ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เงินเฟ้อพุ่งสูง ค่าครองชีพและต้นทุนค่าก่อสร้างก็เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาบ้านเดี่ยวใกล้ตัวเมืองปรับตัวสูงขึ้นมากจนทำให้ความฝันในการซื้อบ้านเดี่ยวทำได้ยาก ถ้าจะซื้อบ้านที่อยู่ไกลออกไปก็เดินทางไม่สะดวก หลายคนจึงเริ่มมองหาทางออกด้วยการเลือกซื้อคอนโดในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้คอนโดกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังสร้างตัวซึ่งเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่เข้าถึงได้ ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับรูปแบบการใช้ชีวิต แต่การ
กู้เงินซื้อคอนโดเป็นการกู้แล้วต้องผ่อนระยะยาว ทำให้เกิดความกังวลว่า กู้ได้แล้วจะผ่อนไหวหรือไม่ วันนี้ Krungsri The COACH จะพาทุกคนไขข้อสงสัยผ่านบทความนี้ พร้อมแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนกู้ซื้อคอนโด หลักการเลือกทำเลที่เหมาะสม รวมถึงวิธีทำอย่างไรให้เราสามารถผ่อนคอนโดได้ตลอดรอดฝั่ง
หลักในการพิจารณาเลือกซื้อคอนโด
การเลือกซื้อคอนโดเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ เราจึงต้องวางแผนและศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อให้ได้คอนโดที่ตรงกับใจเรา โดยสามารถพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ทำเลที่ตั้ง
ควรอยู่ใกล้ที่ทำงาน ที่เรียน สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล ร้านอาหาร การเดินทางสะดวกสบาย และสำหรับคนที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่อลงทุน ควรพิจารณาทำเลที่มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือปล่อยเช่าได้ง่ายตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย
2. ประเภทของคอนโด
เลือกให้เหมาะกับการใช้ชีวิต หากต้องการความเป็นส่วนตัวอาจจะเหมาะกับคอนโดแบบ Low Rise ที่มี 8 - 9 ชั้น แต่ถ้าต้องการวิวมุมสูง มองเห็นทัศนียภาพได้ไกลก็ควรเลือกคอนโดแบบ High Rise ที่มี 20 ชั้นขึ้นไปเป็นต้น แต่ก็จะแลกมาด้วยค่าส่วนกลางที่แตกต่างกัน ยิ่งจำนวนยูนิต หรือจำนวนห้องน้อย ก็มีโอกาสจ่ายค่าส่วนกลางสูง โดยทั่วไปแล้วคอนโดแบบ High-rise จะมีจำนวนยูนิตมาก ทำให้มีจำนวนคนช่วยหารค่าใช้จ่ายมากกว่า เมื่อเฉลี่ยออกมาแล้วอาจจ่ายค่าส่วนกลางถูกกว่าคอนโดแบบ Low-rise บางแห่งเสียอีก
3. เจ้าของโครงการ
ควรเลือกเจ้าของโครงการคอนโดที่มีชื่อเสียง ผลงานน่าเชื่อถือ มีการรับประกันผลงาน และมีนิติบุคคลที่มีความใส่ใจในการดูแลลูกบ้าน และสามารถบำรุงรักษาให้โครงการอยู่ในสภาพที่ดีต่อไปในอนาคต
4. สิ่งอำนวยความสะดวก
อุปกรณ์ส่วนกลาง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย ที่จอดรถยนต์ คอนโดหลาย ๆ แห่งมีที่จอดรถไม่เต็ม 100% ต้องดูวิธีการจัดการที่จอดรถร่วมด้วย สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า อย่าลืมพิจารณาจำนวนที่จอด สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากันด้วย
5. ราคาและค่าใช้จ่าย
ในปัจจุบันคอนโดมีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น เราควรเปรียบเทียบความคุ้มค่าของคอนโดในบริเวณใกล้เคียงกันด้วยการทดลองสำรวจบริเวณโครงการใกล้เคียง โดยสามารถสำรวจเบื้องต้นผ่านเว็บไซต์ก่อน เพื่อจะได้ประหยัดเวลา รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าเช่าที่จอดรถ ค่าส่วนกลาง เพื่อจะได้วางแผนเก็บเงินได้อย่างถูกต้อง
นอกจากปัจจัยทั้ง 5 ข้อแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ขนาดห้อง ทิศทางของห้อง เป็นต้น และอย่าลืมว่า การตัดสินใจซื้อคอนโดเป็นการลงทุนระยะยาว ควรศึกษาเปรียบเทียบข้อเสนอจากโครงการต่าง ๆ ให้เหมาะกับการใช้ชีวิตและความต้องการ
ควรผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไร
หลังจากเลือกคอนโดที่ชอบได้แล้ว การผ่อนคอนโดเป็นการผ่อนหนี้ระยะยาว ถ้ากู้เงินมากเกินไปหรือยอดผ่อนชำระต่อเดือนมากไปอาจทำให้ผ่อนไม่ไหวในระยะยาว แล้วแบบนี้เราควรจะผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไรดี อ้างอิงตามหลักในการวางแผนการเงิน
“ค่าใช้จ่ายในการผ่อนทั้งหมด ไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน”
ค่าใช้จ่ายในการผ่อนทั้งหมดไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน หมายถึง เมื่อรวมรายจ่ายจากการผ่อนชำระหนี้ทุกรายการ ทั้งผ่อนรถยนต์ ผ่อนบ้าน ผ่อนโทรศัพท์มือถือ และอื่น ๆ รวมแล้วไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน เพราะถ้าค่าใช้จ่ายในการผ่อนทั้งหมดเกิน 40% ของเงินเดือน อาจทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาหนี้สินต่อไปในอนาคต
เช่น เงินเดือน 30,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการผ่อน ไม่ควรเกิน 40% x 30,000 = 12,000 บาทต่อเดือน เงินเดือน 40,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการผ่อน ไม่ควรเกิน 40% x 40,000 = 16,000 บาทต่อเดือน
คำถาม : ถ้าเงินเดือน 30,000 บาท แล้วมี OT อีก 10,000 บาท รวมเป็น 40,000 บาท จะผ่อนได้ 16,000 บาทต่อเดือนใช่หรือไม่
คำตอบ : ไม่ควรนำ OT มาร่วมคำนวณ เนื่องจาก OT เป็นเงินได้ที่ไม่แน่นอน หากในอนาคต OT ลดลงอาจทำให้ผ่อนคอนโดไม่ไหว
คำถาม : ค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถยนต์ ผ่อนโทรศัพท์ และอื่น ๆ รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายในการผ่อนต่อเดือนหรือไม่
คำตอบ : ค่าใช้จ่ายในการผ่อนเมื่อรวมทั้งหมดแล้วไม่ควรเกิน 40% ของเงินได้ เช่น จากตัวอย่างเงินเดือน 40,000 บาท ไม่ควรผ่อนเกิน 16,000 บาทต่อเดือน หากในปัจจุบันผ่อนรถยนต์อยู่เดือนละ 10,000 บาท จะเหลือวงเงินให้ผ่อนคอนโดเดือนละไม่เกิน 6,000 บาท
ผ่อนคอนโดเดือนละหลักพัน ซื้อคอนโดราคาเท่าไรดี
หลังจากที่เรารู้แล้วว่า เราไม่ควรผ่อนคอนโดเกิน 40% ของเงินเดือน ต่อมาเรามาดูกันต่อว่า แล้วถ้ามีเงินผ่อนคอนโดเดือนละเท่านี้ จะได้
กู้ซื้อคอนโดได้ราคาเท่าไร Krungsri The COACH ขอแนะนำตัวเลขเพื่อใช้คำนวณแบบง่าย ๆ โดยที่คอนโดราคา 1,000,000 บาท จะมีค่าผ่อนคอนโดอยู่ที่ประมาณ 6,400 บาทต่อเดือน แต่ต้องบอกว่าตัวเลขนี้เป็นเพียงการคำนวณเบื้องต้นแบบคร่าว ๆ เท่านั้น เพราะค่าผ่อนคอนโดอาจสูงกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาผ่อนและอัตราดอกเบี้ยด้วย ซึ่งสามารถสรุปเป็นตัวอย่างได้ ดังนี้
กรณีที่ 1: A เงินเดือน 16,000 บาท ส่วน B เงินเดือน 24,000 บาท ทั้งคู่ไม่มีการผ่อนอื่น ๆ ทำให้สามารถผ่อนคอนโดได้สูงสุดตามเพดานการผ่อน 40%
กรณีที่ 2: C เงินเดือน 30,000 ส่วน D เงินเดือน 45,000 บาท ทั้งคู่มียอดผ่อนอย่างอื่นร่วมด้วย ทำให้เพดานในการผ่อนคอนโดลดลงจาก 40% เหลือเพียง 20% กว่า ๆ เท่านั้น แม้ว่าเงินเดือนของ C และ D จะสูงกว่า A และ B ก็ตาม แต่เมื่อมียอดผ่อนอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็จะทำให้กู้คอนโดได้ในราคาที่เท่า ๆ กับ A และ B เช่นกัน
จากตารางข้างบนสามารถสรุปได้ว่า หากต้องการกู้คอนโดให้ได้เต็มความสามารถในการผ่อน ผู้กู้ไม่ควรมีภาระหนี้สินรวมต่อเดือนเกิน 40% ของเงินเดือน หากมีภาระหนี้สินอื่นอยู่แล้ว จะทำให้วงเงินกู้ซื้อคอนโดลดลง และหากเงินเดือนอยู่ระหว่าง 16,000 – 24,000 บาท แนะนำให้ไม่มีภาระหนี้สินเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถผ่อนคอนโดหลักพันได้ตามที่ต้องการ
เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับซื้อคอนโดแม้เงินเดือนน้อย
หากคำนวณตามค่าที่แนะนำ ราคาคอนโดที่กู้ได้จะค่อนข้างต่ำ อาจทำให้ไม่สามารถซื้อคอนโดได้ตามที่ต้องการ แต่ยังมีวิธีอื่นที่ทาง Krungsri The COACH นำมาฝากเพื่อให้ยังสามารถซื้อคอนโดได้จริง ดังนี้
1. เก็บเงินดาวน์เพิ่มเติม
โดยปกติการซื้อคอนโดจะต้องมีการวางเงินดาวน์ประมาณ 10 - 15% ของราคาซื้อคอนโดแต่ถ้าหากเราสามารถเก็บเงินดาวน์ได้มากขึ้น ทำให้ต้องการเงินกู้น้อยลง เช่น ต้องการซื้อคอนโดราคาประมาณ 1,500,000 บาท แต่ด้วยเงินเดือนในปัจจุบันสามารถซื้อคอนโดราคาประมาณ 1,000,000 บาท หากเราสามารถเก็บเงินดาวน์ 500,000 บาท เราก็จะสามารถซื้อคอนโดที่ต้องการได้
2. หารายได้เสริมเพิ่มเงินดาวน์
เพื่อช่วยให้สามารถเก็บเงินดาวน์ได้เร็วขึ้น และถ้ารายได้เสริมนั้นสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องก็จะกลายเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้ในอนาคตได้อีก
3. มองหาคอนโดมือสอง
กรณีที่ไม่สามารถเก็บเงินดาวน์เพิ่มได้ อาจจะต้องเริ่มมองหาคอนโดมือสองที่มีราคาถูกกว่าเดิม แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการตรวจสภาพห้อง และเตรียมเงินสำหรับการปรับปรุงซ่อมแซมเพิ่มเติม
หลังจากที่พยายามเก็บเงินดาวน์ หารายได้เสริม หรือหา
ซื้อคอนโดมือสองได้เป็นที่เรียบร้อย อย่าลืมว่าเตรียมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น ค่าตกแต่งประมาณ 10% ของราคาคอนโด ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ค่าประกัน และอื่น ๆ กันด้วย
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินเชื่อสำหรับซื้อคอนโด Krungsri The COACH ขอแนะนำ
สินเชื่อคอนโดของธนาคารกรุงศรี
จุดเด่นที่น่าสนใจ ของสินเชื่อคอนโดกรุงศรี
- ดอกเบี้ยต่ำสุดคงที่ปีแรก 2.50% ต่อปี
- ฟรี ค่าประเมินหลักประกันมูลค่า 3,210 บาท ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567
- ฟรี ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินอนุมัติ ไม่เกิน 200,000 บาท ตามเงื่อนไขของธนาคาร
- วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับซื้อคอนโดใหม่ จากกลุ่มโครงการที่กำหนดตามเงื่อนไขของธนาคาร
นอกจากนี้ ทางกรุงศรียังมีเครื่องมือคำนวณสินเชื่อ สามารถใช้คำนวณผ่อนคอนโดได้ ให้ทำการทดลองคำนวณความสามารถในการกู้เงินเพียงใส่ข้อมูลรายได้ต่อเดือน ภาระหนี้ต่อเดือน และจำนวนปีที่ขอกู้ ระบบจะทำการประเมินเบื้องต้น ถึงจำนวนเงินที่สามารถกู้ได้ รวมถึงยอดผ่อนชำระต่อเดือน เราจะได้รู้ล่วงหน้าว่าด้วยสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน เราจะผ่อนไหวหรือไม่ ต้องผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไร
การซื้อคอนโดเป็นความฝันของหลายคน แต่อย่าลืมว่า หลังจากกู้ซื้อคอนโด เราจะต้องผ่อนชำระหนี้ระยะยาว ไม่ควรผ่อนเกิน 40% ของเงินเดือน นอกจากจะเตรียมเงินสำหรับกู้เงินซื้อคอนโดแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมเงินสำหรับตกแต่งเพิ่มเติมด้วย และถ้ากำลังมองหาสินเชื่ออย่าลืม สินเชื่อบ้านกรุงศรี สุดท้ายอย่าลืมกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหวกันนะทุกคน
อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.42% - 5.81% ต่อปี*
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่
สินเชื่อคอนโดธนาคารกรุงศรี
อ้างอิง