บ้านแลกเงิน คือการใช้บ้านหรือทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากธนาคาร เพื่อรับเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำและระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน สูงสุดถึง 30 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินจำนวนมาก เช่น การลงทุนในธุรกิจ หรือการซ่อมแซมบ้าน โดยไม่ต้องขายทรัพย์สิน
ในช่วงเวลาที่ต้องการเงินก้อนด่วน ไม่ว่าจะเพื่อนำไปขยายธุรกิจ รีโนเวทบ้าน จ่ายค่าเล่าเรียน หรือลงทุนโอกาสใหม่ ๆ หลายคนอาจมองหาทางเลือกที่ช่วยจัดหาเงินทุนอย่างคุ้มค่าและปลอดภัย ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ “บ้านแลกเงิน” หรือการใช้ทรัพย์สินที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อ ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนบ้านเป็นเงินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง รวมถึงค่างวดผ่อนต่ำกว่าเงินกู้ประเภทอื่น
บ้านแลกเงิน คืออะไร ?
บ้านแลกเงิน
Home for Cash คือ การนำบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีกรรมสิทธิ์ถูกต้อง มาค้ำประกันกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อขอสินเชื่อ โดยจะได้รับวงเงินอิงตามมูลค่าประเมินของทรัพย์สิน
เนื่องจากการใช้บ้านซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงเป็นหลักประกัน ทำให้มีโอกาสได้รับการพิจารณาวงเงินสูง และอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินกู้ประเภทที่ไม่มีหลักประกัน สินเชื่อบ้านแลกเงินจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนในจำนวนมาก และต้องการผ่อนชำระในระยะยาว
ประโยชน์ของสินเชื่อบ้านแลกเงิน
วงเงินกู้สูง
สินเชื่อบ้านแลกเงินให้วงเงินกู้ที่สูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป เพราะมีการใช้บ้านหรืออสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน วงเงินที่ได้รับจะอิงกับราคาประเมินของทรัพย์สิน ทำให้คุณสามารถขอสินเชื่อได้ตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน โดยไม่ต้องขายทรัพย์สินนั้นจริง ๆ
ดอกเบี้ยต่ำ
การมีบ้านเป็นหลักประกัน ทำให้ธนาคารสามารถเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ
ผ่อนชำระนาน
สินเชื่อบ้านแลกเงินมักมาพร้อมระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานสูงสุดถึง 30 ปี (ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร) ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนอยู่ในระดับที่บริหารได้ง่าย
ใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์
เงินที่ได้จากการ
ขอสินเชื่อบ้านแลกเงินสามารถนำไปใช้ได้กับหลายเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น
- รีโนเวทหรือซ่อมแซมบ้าน
- ลงทุนเปิดกิจการ
- จ่ายค่ารักษาพยาบาล
- ปิดหนี้บัตรเครดิตเพื่อรวมเป็นยอดเดียวที่ดอกเบี้ยต่ำ
- ส่งลูกเรียนต่อ หรือศึกษาต่อต่างประเทศ
เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
คุณยังคงเป็นเจ้าของบ้านหลังเดิม แต่สามารถเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นเงินสดหมุนเวียนในชีวิตประจำวันได้ ช่วยสร้างโอกาสในการลงทุนหรือแก้ปัญหาการเงินระยะสั้น โดยไม่ต้องเสียสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
บ้านแลกเงิน ธนาคารไหนดี ? สรุปสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือก
การเลือกธนาคารเพื่อขอสินเชื่อบ้านแลกเงินไม่ควรตัดสินใจจากอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อความคุ้มค่าในระยะยาว รวมถึงประสบการณ์ในการใช้บริการ โดยสิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้
อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ย คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนโดยรวมตลอดอายุสัญญา โดยทั่วไป สินเชื่อบ้านแลกเงินจะมีดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน แต่ผู้กู้ควรดูรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น
- อัตราดอกเบี้ยเป็นแบบคงที่ หรือแบบลอยตัว
- ดอกเบี้ยช่วงโปรโมชันเทียบกับช่วงถัดไป
- เงื่อนไขกรณีผิดนัดชำระ
วงเงินอนุมัติ
วงเงินที่อนุมัติ ควรพิจารณาจากสัดส่วนที่เทียบกับราคาประเมินบ้าน เช่น 70%-90% ของมูลค่าทรัพย์ โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารและประเภทบ้าน เช่น บ้านเดี่ยว คอนโด หรือทาวน์โฮม
หากคุณต้องการใช้เงินก้อนเพื่อเป้าหมายที่มีวงเงินแน่นอน เช่น ลงทุนธุรกิจ หรือรีโนเวทบ้าน การเลือกธนาคารที่อนุมัติวงเงินสูง จะช่วยลดภาระในการหาแหล่งเงินทุนจากที่อื่นเพิ่ม
ระยะเวลาผ่อน
ธนาคารแต่ละแห่งอาจให้ระยะเวลาผ่อนชำระแตกต่างกัน เช่น 10 ปี, 15 ปี ไปจนถึง 30 ปี ซึ่งระยะเวลาที่ยาวจะทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนต่ำลง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมที่มักพบในการขอสินเชื่อ ได้แก่
- ค่าประเมินราคาทรัพย์
- ค่าจดจำนอง
- ค่าดำเนินการสินเชื่อ
- ค่าอากรแสตมป์
บางธนาคารมีโปรโมชันฟรีค่าธรรมเนียมบางรายการ หรือมีการรวมค่าใช้จ่ายไว้ในวงเงินสินเชื่อ ซึ่งช่วยลดภาระในช่วงเริ่มต้นได้
บริการและความสะดวก
ยุคนี้ไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยถูกเท่านั้น แต่ประสบการณ์ของผู้ใช้ก็สำคัญ ดังนั้น ธนาคารที่ให้บริการรวดเร็ว เช่น มีช่องทางสมัครสินเชื่อทางออนไลน์ นัดประเมินทรัพย์เร็ว หรือมีทีมให้คำปรึกษาที่เข้าใจง่าย จะช่วยให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นเรื่องง่าย ไม่เครียด และไม่เสียเวลา
หากคุณกำลังเปรียบเทียบธนาคารต่าง ๆ แล้วมองหาความครบถ้วน ทั้งดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง ระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนาน และบริการที่รวดเร็ว
สินเชื่อบ้านแลกเงิน จาก ธนาคารกรุงศรี ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ทั้งในแง่ของความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือ
ตัวอย่างการใช้บริการบ้านแลกเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ
ลงทุนธุรกิจ
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ หรือผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการเงินทุนเพื่อขยายสาขา เพิ่มกำลังการผลิต หรือลงทุนซื้อเครื่องจักร สินเชื่อบ้านแลกเงินคือทางเลือกที่ช่วยให้คุณได้เงินก้อนในวงเงินสูง พร้อมดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินกู้ธุรกิจทั่วไป โดยไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกันหรือหลักทรัพย์เพิ่มเติม
รีไฟแนนซ์หนี้
สำหรับผู้ที่มีภาระหนี้ สินเชื่อรถ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยสูง การใช้บริการบ้านแลกเงินเพื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว แล้วผ่อนด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำลง สามารถช่วยลดภาระทางการเงินรายเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญ บ้านแลกเงินจึงเป็นกลยุทธ์รีไฟแนนซ์แบบมีหลักประกัน ที่ไม่เพียงช่วยให้คุณจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยให้เครดิตของคุณกลับมามั่นคงขึ้นในระยะยาว
ปรับปรุงที่อยู่อาศัย
หากคุณวางแผนจะรีโนเวท ซ่อมแซม หรือขยายพื้นที่ใช้งานในบ้าน เช่น ต่อเติมห้องครัว เพิ่มห้องนอน หรือทำเป็นโฮมออฟฟิศ การขอสินเชื่อบ้านแลกเงินคือวิธีจะช่วยให้คุณมีเงินทุน โดยไม่ต้องกระทบเงินออมที่มีอยู่
วางแผนอนาคต
การศึกษาและวัยเกษียณ เป็นสองสิ่งสำคัญที่ควรวางแผนล่วงหน้า หากคุณต้องการเงินทุนสำหรับส่งบุตรหลานเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือศึกษาต่อต่างประเทศ บริการบ้านแลกเงินจะช่วยให้คุณสามารถเตรียมเงินก้อนสำหรับค่าเทอมได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินกู้เพื่อการศึกษา
ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่วางแผนใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างไร้กังวล บ้านแลกเงินก็สามารถเป็นทางเลือกในการเปลี่ยนทรัพย์สินให้เป็นเงินบำนาญสำรอง เพื่อนำไปใช้จ่ายด้านค่าครองชีพ หรือค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในอนาคตได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องขายบ้านหรือรบกวนเงินออมที่มีอยู่
บ้านแลกเงินจึงไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นเครื่องมือในการวางแผนอนาคตสำหรับคุณและคนที่คุณรัก โดยใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกช่วงชีวิต
ทำไมสินเชื่อบ้านแลกเงินจากธนาคารกรุงศรีถึงตอบโจทย์ ?
- ให้วงเงินกู้สูงสุด 85% ของราคาประเมิน หรือสูงสุด 10 ล้านบาท
- อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด 3 ปีแรก 5.50% ต่อปี*
- ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 30 ปี ช่วยลดภาระรายเดือน
- สมัครสะดวก ผ่านช่องทางออนไลน์และสาขาทั่วประเทศ
*สำหรับวงเงินกู้ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 6.086% - 9.645% ต่อปี**
**สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 18 ส.ค. 68 = 6.870% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ขั้นตอนการสมัครบ้านแลกเงินกับธนาคารกรุงศรี
- เตรียมประวัติทางการเงินให้พร้อม โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีประวัติหนี้เสีย เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ
- เตรียมเอกสารสำหรับยื่นให้ธนาคารพิจารณา ได้แก่
- เอกสารข้อมูลบุคคล เพื่อใช้ยืนยันตัวตนของผู้กู้ ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
- เอกสารแสดงรายได้ ได้แก่ หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง
- เอกสารด้านหลักประกันฯ สำหรับใช้ยืนยันหลักทรัพย์ในการขอสินเชื่อ ได้แก่ สำเนาโฉนดที่ดิน และแผนที่ตั้งหลักประกันที่ต้องการกู้สินเชื่อบ้านแลกเงิน
- ยื่นเอกสารสมัครสินเชื่อที่สาขา หรือกรอกข้อมูลบนเว็บไซต์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
- หลังได้รับเอกสารเรียบร้อย ทางธนาคารจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอน โดยเริ่มตั้งแต่การส่งเจ้าหน้าที่ประเมินหลักประกันไปประเมินสภาพบ้าน ประกอบการพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ตามมูลค่าทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน หลังจากนั้นจะใช้เวลาต่ออีกประมาณ 1-2 สัปดาห์สำหรับการพิจารณาและแจ้งผลการอนุมัติ
- หากผู้กู้พึงพอใจกับวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ก็สามารถเข้ามาทำการเซ็นสัญญา และดำเนินการจดจำนองที่ดิน ณ สำนักงานที่ดินใกล้บ้านได้ทันที
สรุปได้ว่า บ้านแลกเงินเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถใช้ทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยให้คุณ
เปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเงื่อนไขที่คุ้มค่าและปลอดภัย
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการสมัครสินเชื่อบ้านแลกเงินที่น่าเชื่อถือ โปร่งใส และพร้อมให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ ธนาคารกรุงศรีมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลคุณตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร ไปจนถึงการอนุมัติ เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกกระบวนการ
ศึกษารายละเอียดบนเว็บไซต์ หรือกรอกข้อมูลสมัครสินเชื่อทางออนไลน์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของเราติดต่อกลับได้เลย
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
อ้างอิง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านแลกเงินของแต่ละธนาคารจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ประเภทบ้าน วงเงินกู้ ระยะเวลาผ่อน และประวัติเครดิตของผู้กู้
ธนาคารกรุงศรีมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านแลกเงิน Home for Cash ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่อยู่ที่ 5.50% ต่อปี* ในช่วงเวลา 3 ปีแรก สำหรับวงเงินกู้ 5 ล้านบาทขึ้นไป
คุณสมบัติพื้นฐานที่ธนาคารส่วนใหญ่ใช้พิจารณา ได้แก่
- สัญชาติไทย
- อายุระหว่าง 20-70 ปี
- มีรายได้สม่ำเสมอ และสามารถแสดงเอกสารประกอบได้
- เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน
ทั้งนี้ เงื่อนไขเฉพาะอาจแตกต่างกันไปตามประเภทสินทรัพย์หรือรายละเอียดของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งธนาคารกรุงศรีมีทีมเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมสำหรับแต่ละกรณี
ธนาคารกรุงศรีรับพิจารณาสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันได้ เช่น
- บ้านเดี่ยว
- ทาวน์เฮาส์
- คอนโดมิเนียม
- อาคารพาณิชย์
- ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
โดยทรัพย์สินต้องมีกรรมสิทธิ์ถูกต้อง และตรงตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด เช่น พื้นที่ใช้สอย อายุทรัพย์ และที่ตั้ง ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินเบื้องต้นก่อนยื่นขอสินเชื่อได้
ขั้นตอนทั่วไปของการขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ได้แก่
- ตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น
- ยื่นเอกสารประกอบการพิจารณา เช่น เอกสารแสดงรายได้ และโฉนดบ้าน
- ธนาคารดำเนินการประเมินหลักประกัน
- พิจารณาวงเงินและแจ้งผล
- ทำสัญญาและจดจำนอง
- โอนเงินเข้าบัญชี
วงเงินสินเชื่อบ้านแลกเงินจะพิจารณาจากมูลค่าประเมินของหลักประกัน ซึ่งอาจสูงสุดถึง 80%-90% ขึ้นอยู่กับประเภทและทำเลของทรัพย์สิน รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ
ซึ่งธนาคารกรุงศรีให้วงเงินกู้สูงสุด 85% ของราคาประเมิน หรือ สูงสุด 10 ล้านบาท
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของลูกค้า
- หากต้องการเงินก้อนเพิ่มเติมเพื่อใช้จ่ายในโอกาสต่าง ๆ เช่น ลงทุน ขยายธุรกิจ หรือใช้จ่ายส่วนตัว บ้านแลกเงิน เป็นทางเลือกที่เหมาะสม
- แต่หากมีสัญญากู้บ้านเดิมและต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือภาระผ่อนต่อเดือน การรีไฟแนนซ์บ้านจะตอบโจทย์มากกว่า
ลูกค้าสามารถปรึกษาธนาคารกรุงศรีเพื่อประเมินทางเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเองได้
จากประสบการณ์ของลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อบ้านแลกเงินจากธนาคารกรุงศรี พบว่ามีข้อดีดังนี้
- วงเงินอนุมัติสูง
- อัตราดอกเบี้ยต่ำ
- ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี
- เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลชัดเจน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วน โดยไม่ต้องขายทรัพย์สินออกไป
นอกจากนี้ ระบบการสมัครที่รองรับทั้งช่องทางออนไลน์และสาขาทั่วประเทศ ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น