เชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนหลายคนคงมีคำถามเกี่ยวกับแนวทางการลงทุนให้มีเงินเหลือใช้ ซึ่งไม่สำคัญว่าคุณจะมีเงินเดือนมากน้อยแค่ไหน เพราะการลงทุนอย่างชาญฉลาดต้องอาศัยทั้งความรู้ วินัยทางการเงิน และความอดทนเพื่อรอคอยผลตอบแทนที่คุ้มค่า สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นวางแผนการลงทุนตั้งแต่วันนี้เพื่อให้เงินทำงานแทนคุณ แม้จะตั้งต้นด้วยจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยก็สามารถงอกเงยเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ในอนาคต
ถ้าคุณกำลังอยากรู้แนวทางการลงทุนสำหรับมนุษย์เงินเดือนเพื่อให้มีเงินเหลือใช้ บทความนี้มีคำตอบ
แนวทางการลงทุนสำหรับมนุษย์เงินเดือน
ต่อไปนี้ คือ แนวทางการลงทุนที่เราอยากแนะนำให้มนุษย์เงินเดือนทุกคนลองนำไปปรับใช้ เพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติมและมีเงินเหลือใช้ไม่ขาดแคลน
1. วางแผนลงทุนอย่างน้อย 15% ของรายได้
เมื่อได้รับเงินเดือนให้หักเงินประมาณ 15% เพื่อใช้สำหรับการลงทุนทุกเดือนตามกฎ 50/15/5 คือ แบ่ง 50% ของรายได้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น 15% สำหรับการลงทุนเพื่อเกษียณอายุ และอีก 5% เก็บออมไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน
โดยเงิน 15% ที่ใช้ลงทุนจะกลับมาให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่ากว่าเดิมอีกหลายเท่าในภายหลัง หากคุณกลัวว่าจะลืมหรือขาดวินัยในการลงทุนให้ตั้งค่าหักบัญชีแบบอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการลงทุนของคุณจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด
2. หลีกเลี่ยงการลงทุนเพียงแหล่งเดียว
หากคุณพบว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินหรือหุ้นของบริษัทหนึ่งทำกำไรได้ดีเลยคิดว่าจะลงทุนเงินทั้งหมดไปกับมัน ควรรีบหยุดความคิดเช่นนั้น เพราะการลงทุนเพียงแหล่งเดียวโดยเฉพาะในหุ้นที่มีความผันผวนและคาดเดาไม่ได้ แม้ว่าจะเคยทำกำไรได้ดีในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็อาจนำไปสู่การสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้เช่นกัน ดังนั้น คุณจึงควรวางแผนกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังแหล่งอื่นๆ ด้วย
3. ลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากมายที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีทั้งแบบปลอดภาษีและช่วยลดหย่อนภาษี ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลหรือขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับแผนการลงทุนของคุณมากที่สุด วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนยังช่วยคุณประหยัดเงินจากการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
4. ลงทุนระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อาจดูล้าสมัยแต่ก็ยังเป็นที่นิยม เพราะการเลือกซื้อที่ดิน บ้านหรือคอนโดในทำเลที่ดี หลังจากนั้นไม่กี่ปีมีโอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าลดลง จึงเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินออมค่อนข้างมากและต้องการลงทุนในระยะยาว หากไม่ได้ใช้พักอาศัยเองก็ยังสามารถปล่อยเช่าเพื่อเป็นแหล่งรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
5. ลงทุนในแผนการเกษียณอายุ
มนุษย์เงินเดือนทุกคนไม่สามารถทำงานได้ตลอดชีวิต เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะเสื่อมลงพร้อมโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่ตามมา ดังนั้น การวางแผนทางการเงินเพื่อเตรียมพร้อมก่อนเกษียณอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรเริ่มต้นให้เร็วที่สุดและลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่เงินเดือนของคุณเพิ่มขึ้นให้เพิ่มเงินลงทุนในแผนเกษียณอายุมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้พลังของดอกเบี้ยทบต้นและผลตอบแทนจากการลงทุนได้ทำงานแทนคุณอย่างเต็มที่
6. ลงทุนด้วยความอดทนและมีวินัย
การลงทุนต้องอาศัยความอดทนและวินัยทางการเงินอย่างมาก คุณอาจยังไม่เห็นผลกำไรที่มากมายจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางอย่างได้ภายในสองสามวัน โดยเฉพาะการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำซึ่งในบางครั้งอาจต้องใช้เวลานานหลายปีจึงจะให้ผลตอบแทนแก่คุณอย่างคุ้มค่าสมการรอคอย
7. ระวังโฆษณาชวนเชื่อ
ในยุคนี้ มีโฆษณามากมายที่เชิญชวนให้มนุษย์เงินเดือนตัดสินใจลงทุนด้วยปัจจัยทางอารมณ์ต่างๆ ซึ่งคุณจำเป็นต้องป้องกันตัวเองจากคำโฆษณาชวนเชื่อเหล่านั้น โดยพิจารณาถึงความต้องการส่วนบุคคลและความสามารถในการลงทุนตามเงื่อนไขชีวิตที่แตกต่างกัน รวมทั้งต้องศึกษาหาข้อมูลและตรวจสอบความน่าเชื่อถือทุกครั้งก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ ก็ตาม
สรุป
มนุษย์เงินเดือนหลายคนลังเลที่จะลงทุนเพราะกลัวว่าจะเหลือเงินไม่พอใช้ ซึ่งในความเป็นจริงคุณสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มาก แค่ต้องมีวินัยและความอดทนในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพราะการวางแผนลงทุนด้วยวิธีที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจยังเป็นแหล่งเงินทุนสำรอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อคุณเกษียณอายุหรือต้องเผชิญกับเหตุการณ์ฉุกเฉินในชีวิตได้อีกด้วย
มนุษย์เงินเดือนคนใดสนใจวางแผนการลงทุนให้มีเงินเหลือใช้ สามารถปรึกษาทีม Plan Your Money ผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับที่
บริการที่ปรึกษาทางด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรี
บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา