วัยรุ่นควรรู้…คริปโต โอกาส VS ความเสี่ยง
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

วัยรุ่นควรรู้…คริปโต โอกาส VS ความเสี่ยง

icon-access-time Posted On 01 มกราคม 2567
by Krungsri The COACH

นาทีนี้คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าใครก็คงสนใจการลงทุน “คริปโตเคอร์เรนซี หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล” หรือบางคนก็อาจจะเริ่มลงทุนกันแล้ว ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือ มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง ส่วนบางคนอาจจะลงทุนเพราะอยากลอง ไม่อยากตกกระแส หรือตามคนดังในโซเชียลที่ออกมาโชว์พอร์ตว่าเทรดจนสร้างตัวได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่อย่าลืมว่าทุกเรื่องมี 2 ด้านเสมอ ซึ่งเรามักเห็นแต่ด้านดี ๆ ที่คนแชร์กัน แต่เราควรระวังเพราะมีมุมที่ไม่มีใครเอามาเล่าให้ฟังด้วยเสมอ


วัยรุ่นควรรู้…คริปโต โอกาส VS ความเสี่ยง

ลงทุนคริปโต โอกาสได้มาก-เสียมาก ใคร ๆ ก็รู้ว่าตลาดคริปโตผันผวนมาก นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงมากตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีโอกาสติดลบแบบดิ่งลงเหวในเวลาอันรวดเร็วได้เหมือนกัน อย่างที่เคยเห็นกันว่าตอนเช้าดูดีมีกำไร พอตกเย็นก็ติดลบจนเงินหายไปครึ่งพอร์ตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เจอแบบนี้ ใครเอาเงินเย็นมาลงทุนคงไม่เครียดนัก แต่ถ้า All in หรือใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีมาลงทุน ก็คงปวดใจน่าดู เพราะไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ราคาที่ติดลบจะกลับขึ้นมาเมื่อไหร่ ถ้าใจไม่กล้าพอที่จะ Cut loss ก็ต้องนั่งมองยอดเงินลดลงไปเรื่อย ๆ

ความเสี่ยงจากการโดนแฮก หรือโดนสแกม ใครบอกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลโดนแฮกไม่ได้ อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะถึงจะอยู่ในระบบ Blockchain ก็มีโอกาสโดนขโมยเหรียญออกจากกระเป๋าเงินได้อยู่ดี ซึ่งพอเกิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะติดตามเอาคืน หรืออีกกรณีที่นักลงทุนมักโดนบ่อย ๆ คือ ไปกดลิงก์รับ Airdrop เหรียญโดยไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน หรือไปกดลิงก์ปลอม จุดนี้ทำให้โดน Malware ที่ฝังไว้เข้ามาขโมยข้อมูล และเหรียญของเราได้ เป็นความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นไม่ยาก เราจึงต้องระมัดระวัง

ระวัง Rug pull ไม่ว่าจะลงทุนแบบ DeFi หรือลงทุนในเกม Play to Earn หรือ ลงทุนซื้อเหรียญดิจิทัล ต้องเคยเจอคำว่า Rug pull ซึ่งเป็นกลวิธีการโกงรูปแบบหนึ่งที่ให้นักลงทุนเอาเงินมาลงทุนในแพลตฟอร์ม จากนั้นก็โอนเงินออกไปจนหมด โดยเราไม่สามารถตรวจสอบหรือติดตามได้ว่าเงินที่หายไปนั้นไปอยู่ในกระเป๋าใคร ส่วนใหญ่ที่พบคือเหรียญที่ FOMO มาก ๆ มีคนเข้ามาลงทุนเยอะ เมื่อเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบ และผู้พัฒนาเกิดความโลภ จะใช้ช่วงเวลานี้ทำการโอนเงินออกไป แล้วปล่อยให้ราคาเหรียญดิ่งลงจนไม่เหลือมูลค่า ฉะนั้นถ้าเราไม่อยากเป็นคนที่ถูกหลอก จะลงทุนใน Project อะไร ก็ต้องหาข้อมูลให้ดี เช็กให้รอบคอบก่อนเสมอ

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ไม่ได้จะขู่ให้กลัวการลงทุนคริปโต แต่อยากจะแนะนำว่า เราควรมีการจัดแบ่งเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นด้วย เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง และการรักษาพอร์ตการลงทุนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรุงศรีอยากขอแนะนำการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าการลงทุนคริปโต ตามมาดูกันเลย

วัยรุ่นควรรู้…คริปโต โอกาส VS ความเสี่ยง
 
  1. กองทุนรวมมีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารจัดการเงินที่เรานำมาลงทุนให้เกิดผลตอบแทนสูงสุด ไม่ว่างดูพอร์ต ก็ไม่ต้องกังวล เพราะผู้จัดการกองทุนจะเป็นคนทำหน้าที่ติดตาม และวิเคราะห์แผนการลงทุนให้เราเอง ทำให้เราเหลือเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ ต่างจากการลงทุนคริปโต ที่เราต้องบริหารเอง ต้องมีเวลาเฝ้าหน้าจอ ดูเส้นกราฟ ดูราคา เพราะผันผวนทุกวินาที ยิ่งถ้าเราลงทุนไว้หลายตัว หัวหมุนแน่นอน

  2. มีรายละเอียดชัดเจนว่ากองทุนรวมนี้ลงทุนในสินทรัพย์ใดบ้าง ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเงินลงทุนของเราจะไม่โดนเชิดหนีหายไป ส่วนสกุลเงินดิจิทัลมักไม่เปิดเผยหน้าตารายละเอียดของผู้พัฒนา อาจเสี่ยงต่อการโดน Rug pull

  3. มีเงินน้อยก็ลงทุนในกองทุนรวมได้ โดยปกติจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำจะขึ้นอยู่กับประเภทของกองทุนรวม เริ่มตั้งแต่ 1 บาทไปจนถึงหลักพัน ซึ่งเราสามารถเลือกกองทุนรวมได้ตามความสนใจ และความเสี่ยงที่เรารับได้ และที่สำคัญกองทุนบางประเภทเราไม่ต้องไม่เสียค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขาย แบบนี้เราซื้อเท่าไหร่ก็ได้รับหน่วยลงทุนไปเต็ม ๆ ไม่มีโดนหัก ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนคริปโตที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมทุกครั้งที่ซื้อ-ขาย

  4. เปิดบัญชีกองทุนรวมก็ง่าย ซื้อ-ขายก็สะดวกผ่านแอปฯ แค่มี KMA krungsri app และมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงศรี (ใครยังไม่มี ก็เปิดบัญชีออนไลน์ผ่าน KMA krungsri app ได้เลย) ก็กดเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เอง ทำตามขั้นตอนไม่ยาก เปิดบัญชีกองทุนรวมเสร็จก็เริ่มซื้อ-ขาย ผ่าน KMA krungsri app ได้ทันที ส่วนใครอยากเริ่มลงทุนแต่ยังลังเลว่าจะเลือกกองทุนรวมอะไรดี สามารถหาข้อมูลได้ตรงนี้เลย
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

วัยรุ่นควรรู้…คริปโต โอกาส VS ความเสี่ยง

สุดท้ายขอย้ำกันอีกที การลงทุนทุกประเภทสินทรัพย์มีจุดเด่น และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เราจึงควรกระจายการลงทุน หรือที่คนมักพูดว่า “อย่าเก็บไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” เพราะถ้าใส่รวมไว้ในตะกร้าใบเดียว แล้วตะกร้านั้นเป็นอะไรไป ไข่ก็จะเสียหายทั้งหมด เทียบเท่ากับการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดไปทีเดียว ดังนั้นการทำ Asset Allocation กระจายการลงทุน ด้วยกองทุนรวมหลากหลายประเภทเป็นอีกทางเลือกที่ทำได้ง่าย ๆ ส่วนจะแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนของแต่ละคน หวังว่าข้อมูลที่เรานำเสนอวันนี้จะช่วยให้ทุกคนสร้างพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม และให้ผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวนะ
 
คนรุ่นใหม่ ใครๆ ก็ลงทุนในกองทุนรวม
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา