ส่งต่อความรักและห่วงใย เมื่อคู่ชีวิต LGBTQ ตอนจบไม่เป็นดั่งนิยาย
เพื่อคุ้มครองคุณและครอบครัว
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ส่งต่อความรักและห่วงใย เมื่อคู่ชีวิต LGBTQ ตอนจบไม่เป็นดั่งนิยาย

icon-access-time Posted On 17 พฤศจิกายน 2564
By Krungsri the COACH
หลังจากเรื่องราวของคู่รัก LGBTQ คู่หนึ่ง ได้ถูกถ่ายทอดออกมาสู่สาธารณชนหลังไปออกรายการดัง "Couple or Not? คู่ไหน..ใช่เลย" ในช่วงเดือนตุลาคม 2563 เป็นเรื่องราวความรักที่น่าประทับใจ และน่าเศร้าใจไปในคราเดียวกัน กับความรักที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกันทั้งด้านครอบครัว สิทธิทางสังคม ความเจ็บป่วย และความตาย สุดท้ายกลับกลายเป็นบทเรียนของชีวิตที่หวนกลับไปแก้ไขไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ความรักและการวางแผนสร้างครอบครัว

เรื่องราวชีวิตจริงจากคุณ “มิกกี้ - ดลวัฒน์ ไชยชม” อายุ 30 ปี อาชีพรับราชการครูในจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตรักที่ได้พบรักกับคุณ “กร - พลวัต ใชวุฒิ” คุณมิกกี้เล่าว่าเธอพบกับคุณกรผ่านเฟซบุ๊ก ในปี 2559 ช่วงแรกที่คุยกันยังไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นสาวประเภทสองกลัวคุณกรจะรับไม่ได้ แต่หลังจากพูดคุยไปได้สักพัก คุณกรจึงเผยความจริงว่ารับรู้อยู่แล้วว่าคุณมิกกี้เป็นสาวประเภทสองและรักคุณมิกกี้ด้วยใจจริง หลังจากนั้นก็ได้เริ่มต้นชีวิตคู่ 4 ปี หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน คุณมิกกี้และคุณกรมองหาความมั่นคงในชีวิตด้วยกัน ทั้งคู่จึงจูงมือกันทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ โดยต่างฝ่ายต่างทำคนละฉบับเพื่อผลประโยชน์ของกันและกัน แต่ด้วยปัญหาทางการเงินจึงบอกเลิกกรมธรรม์ไป หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มองหาทั้งสิทธิประกันชีวิตอื่น ๆ สำหรับข้าราชการและสินเชื่อเงินกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้านด้วยกัน แต่ด้วยกฎหมายที่ไม่รองรับคู่รักที่เป็นเพศเดียวกันทำให้คุณมิกกี้และคุณกรถอดใจไป สินทรัพย์ของครอบครัวชิ้นเดียวที่ทั้งคู่หามาได้คือรถมือสองที่ผ่อนชำระร่วมกันได้ในตอนนั้น หลังจากนั้นคุณมิกกี้ก็ใช้สิทธิค่าราชการยื่นกู้เพื่อมาสร้างบ้านจนได้ในปี 2563
คุณมิกกี้ - ดลวัฒน์ ไชยชม, คุณกร - พลวัต ใชวุฒิ

ความสุขอยู่ได้ไม่นาน

แค่ 1 เดือนหลังจากสร้างบ้านสำเร็จ คุณกรเริ่มมีอาการป่วยและเข้า-ออกโรงพยาบาลหลายที่ ช่วงนั้นคุณมิกกี้กับคุณกรจึงตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพคุ้มครองโรคร้าย ถึงคุณมิกกี้กับคุณกรจะตัดสินใจร่วมกัน แต่ในตอนนั้นผลประโยชน์ในประกันก็ไม่สามารถยกให้คุณมิกกี้ได้ เนื่องจากไม่ใช่คู่สมรสตามกฎหมาย และเมื่อแพทย์วินิจฉัยตรวจพบว่าคุณกรเป็นผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 6 – 8 เดือน การรักษาทำได้เพียงแค่ประคับประคองเท่านั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งความหวังและความฝันพังทลายลง
คุณมิกกี้ - ดลวัฒน์ ไชยชม, คุณกร - พลวัต ใชวุฒิ

ช่วงเวลาสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกัน

คุณมิกกี้พยายามวิ่งเต้นหาทางรักษาชีวิตคนรัก จนได้พบว่ามียาที่สามารถรักษามะเร็งระยะลุกลามได้ผลดี แต่ค่ายาชนิดนี้มีราคาสูงถึง 120,000 บาทต่อเดือน และถึงแม้สวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการจะใช้สิทธิเบิกค่ายานี้ได้แต่คุณมิกกี้ก็ใช้สิทธินี้เพื่อคุณกรไม่ได้ สิทธิการรักษาที่คุณกรมีคือบัตรทองเท่านั้น คุณกรต้องต่อสู้กับโรคร้ายด้วยใจที่เข้มแข็ง ฝั่งคุณมิกกี้ก็ดูแลคุณกรอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงใช้เงินเก็บทั้งหมดเพื่อรักษาคุณกร ในขณะนั้นคุณกรรับรู้ถึงความเหนื่อยล้าที่คุณมิกกี้พยายามดิ้นรนเพื่อคนรัก ครั้งสุดท้ายที่เข้ารับการรักษา คุณกรเลือกแจ้งกับแพทย์ว่า....ขอปฏิเสธการรักษาและเลือกจะกลับไปใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายด้วยกัน


ถึงแม้ภายหลังทั้งคู่ได้ออกรายการ "Couple or Not? คู่ไหน..ใช่เลย" จนมีผู้คนให้กำลังใจและคำแนะนำเพื่อช่วยเหลือด้านการรักษาอย่างล้นหลาม (โดยไม่มีการขอรับการบริจาคเงินแต่อย่างใด) แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตคุณกรไว้ได้ คุณกรจากไปในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ภายหลังจากตรวจพบมะเร็งเพียง 3 เดือนเท่านั้น สิ่งที่คุณกรเหลือไว้ให้คุณมิกกี้ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ มีเพียงความทรงจำ และความสุขช่วงชีวิตคู่ที่อยู่ดูแลกัน โดยไม่ได้ทิ้งมรดกอื่น ๆ ไว้เลย
คุ้มครองอุ่นใน เลือกประกันชีวิตที่ใช่ สบายใจทั้งครอบครัว

ความทรงจำที่เหลืออยู่และความห่วงใยที่ถูกส่งต่อ

คุณมิกกี้เล่าว่า “เพราะที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตประมาท คิดว่าพี่กรแข็งแรงดี คิดว่าเราทั้งสองคงไม่เจอเรื่องโชคร้ายแบบนี้” ถึงแม้ตลอด 5 ปี ที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกัน เคยมีแผนจะทำประกันชีวิตที่มีไว้สำหรับคู่ชีวิต LGBTQ+ เพื่อความมั่นคงมาโดยตลอด แต่ด้วยความไม่รู้ในเงื่อนไขหลาย ๆ อย่าง จึงถอดใจล้มเลิกแผนนี้ไป วันนี้ย้อนกลับไปคิดถึงตอนนั้นก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

มุมมองของคุณมิกกี้จากบทเรียนครั้งนี้ คือ คู่รัก LGBTQ+ ไม่มีความคาดหวังอะไรมากไปกว่า “การครองคู่อย่างเป็นสุข” ได้มีสิทธิเท่าเทียมกับคู่สมรสอื่น ๆ ในการทำธุรกรรม การเซ็นรับยินยอมให้แก่กันได้ เช่น การรักษาพยาบาล หรือแม้แต่สิทธิด้านกฎหมายอื่น ๆ เช่น การรับมรดก หรือการลดหย่อนภาษี การรับบุตรบุญธรรม เป็นต้น โดยเฉพาะสิทธิในการทำประกันชีวิต เพราะชีวิตสามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา อย่ารอที่จะสร้างหลักประกันให้คู่รักและตัวเอง คุณมิกกี้มองชีวิตตัวเองฝากไว้ให้เป็นบทเรียนแก่คนอื่นๆ ได้เห็นความสำคัญของการทำประกันชีวิต เพราะประกันคือแผนการสำรองที่ดีที่สุด ทั้งเรื่องการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี และการทิ้งมรดกไว้เพื่อคนที่เรารัก
จากเรื่องราวที่คุณมิกกี้และคุณกรต้องพบเจอ ลองเช็คตัวเองและคู่ของคุณว่าได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้แล้วบ้างหรือยัง วันนี้ ธนาคารกรุงศรีฯ มีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะใช้เป็นแผนสำรองสำหรับลูกค้า LGBTQ+ ได้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น
เพราะเราไม่สามารถย้อนเวลาไปเตรียมอะไรได้ ติดต่อสาขาของธนาคารกรุงศรีฯ ที่คุณสะดวก และเตรียมความพร้อมให้คู่ของคุณตั้งแต่วันนี้
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา