7 สุดยอดไอเดีย สร้าง Passive income ให้เงินต่อเงินจนเราเหนื่อยน้อยลง
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

7 สุดยอดไอเดีย สร้าง Passive income ให้เงินต่อเงินจนเราเหนื่อยน้อยลง

icon-access-time Posted On 29 พฤษภาคม 2567
By Krungsri The COACH
ในยุคที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน การมีรายได้หลาย ๆ ทางนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อใครหลาย ๆ คน เพราะช่วยให้เราไม่ต้องกังวลกับความไม่แน่นอนในการใช้ชีวิต รวมถึงภาระที่ต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมี Passive Income จะทำให้เราสามารถมีรายได้เข้ามาในกระเป๋าแบบไม่ต้องออกแรงและใช้เวลาในการทำงานมากนัก เป็นการใช้เงินทำงาน และใช้สมองทำงานให้ชีวิตคุณสบายขึ้น

หากคุณสนใจในการสร้าง Passive Income ทาง Krungsri The COACH ก็มีไอเดียดี ๆ มานำเสนอ และสามารถนำไปปรับใช้ตามความถนัดของคุณได้

รู้จักกับ Passive Income ที่ใคร ๆ ก็เฝ้าฝัน

Passive Income คือ รายได้ที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ต้องออกแรงในการทำงาน เพียงแค่เราลงทุนใช้เงินต่อเงินหรือทำงานเพียงครั้งเดียว ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากการทำงานที่สร้างรายได้แบบ Active Income ที่เมื่อเราหยุดทำงานแล้ว รายได้ของเราจะหายไปด้วย การสร้าง Passive Income นั้น สามารถทำได้ 2 แบบ ได้แก่ การใช้เงินต่อเงิน และการใช้สมองต่อเงิน รายละเอียดดังนี้
 
ใช้เงินทำงานโดยการสร้าง passive income

การสร้าง Passive Income แบบเงินต่อเงิน

เป็นการใช้เงินทำงานด้วยเงินออมที่เรามีอยู่ โดยเราสามารถศึกษาว่าจะนำเงินออมนั้นไปลงทุนอะไรที่ได้ผลตอบแทนกลับมาภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินฝากประจำเพื่อรับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างบ้านหรือคอนโด รวมไปถึงการนำเงินไปลงในหุ้นหรือกองทุนรวมเพื่อได้รับเงินปันผล ไอเดียตัวอย่าง Passive income ด้วยการใช้เงินต่อเงิน มีดังนี้
 

ไอเดียที่ 1 การนำเงินไปลงทุนในคอนโดมิเนียม

หากเราซื้อคอนโดมิเนียมไว้ในทำเลที่ดี เป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้เช่าที่เป็นเป้าหมาย เช่น คอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่ผู้เช่าเป็นนักศึกษา หรือคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่สามารถปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย เช่นนี้ก็สามารถเอาเงินต่อเงินเพื่อสร้าง Passive Income ได้ โดยเราจะนำข้อมูลของห้องเราไปโพสต์ทางออนไลน์เพื่อหาผู้เช่าหรือให้นายหน้าเป็นผู้จัดหาผู้เช่าให้ ยกตัวอย่างเช่น หากเราซื้อคอนโดมามูลค่า 2 ล้านบาท และสามารถปล่อยเช่าได้เดือนละ 5,000 บาท หรือปีละ 60,000 บาท นั่นหมายความว่าเราสามารถปล่อยเช่าได้ผลตอบแทนปีละประมาณ 3% อย่างไรก็ตามเราสามารถปรับค่าเช่าขึ้นในอนาคตได้เมื่อมีความต้องการสูงขึ้น
 

ไอเดียที่ 2 การนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวม

ในกรณีที่เราต้องการนำเงินต่อเงินด้วยการลงทุนในกองทุนรวมที่สามารถสร้าง Passive Income ให้กับเราได้นั้นจะต้องเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ยกตัวอย่างเช่น มีประวัติการจ่ายเงินปันผลย้อนหลัง 4% ต่อปี ซึ่งถ้าเราลงทุนด้วยเงินจำนวน 1,000,000 บาท จะทำให้เรามีโอกาสได้รับผลตอบแทนปีละ 40,000 บาท หรือเดือนละ 3,333 บาทต่อเดือนหากกองทุนมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย สามารถนำไปใช้ชีวิตหรือนำเงินไปต่อเงินเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้เราในอนาคต


Krungsri The COACH แนะนำกองทุนรวมที่น่าสนใจเหมาะสมกับการสร้าง Passive Income

กองทุนกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้-ปันผล KFGBRAND-D ระดับความเสี่ยง6 ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Morgan Stanley Investment Fund - Global Brands Fund (Class Z) (กองทุนหลัก) โดยเน้นลงทุนในบริษัทในประเทศที่พัฒนาแล้ว ประสบความสำเร็จในชื่อเสียง Brand และ เครื่องหมายสินค้าเป็นที่รู้จักทั่วโลก

กองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงในระดับสูง เพราะลงทุนในหุ้นต่างประเทศ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้ง ในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ของกำไรสุทธิ/กำไรสะสม โดยมีประวัติการจ่ายเงินปันผล 10 ครั้งล่าสุดดังนี้
  • 21 มี.ค. 2567 0.6500 บาท/หน่วย
  • 14 ก.ย. 2566 0.2500 บาท/หน่วย
  • 20 มิ.ย. 2566 0.3500 บาท/หน่วย
  • 21 มี.ค. 2566 0.5000 บาท/หน่วย
  • 30 พ.ย. 2564 0.2000 บาท/หน่วย
  • 14 ก.ย. 2564 0.4000 บาท/หน่วย
  • 21 มิ.ย. 2564 0.5500 บาท/หน่วย
  • 23 มี.ค. 2564 0.5500 บาท/หน่วย
  • 16 ก.ย. 2563 0.5000 บาท/หน่วย
  • 23 มี.ค. 2563 0.2500 บาท/หน่วย

ที่มา: บลจ. กรุงศรี ข้อมูล ณ วันที่ (30 เม.ย. 2567)
 
ลงทุนแบบเงินต่อเงิน


การสร้าง Passive Income จากการใช้สมองต่อเงิน

เป็นวิธีที่ใช้สมองและความคิดสร้างสรรค์ของเราในการสร้างผลงานต่าง ๆ ออกมา โดยผลงานนั้นจะทำเพียงครั้งเดียวแต่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผลงานเพื่อเก็บค่าลิขสิทธิ์ การสร้างช่องทางโพรโมตสินค้าทางออนไลน์ รวมไปถึงการขายสินค้าทางดิจิทัลที่ผลิตเพียงครั้งเดียว มาดูตัวอย่างไอเดียการสร้าง Passive Income จาการใช้สมองต่อเงินดังนี้
 

ไอเดียที่ 3 การเขียนหนังสือเพื่อรับค่าลิขสิทธิ์

สำหรับคนที่รักในการเขียนหนังสือนวนิยาย ก็สามารถสร้างไอเดียที่มีให้กลายเป็น Passive Income แบบสมองต่อเงินได้ โดยในการเขียนหนังสือจะทำเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นหนังสือของเราจะถูกนำไปตีพิมพ์เพื่อขายตามร้านหนังสือทั่วประเทศ เราจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบค่าลิขสิทธิ์ โดยมีการตกลงกับสำนักพิมพ์เอาไว้ เช่น ได้เล่มละ 10% ของราคาขาย หากหนังสือเราขายเล่มละ 200 บาท เมื่อมีการตีพิมพ์และขาย เราจะได้เล่มละ 20 บาท

หากหนังสือเราขายดี มีการตีพิมพ์ครั้งแรก 5,000 เล่มและขายจนหมด เราจะได้เงิน 100,000 บาท และเมื่อมีการตีพิมพ์เพิ่มเราก็จะสามารถได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่องได้ นอกจากนี้เราอาจจะได้ค่าลิขสิทธิ์อื่น ๆ เช่น การนำไปแปลเพื่อขายในตลาดต่างประเทศ หรือได้รับค่าลิขสิทธิ์ในการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ละครซีรีส์ รวมไปถึงบทละครทางโทรทัศน์ และในกรณีที่มีการนำมารีรันและนำมาฉายซ้ำ เราก็ยังคงได้รับค่าลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
 

ไอเดียที่ 4 การขายรูปภาพทางออนไลน์

สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป ออกแบบภาพและงานศิลปะ ตลอดจนชอบใช้ AI ช่วยสร้างสรรค์ศิลปะจากจินตนาการของเรา สามารถสมัครเป็นผู้ขายภาพในเว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อขายรูปภาพได้อีกด้วย โดยเมื่อเราทำการสมัครแล้วเราก็จะสามารถอัปโหลดภาพที่เรามีขึ้นไปในระบบ หากมีผู้ที่สนใจในผลงานของเราก็จะมีการซื้อรูปภาพนั้น ๆ และจ่ายเงินให้กับทางเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์จะแบ่งค่าลิขสิทธิ์ให้กับเรา ตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์จ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับเราครั้งละ 5 บาท ต่อการดาวน์โหลด 1 ครั้ง และมีลูกค้าดาวน์โหลดภาพของเราจำนวน 10,000 ครั้ง เราก็จะได้รับรายได้ 50,000 บาท ซึ่งเราสามารถเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น โดยการผลิตภาพเพื่อขายในจำนวนที่มากขึ้นและโพรโมตผลงานของเราอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของเราให้มาใช้บริการ
 
การขายรูปภาพทางออนไลน์
 

ไอเดียที่ 5 การทำ Affiliate marketing

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า มีหลาย ๆ แบรนด์และแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้คนที่ชอบและอินเลิฟในสินค้า สามารถเป็นนายหน้าในการแนะนำผู้ติดตามบนช่องทางออนไลน์ของตัวเองให้มาซื้อสินค้าและบริการของทางแบรนด์ โดยจะได้รับค่าคอมมิชชันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น หากใครทำคอนเทนต์เก่ง ๆ ก็สามารถเป็นผู้แนะนำให้ Lazada ได้ โดยทาง Lazada จะสร้างลิงก์ที่เป็นของเราเพื่อให้เพื่อน ๆ ซื้อสินค้า หลังจากนั้นเราก็สร้างคอนเทนต์ทางออนไลน์ เช่น เขียนบทความหรือทำวิดีโอเพื่อแนะนำสินค้า และให้ซื้อผ่านลิงก์ของเรา เราก็จะได้ค่าคอมมิชชันอีกด้วย
 

ไอเดียที่ 6 การใช้ AI ช่วยขายของแบบอัตโนมัติ

ในการขายสินค้าสมัยนี้เราอาจจะไม่ต้องลงทุนทำหน้าร้านเองแล้ว เนื่องจากการซื้อขายผ่านออนไลน์เป็นที่นิยมของคนในยุคปัจจุบัน และการส่งของในยุคปัจจุบันก็ไม่ต้องทำด้วยตัวเอง แค่จ่ายเงินและแจ้งไปยังบริษัทขนส่ง เขาก็จะเป็นผู้นำสินค้าของเราไปส่งให้กับลูกค้าถึงปลายทาง นอกจากนี้ยังมีระบบ AI ช่วยจัดการออเดอร์สินค้าและให้บริการตอบคำถามลูกค้า รวมถึงช่วยส่งข้อมูลชื่อและที่อยู่ของลูกค้าไปให้กับทางบริษัทขนส่งโดยตรงเพื่อทำการจัดส่งโดยที่เราไม่ต้องลงแรงทำเอง
 

ไอเดียที่ 7 เปิดคอร์สออนไลน์

หลาย ๆ คนอาจจะมีความรู้และความเชี่ยวชาญในทักษะเฉพาะทาง ซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก ก็สามารถต่อยอดในการสร้างคอร์สออนไลน์ได้ โดยเริ่มจากการออกแบบเนื้อหาหลักสูตรและตัดต่อออกมาเป็นคอร์สเพื่อขายในแพลตฟอร์มทางออนไลน์ เป็นการสร้าง Passive Income จากการที่เราสอนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถขายคอร์สนี้ไปได้เรื่อย ๆ เลย
 
การสร้าง Passive Income จากสอนออนไลน์

Krungsri The COACH สรุป

การสร้าง Passive Income นั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตามหากเราต้องการสร้าง Passive Income แบบเงินต่อเงินด้วยการลงทุนในทรัพย์สินต่าง ๆ อย่าลืมประเมินความเสี่ยงการลงทุนและลงทุนตามความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้
 
แชร์ 7 ไอเดีย สร้าง Passive income

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ (KFGBRAND) (krungsri.com)

อ้างอิง
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา