ความแน่นอน เพราะค่างวดไม่เปลี่ยนตลอดช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 3 ปีแรก ช่วยให้วางแผนการเงินได้ง่าย<br /> <br /> ส่วน <strong>อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate)</strong> เช่น MRR จะปรับขึ้นหรือลงตามสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายธนาคาร ทำให้ค่างวดในระยะยาวอาจไม่เท่ากัน <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-4"> <h2>ทำไมต้องเข้าใจ MRR และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวก่อนขอสินเชื่อบ้าน ?</h2> </div> เพราะโปรโมชันดอกเบี้ยต่ำมักมีผลเพียง 1&ndash;3 ปีแรก หลังจากนั้นจะปรับเป็นดอกเบี้ยลอยตัวอ้างอิงกับ MRR ซึ่งเป็นอัตราที่ส่งผลต่อค่างวดจริงตลอดสัญญา การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็อาจกระทบเงินหลายพันบาทต่อปี การรู้จัก MRR จึงช่วยให้เราวางแผนผ่อนบ้าน รีไฟแนนซ์ ได้ถูกเวลาและช่วยลดภาระหนี้ในระยะยาว <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>วิธีคำนวณเงินกู้ด้วยดอกเบี้ย MRR สำหรับสินเชื่อบ้านเบื้องต้น</h2> </div> เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองมาดูตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยบ้านที่นำอัตราดอกเบี้ย MRR เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยได้ดียิ่งขึ้น<br /> <br /> ตัวอย่าง : คุณ ก. ต้องการขอสินเชื่อบ้านในวงเงินกู้ 2,000,000 บาท MRR 7% โดยธนาคารมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ว่าปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5% ต่อปี ปีที่ 2 MRR -0.25%<br /> &nbsp; <div class="table-responsive"><!--icon click show on mobile--> <div class="d-block d-md-none box-hand_touch"><i class="fa fa-arrows hand_touch">&zwnj;</i><br /> &nbsp;</div> <!--End icon click show on mobile--> <table class="table table-scrollable"> <thead> <tr> <th>รายละเอียด</th> <th>ปีที่ 1</th> <th>ปีที่ 2</th> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td style="text-align: center;"><strong>วงเงินกู้</strong></td> <td style="text-align: center;">2,000,000 บาท</td> <td style="text-align: center;">2,000,000 บาท</td> </tr> <tr> <td style="text-align: center;"><strong>เงื่อนไขดอกเบี้ย</strong></td> <td style="text-align: center;">อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5%</td> <td style="text-align: center;">MRR - 0.25%</td> </tr> <tr> <td style="text-align: center;"><strong>อัตราดอกเบี้ยที่ใช้คำนวณ</strong></td> <td style="text-align: center;">5%</td> <td style="text-align: center;">7% - 0.25% = 6.75%</td> </tr> <tr> <td style="text-align: center;"><strong>ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปี</strong></td> <td style="text-align: center;">2,000,000 x 5% = 100,000 บาท</td> <td style="text-align: center;">2,000,000 x 6.75% = 135,000 บาท</td> </tr> </tbody> </table> </div> จากตัวอย่างการคำนวณสินเชื่อกู้บ้านด้านบนจะเห็นได้ชัดว่า ความแตกต่างของการคิดดอกเบี้ยทั้งสองแบบสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อดอกเบี้ยได้หลักหมื่นบาทเลยทีเดียว และยิ่งเวลาผ่านไปนานก็มีโอกาสที่ดอกเบี้ยบ้านจะเพิ่มขึ้นตามกลไกทางเศรษฐกิจ<br /> <br /> ดังนั้น ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านในยุคนี้ควรติดตามสถานการณ์อัตราดอกเบี้ย เพื่อใช้คำนวณเงินผ่อนบ้านเป็นระยะ ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการคำนวณดอกเบี้ยสำหรับซื้อบ้านมือหนึ่ง และดอกเบี้ยบ้านมือสอง รวมถึงพิจารณาเรื่องของการ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/refinance" target="_blank">รีไฟแนนซ์</a>เพื่อให้ได้อัตราเงินกู้ใหม่ที่ดีกว่าเดิม ลดภาระหนี้ในระยะยาว ผนวกกับการวางแผนการเงินระยะยาวเพื่อให้การบริหารจัดการเงินเกี่ยวกับบ้านและชีวิตประจำวันของคุณสามารถผสานเข้าด้วยกันได้ดีไม่มีสะดุด <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-5"> <h2>Krungsri The COACH แนะนำ​ : สินเชื่อบ้านกรุงศรี ตัวช่วยให้การมีบ้านเป็นเรื่องง่าย</h2> </div> การทำความเข้าใจเรื่อง MRR และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวจะช่วยให้คุณเลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด สำหรับผู้ที่กำลังมองหาข้อเสนอที่โดดเด่น และช่วยแบ่งเบาภาระในช่วงแรก Krungsri The COACH ขอแนะนำ <strong>&ldquo;<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/homeloan" target="_blank">สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อที่อยู่อาศัย</a>&rdquo;</strong> ที่มาพร้อมกับจุดเด่นมากมายเพื่อทำให้บ้านในฝันของคุณเป็นจริงได้ง่ายขึ้น <ul> <li><strong>ดอกเบี้ยคงที่ปีแรกสุดพิเศษ :</strong> ช่วยให้คุณวางแผนการเงินในช่วงเริ่มต้นของการมีบ้านได้อย่างสบายใจ คลายกังวลเรื่องค่างวดที่ผันผวน</li> <li><strong>ฟรีค่าประเมินหลักประกัน :</strong> ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายก้อนแรกในการดำเนินการขอสินเชื่อ ทำให้คุณมีเงินเหลือสำหรับตกแต่งบ้านมากขึ้น</li> <li><strong>ฟรีค่าจดจำนอง :</strong> ลดภาระค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างมาก เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด</li> <li><strong>ส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม :</strong> รับส่วนลดพิเศษในปีแรก เพิ่มความคุ้มค่าให้กับการผ่อนชำระของคุณ เมื่อซื้อประกันหรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรี</li> </ul> &nbsp; <center><a href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/homeloan#sec-leadform" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'krungsri_coach_article','event_action':'click_banner_article','event_label':'สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย'});" target="_blank"><img alt="สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย" class="img-fluid" height="182" loading="lazy" src="/getmedia/9bb83e38-b112-44c5-87c7-e19dcfd1bc5b/first-home-loan-for-thirty-cta.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" width="870" /></a></center> <br /> <em>กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 3.830% - 5.732% ต่อปี*<br /> <br /> *สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 18 ส.ค. 68 = 6.870% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/homeloan#section7" target="_blank">Fact sheet</a><br /> <br /> **ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 ก.ย. 68 &ndash; 31 ธ.ค. 68)<br /> <br /> ***ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น<br /> <br /> ****เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา</em><br /> <br /> การทำความเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะ MRR และความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยคงที่กับดอกเบี้ยลอยตัว ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่วางแผนจะกู้ซื้อบ้าน ความรู้นี้ไม่เพียงช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบข้อเสนอจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยให้วางแผนการเงินระยะยาว และเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของค่างวดในอนาคตได้อีกด้วย และเพื่อให้การวางแผนแม่นยำยิ่งขึ้น การใช้<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/calculator/home-calculator/repayment-amount-calculator" target="_blank">เครื่องมือในการคำนวณสินเชื่อ</a> จะช่วยให้เห็นภาพรวมของภาระค่าใช้จ่าย และตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ และครอบครัวได้<br /> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style>
ks-coach
3 Min Read
share
4 Steps กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย
รอบรู้เรื่องบ้าน

4 Steps กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย

<center><img alt="4 Steps กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/bf521bd8-c7a4-4728-a4e8-b6cccbef981f/4-step-home-loan-1.jpg.aspx" style="width: 100%;" /><img alt="4 Steps กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/355cf456-2de7-48ad-9963-f6ecc048cf60/4-step-home-loan-2.jpg.aspx" style="width: 100%;" /></center> <br /> การตัดสินใจซื้อบ้านในแต่ละครั้งนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตของเรามาก เพราะเป็นการซื้อทรัพย์สินครั้งใหญ่และคงไม่ได้มีโอกาสซื้อบ่อยๆ หลายๆคนก็อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน จึงเกิดความกังวลว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้เราสามารถกู้เงินได้อย่างไม่มีปัญหา มาดูขั้นตอนง่ายๆ ในการซื้อบ้านว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง&nbsp; <h4><strong>1. เตรียมเอกสารการกู้เงิน</strong></h4> <hr class="hry1" /> โดยปกติแล้วธนาคารจะขอข้อมูลและเอกสารต่างๆเพื่อดูว่าเราเป็นใคร ทำงานอาชีพอะไร มีรายได้เท่าไหร่ มีความสามารถในการกู้มากน้อยแค่ใหน และต้องการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านที่ไหน มูลค่าเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วเอกสารที่เราจะต้องเตรียมให้ครบนั้นจึงประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือนและบัญชีเงินฝากย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน และข้อมูลบ้านที่เราจะซื้อ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ โฉนดที่ดิน สัญญาจะซื้อจะขายหรือมัดจำ <h4><strong>2. หาอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเปรียบเทียบของแต่ละธนาคาร</strong></h4> <hr class="hry1" /> แน่นอนว่าในแต่ละธนาคารนั้นให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน เราควรจะต้องตรวจสอบและคำนวณความคุ้มค่าของแต่ละข้อเสนอของธนาคาร เช่น เปอร์เซ็นต์วงเงินกู้ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆที่เราต้องจ่าย ระยะเวลาในการกู้ ค่างวดผ่อนชำระเป็นต้น ในเบื้องต้นเราควรคำนวณดูว่าข้อเสนอลักษณะไหนที่เหมาะสมกับความต้องการของเรา และทำการยื่นขอกู้อย่างน้อย 3 ธนาคาร <h4><strong>3. ยื่นเอกสาร รอฟังผลกับทางธนาคารและเลือกธนาคารที่ตรงกับความต้องการ</strong></h4> <hr class="hry1" /> หลังจากที่เรายื่นเอกสารเพื่อขอกู้เงินกับทางธนาคารแล้ว ธนาคารจะทำการพิจารณาดอกเบี้ยและวงเงินตามความเสี่ยงและภาระของเรา หากเราเป็นลูกค้าชั้นดี มีภาระหนี้สินในชีวิตไม่มาก แถมเป็นคนหาเงินเก่งมีเงินเข้าอยู่ตลอดเวลา มีที่มาของรายได้ที่ชัดเจนและมีความมั่นคงธนาคารก็สามารถอนุมัติวงเงินกู้ได้มาก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าได้ ในทางกลับกันหากธนาคารมองเห็นความเสี่ยงทางการเงินเพราะมีรายได้ที่ไม่มั่นคง ไม่พร้อมที่จะเป็นหนี้ ธนาคารก็อาจจะปฏิเสธคำขอกู้เงินหรืออาจจะไม่ได้ให้วงเงินและดอกเบี้ยตามที่เราต้องการได้<br /> &nbsp;<br /> เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญมากๆในการวางแผนก็คือเราจะต้องรักษาประวัติและสร้างเครดิตที่ดีและเตรียมเอกสารที่แสดงถึงความสามารถในการหารายได้ของเราให้ได้พร้อมที่สุด ทั้งนี้เมื่อได้ผลอนุมัติการกู้เงินจากธนาคารต่างๆแล้ว ลองเปรียบเทียบกันดูอีกครั้งว่าข้อเสนอของแต่ละแห่งนั้นมีรายละเอียดแตกต่างอย่างไรบ้างและเราเหมาะสมกับแผนไหน แล้วจึงเลือกใช้บริการธนาคารที่เราเห็นว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด <h4><strong>4. ตรวจรับโอนบ้านและจดจำนอง</strong></h4> <hr class="hry1" /> เมื่อเงินกู้ได้รับการอนุมัติแล้วอย่าลืมนัดกับผู้ขายในการเข้าไปตรวจบ้านให้อยู่ในสภาพที่พร้อมโอน เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วก็ทำการนัดกันระหว่างเราในฐานะผู้ซื้อ ผู้ขายทรัพย์สิน และธนาคารที่เรากู้เงิน ไปทำเรื่องการซื้อขายและจดจำนองที่สำนักงานที่ดินอำเภอ ทุกอย่างจะดำเนินการต่อหน้าเจ้าหน้าที่ โดยธนาคารจะมอบเช็คเพื่อชำระเงินให้กับผู้ขาย ผู้ขายจะทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน โดยที่เราจะต้องทำการจดจำนองว่าธนาคารเป็นผู้ชำระเงินและเราเป็นลูกหนี้ธนาคารที่จะต้องชำระเงินกู้ตามสัญญา โฉนดฉบับจริงนั้นธนาคารจะเป็นผู้เก็บไว้จนกว่าเราจะผ่อนทรัพย์สินได้ทั้งหมด แล้วเราค่อยมาขอคืนในภายหลัง สิ่งที่เราจะได้รับคือกุญแจบ้านในการเข้าไปพักอาศัยได้<br /> <br /> เห็นไหมว่าการกู้เงินซื้อบ้านเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากอะไรเลย เพียงแค่เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการกู้ ตั้งแต่การเตรียมเอกสารเพื่อขอกู้ การเปรียบเทียบรายละเอียดของอัตราดอกเบี้ยและข้อมูลต่างๆที่สำคัญเพื่อให้เราสามารถกู้เงินได้ตรงตามความต้องการมากที่สุดเมื่อได้รับวงเงินกู้แล้วก็ทำการนัดผู้ขายและธนาคารมาทำเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนอง หลังจากนั้นเราก็จะมีบ้านเป็นของตัวเองได้ อย่าลืมสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการกู้เงินก็คือเราจะต้องรักษาประวัติทางการเงินของเราให้ดี<br /> <br /> บทความโดย<br /> ปริตา ธิติปรีชาพล<br /> กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล<br /> ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ks-coach
3 Min Read
share
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา