หลังจากผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ และอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกายแล้ว ความเสียหายของที่พักอาศัย และทรัพย์สินก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก หลาย ๆ คนจึงเริ่มหาประกันเพื่อคุ้มครองทรัพย์สิน และที่อยู่อาศัย แล้วมีประกันอะไรบ้างที่ช่วยรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว Krungsri The COACH จะพาไปหาคำตอบ พร้อมแนะนำวิธีเคลมประกันภัยให้ได้เงินชดเชยไว ตามไปเช็กกันได้เลย
เหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินหลายรูปแบบ ตั้งแต่บ้าน คอนโด ไปจนถึงรถยนต์ และสถานประกอบการ การมีประกันภัยที่เหมาะสมจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้ แต่ทรัพย์สินแต่ละประเภทอาจต้องการความคุ้มครองจากประกันวินาศภัยที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่า ทรัพย์สินของคุณเข้าข่ายเคลมประกันประเภทไหนได้บ้าง
สำหรับเจ้าของบ้านเดี่ยวที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว สามารถตรวจสอบกรมธรรม์
ได้เลย โดยทั่วไปประกันประเภทนี้จะมีความคุ้มครองพื้นฐานสำหรับภัยแผ่นดินไหวอยู่ที่ 20,000 บาทต่อปี ซึ่งเป็นวงเงินรวมกับภัยพิบัติอื่น ๆ หากต้องการวงเงินสูงกว่านี้ สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้เลย
ที่อาจทำไว้สำหรับทรัพย์สินภายในห้อง ซึ่งมักมีความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหวพื้นฐาน 20,000 บาท (ซื้อเพิ่มได้) ส่วนความเสียหายต่อโครงสร้าง หรือพื้นที่ส่วนกลาง เช่น โถงทางเดิน ลิฟต์ สระว่ายน้ำ จะอยู่ในความรับผิดชอบของนิติบุคคล ซึ่งมักทำ
ครอบคลุมไว้แล้ว นี่เป็นส่วนหนึ่งของประกันอาคารทรัพย์สินที่สำคัญสำหรับคอนโดที่ไม่ควรละเลย
รถยนต์ที่เสียหายจากแผ่นดินไหว เช่น ถูกเศษซากอาคารหล่นทับ สามารถเคลมประกันได้หากคุณทำ
ซึ่งครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติอยู่แล้ว ส่วนประกันประเภท 2+ หรือ 3+ โดยทั่วไปจะไม่คุ้มครองภัยธรรมชาติ เว้นแต่จะมีการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมเป็นพิเศษ แนะนำให้ลองเช็กรายละเอียดในกรมธรรม์ของคุณดูอีกครั้ง
สถานประกอบการต่าง ๆ
ผู้ประกอบการร้านค้า สำนักงาน โรงแรม หรือโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้รับความเสียหายต่ออาคาร และทรัพย์สินภายในจากแผ่นดินไหว สามารถเคลม
“กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk: IAR)” ได้ ซึ่งให้ความคุ้มครองความเสียหายที่ไม่ได้ระบุในข้อยกเว้น รวมถึงภัยแผ่นดินไหวตามวงเงินที่จำกัดไว้ (Sub Limit) และถ้าอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ก็สามารถขอเคลมประกันก่อสร้างที่เกี่ยวข้องได้ด้วย
ตัวอย่างความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่เคลมประกันได้
ผลกระทบจากแผ่นดินไหวอาจแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งหลายกรณีสามารถเคลมประกันได้ ลองมาดูตัวอย่างความเสียหายที่พบบ่อยกัน
- ความเสียหายเชิงโครงสร้าง : รอยแตกร้าว ทรุด หรือพังทลายของผนัง เสา คาน ฝ้าเพดาน หรือโครงสร้างอื่น ๆ
- น้ำรั่วซึม : อาจเกิดจากท่อประปาแตก หรือน้ำรั่วเข้ามาตามรอยร้าวของโครงสร้างที่เสียหาย
- ความเสียหายต่อทรัพย์สินภายใน : เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่ง พังเสียหายจากแรงสั่นสะเทือน (ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์เพิ่มเติม)
- การไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้ : กรณีที่บ้าน หรือคอนโดเสียหายหนักจนต้องย้ายออกชั่วคราว บางกรมธรรม์อาจคุ้มครองค่าเช่าที่พักชั่วคราวด้วย (ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์เพิ่มเติม)
เจาะลึกประกันที่อยู่อาศัย พร้อมเตรียมรับมือภัยทางธรรมชาติ
แม้ว่าความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหวจะพบได้ในกรมธรรม์ประกันวินาศภัยหลายประเภท แต่สำหรับบ้าน และคอนโดที่เสียหาย การเคลมเพื่อนำเงินมาชดเชยค่าซ่อมแซม มักจะเกี่ยวข้องกับ
“ประกันที่อยู่อาศัย” เป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไป ประกันประเภทนี้ จะมีความคุ้มครองพื้นฐานตามวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
กลุ่มที่ 1 คุ้มครองทรัพย์สินที่เกิดความเสียหายจาก 6 ภัยพื้นฐาน
กลุ่มนี้เป็นความคุ้มครองหลักของประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ครอบคลุมความเสียหายจากภัยที่พบบ่อย ได้แก่
- ไฟไหม้
- ฟ้าผ่า
- ภัยระเบิด
- ภัยจากยวดยานพาหนะ เช่น รถชนรั้ว หรือตัวบ้าน
- ภัยจากอากาศยาน เช่น ชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่
- ภัยเนื่องจากน้ำที่ไม่ใช่น้ำท่วม เช่น ท่อน้ำในบ้านแตก
กลุ่มที่ 2 คุ้มครองทรัพย์สินที่เกิดความเสียหายจาก 4 ภัยธรรมชาติ
กลุ่มนี้มักเป็นความคุ้มครองมาตรฐานที่มาพร้อมกับประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย หรืออาจต้องซื้อเพิ่มเติมในประกันประเภทอื่น ๆ ครอบคลุมภัยธรรมชาติหลัก ๆ ได้แก่
- ภัยลมพายุ
- ภัยน้ำท่วม
- ภัยแผ่นดินไหว
- ภัยจากลูกเห็บ
โดยในกลุ่มที่ 2 จะมีวงเงินคุ้มครองรวมกัน 20,000 บาท ต่อปี แต่ผู้ทำประกันภัย สามารถซื้อเพิ่มได้
เช็กประกันที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านได้ที่ไหน?
หากคุณซื้อบ้านโดยขอสินเชื่อกับธนาคาร ลองติดต่อธนาคารดูก่อนได้เลย เพราะส่วนใหญ่ธนาคารมักกำหนดให้ทำประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยควบคู่ไปด้วยเพื่อเป็นหลักประกัน หรือหากคุณเป็นผู้ซื้อประกันเองโดยตรง ให้ลองค้นหาเอกสารกรมธรรม์ หรือติดต่อบริษัทประกันวินาศภัยที่คุณซื้อประกันไว้ เพื่อสอบถามรายละเอียดความคุ้มครอง และขั้นตอนการเคลม
เช็กประกันที่อยู่อาศัยสำหรับคอนโดได้ที่ไหน?
สำหรับเจ้าของห้องชุดคอนโด การตรวจสอบประกันอาจมีหลายส่วน ก่อนอื่นให้สอบถามกับทางนิติบุคคลอาคารชุดก่อน เพราะอาจมีการทำประกันทรัพย์สินไว้ให้เจ้าของห้อง โดยจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ
- นิติบุคคลทำประกันส่วนห้องชุดพ่วงไปกับกรมธรรม์หลักที่คุ้มครองพื้นที่ส่วนกลาง
- นิติบุคคลอำนวยความสะดวกให้เจ้าของห้องซื้อกรมธรรม์ที่เสนอขายผ่านคอนโด
ในกรณีที่ 2 หากนิติบุคคลไม่ได้ดำเนินการในส่วนนี้ หรือคุณต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม เจ้าของห้องสามารถซื้อประกันอัคคีภัยสำหรับห้องชุดได้เองโดยตรงกับบริษัทประกันวินาศภัย หรือผ่านธนาคารที่คุณขอสินเชื่อคอนโดได้เลย
สรุปขั้นตอนเคลมประกันภัยจากแผ่นดินไหว ทำอย่างไรให้ได้รับเงินไว
เมื่อบ้านหรือคอนโดของคุณได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และต้องการเคลมประกัน สิ่งสำคัญคือการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และรวดเร็ว เพื่อให้ได้รับเงินชดเชยมาซ่อมแซมได้ไวที่สุด สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ก่อนอื่นเลยให้คุณตรวจสอบกรมธรรม์ให้แน่ใจก่อนว่า มีความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหว และทราบวงเงินความคุ้มครอง
หลังจากนั้น ให้รวบรวมหลักฐานความเสียหาย โดยควรถ่ายรูป หรือวิดีโอทุกจุดที่เสียหายอย่างละเอียด ทั้งรอยร้าว ความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ พร้อมจัดทำรายการทรัพย์สินที่เสียหาย และประเมินราคาเบื้องต้น รวมถึงรวบรวมเอกสารประกอบ เช่น ใบเสร็จ รูปถ่ายทรัพย์สินก่อนเกิดเหตุ (ถ้ามี) และใบเสนอราคาค่าซ่อมแซม
เมื่อเตรียมหลักฐานพร้อมแล้ว ให้รีบแจ้งเหตุไปยังบริษัทประกันวินาศภัย หรือธนาคารที่คุณทำประกันไว้ทันที พร้อมส่งหลักฐานเบื้องต้น และจดเลขที่รับแจ้งเคลมไว้เพื่อใช้ในการติดตามเรื่อง ทางบริษัทประกันจะส่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัย (Surveyor) เข้ามาตรวจสอบ และประเมินความเสียหายตามจริง ก่อนจะพิจารณาค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขในกรมธรรม์
หากทำการประเมิน และตกลงค่าเสียหายกันได้เรียบร้อย บริษัทประกันจะดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้คุณภายใน 15 วันตามที่กฎหมายกำหนด เคล็ดลับสำคัญคือ “การเตรียมเอกสาร และหลักฐานให้ครบถ้วนชัดเจน” จะช่วยให้กระบวนการเคลมทั้งหมดรวดเร็ว และราบรื่นขึ้นอย่างมาก
ไม่มีประกันภัย แต่ประสบภัย ทำอย่างไรดี
สำหรับผู้ที่ที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่ไม่ได้ทำประกันภัยไว้ ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะยังสามารถขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐได้ โดยผู้ประสบภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถติดต่อยื่นเรื่องขอหนังสือรับรองผู้ประสบภัยได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ที่เกิดเหตุภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประสบภัย เพื่อขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการต่าง ๆ
ตัวอย่างมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวจากภาครัฐ
หมายเหตุ : ควรติดต่อหน่วยงานราชการในพื้นที่ เช่น สำนักงานเขต หรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ. สายด่วน 1784) เพื่อสอบถามรายละเอียด และหลักเกณฑ์การช่วยเหลือที่แน่นอน
แหล่งที่มา : กรมประชาสัมพันธ์ The Government Public Relations Department
นอกจากการช่วยเหลือจากภาครัฐแล้ว สำหรับลูกค้าสินเชื่อของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารฯ มีมาตรการช่วยเหลือพิเศษ* เช่น การลดค่างวด หรือการพักชำระเงินต้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทั้งลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อ SME สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาของธนาคารกรุงศรี หรือ Krungsri Call Center 1572
(*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)
Krungsri The COACH แนะนำ : มีบ้านอุ่นใจ พร้อมรับมือทุกภัย กับ กรุงศรี โฮม พร้อม
หลังจากผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาแล้ว หลายคนคงรู้แล้วว่า ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ หรือป้องกันภัยพิบัติธรรมชาติได้ 100% และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็หลีกเลี่ยงผลกระทบได้ยาก จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะเตรียมพร้อมรับมือกับภัยเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ Krungsri The COACH ขอแนะนำ
“ประกันภัยสำเร็จรูปทรัพย์สินภายในบ้าน กรุงศรี โฮม พร้อม” ที่จะช่วยรับมือกับทุกภัยโดยไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก
- คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินภายในบ้าน จากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยระเบิด ภัยเนื่องจากน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว ภัยจากลมพายุ ภัยจากลูกเห็บ ภัยจากควัน ภัยจากอากาศยาน ภัยจากยวดยานพาหนะ ภัยจากการจลาจลและนัดหยุดงานสูงสุดถึง 300,000 บาท
- คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วม 30,000 บาท
- คุ้มครองความเสียหายจากเครื่องใช้ไฟฟ้า 30,000 บาท
- คุ้มครองความเสียหายจากการโจรกรรม 30,000 บาท
- คุ้มครองความเสียหายจากเงินสดที่ถูกลักทรัพย์ 30,000 บาท
- คุ้มครองความเสียหายจากกระจกติดตั้งและเป็นส่วนหนึ่งของอาคารแตกจากอุบัติเหตุ 30,000 บาท
- คุ้มครองความเสียหายจากการบาดเจ็บ และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 30,000 บาท
โดยสรุปแล้ว เหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นเครื่องเตือนใจให้เราเห็นความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง การมีประกันวินาศภัยที่เหมาะสมกับประเภททรัพย์สินของเรา ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือรถยนต์ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยบรรเทาภาระทางการเงินเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน การทำความเข้าใจประเภทของประกันที่มีขั้นตอนการเคลม และการเตรียมเอกสารให้พร้อม จะช่วยให้กระบวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเป็นไปอย่างราบรื่น และรวดเร็วยิ่งขึ้น การเตรียมพร้อมไว้ก่อน ย่อมดีกว่าเสมอ เพื่อความอุ่นใจในการใช้ชีวิต และปกป้องทรัพย์สินอันมีค่าของเรา
อ้างอิง