คุณเคยเข้าไปในร้านค้าแล้วเห็นสิ่งของที่คุณอยากได้ แต่ราคาอาจจะไม่ตรงใจคุณสักเท่าไหร่ บางทีซื้อมาแล้วก็กลัวไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป หรือบางทีก็กลัวว่าจะเจอสินค้าเดียวกันในร้านอื่น ๆ แต่จะทำไงได้ล่ะ คุณอยากจะซื้อเดี๋ยวนี้นี่ เรามีเคล็ดลับในการพูดเจรจาต่อรองขอส่วนลดง่าย ๆ ที่คุณเองก็สามารถทำได้ง่าย ๆ
อย่างแรกคุณจะต้องสร้างความเป็นมิตร
พูดคุยกับแม่ค้าพนักงานขายด้วยความสุภาพ และชมเชย ตัวผลิตภัณฑ์สินค้าของทางร้าน หรือการตกแต่งร้าน เช่น ผมรักการตกแต่งร้านของคุณมาก มันดูอบอุ่นเป็นกันเอง และอยากจะได้สินค้าจากร้านคุณมาไว้ที่บ้านของผมมาก
รู้จักการสังเกตคำพูด ถ้อยคำ น้ำเสียง
เพื่อจะได้รู้ว่าควรใช้วิธีการพูดอย่างไรจึงจะเหมาะสม เช่น พูดคุยกับแม่ค้าที่เป็นผู้ใหญ่ อาจจะใช้น้ำเสียงที่ดูให้เกียรติ และมีบุคลิกที่น่าเอ็นดู หรือพูดคุยกับแม่ค้าที่ดูเคี่ยวมาก ๆ ก็ไม่ควรที่จะต่อราคาเยอะจนเกินไป
มีอารมณ์ขัน
เมื่อเจอแต่ลูกค้าหน้าหงิกโดนเหวี่ยงมาทั้งวัน การที่เราเข้าไปซื้อของที่ร้าน และสร้างบรรยากาศขำขันคลายเครียด จะทำให้แม่ค้าพนักงานขายประทับใจ เผลอ ๆ อาจให้ส่วนลดเรามาเองเลยก็ได้
สืบราคาสินค้ามาแล้วบ้าง
หากเป็นสินค้าที่อยากได้มากจริง ๆ เราก็ควรเช็คราคาสินค้า เทียบราคากับร้านอื่นมาไว้บ้าง เพื่อที่เราจะได้เปรียบเทียบราคา และไม่ได้ต่อราคาของจนเกินจริง
อย่านำสินค้าไปเปรียบเทียบกับร้านอื่น
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการเปรียบเทียบราคาสินค้ากับร้านอื่นให้คนขายฟัง จะทำให้คนขายอยากลดราคาให้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนขายจะรู้สึกเหมือนโดนหยามนิด ๆ ประมาณว่าถ้าเห็นว่าสินค้าร้านอื่นดีกว่า หรือขายถูกกว่าแล้วจะมาซื้อร้านฉันทำไม เป็นต้น วิธีการนี้ นอกจากจะไม่ได้ลดราคาจากคนขายแล้ว ยังอาจโดนด่าไล่หลัง หรือชักสีหน้าได้
ส่วนลดมีค่ามากกว่าของแถม
แม่ค้าบางคนชอบหลอกล่อด้วยการให้ของแถมแทนการลดราคา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ของแถมอาจจะมีมูลค่าน้อยกว่าราคาสินค้าที่เรากำลังต่อรองอยู่ แต่จนแล้วจนรอดหากเขาไม่ยอมลดราคาให้เราก็ควรคว้าของแถมไว้ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
อย่าต่อรองจนคนขายเกือบขาดทุน
จริง ๆ แล้วสินค้าแต่ละชิ้นนั้น การบวกลบกำไรไม่เท่ากัน บางตัวกำไรอาจจะถึง 50-100% เช่น สินค้าจำพวกเสื้อผ้า เป็นต้น แต่สินค้าบางตัวถูกจำกัด ให้บวกกำไรเพิ่มจากต้นทุนได้เพียง 8-15% เท่านั้น บางครั้งการลดราคาของคนขาย ลูกค้าอาจจะมองว่าน้อยนิด แต่มันอาจจะมีผลต่อการอยู่รอดของกิจการเขาได้เลยทีเดียว
ทางที่ดีเราควรต่อราคาสินค้าแค่พอหอมปากหอมคอ ให้นึกถึงใจเขาใจเราด้วย เผื่อครั้งหน้าเราอยากจะกลับมาซื้อสินค้ากับเขาใหม่ เขาจะได้เห็นใจเรา และลดราคาให้เรามากขึ้น เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างแม่ค้าและลูกค้านั่นเอง