ฟีเวอร์กันทั่วบ้านทั่วเมือง กับซีรีส์ดัง Game of Thrones (GOT) มหาศึกชิงบังลังก์ ที่ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2554 ออกมาแล้ว 8 ซีซั่น จนถึงเวลานี้เดินทางมาถึงซีซั่นสุดท้ายแล้ว กับ The Final Season ขอเล่าคร่าว ๆ นิดหนึ่งละกันเกี่ยวกับซีรีส์แนวแฟนตาซีย้อนยุคเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนสมมติคือทวีปเวสเทรอสและเอสซอส ซึ่งมีเรื่องราวและมีตัวละครมากมาย โดยมีเรื่องหลัก ๆ อยู่ 3 เรื่อง 1. เป็นเรื่องราวของการชิงบัลลังก์เหล็กแห่งเจ็ดอาณาจักร ที่มีโยงใยของพันธมิตรและความเป็นศัตรูกันระหว่างตระกูลขุนนางต่าง ๆ มีทั้งต่อสู้กันเพื่อแย่งบัลลังก์ และต่อสู้เพื่ออิสระจากบัลลังก์ 2. เรื่องราวของทายาทคนสุดท้ายของตระกูลกษัตริย์ที่ถูกชิงบัลลังก์ไป ซึ่งถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรและวางแผนที่จะกลับมาชิงบัลลังก์คืน และ 3. เรื่องราวของกลุ่มพันธมิตรที่มีหน้าที่ปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคามจากโบราณกาล ภัยจากมนุษย์ที่โหดร้าย ภัยจากสัตว์ในตำนานที่อยู่ในแดนเหนืออันห่างไกล และภัยจากฤดูหนาวอันยาวนานที่กำลังจะปกคลุมอาณาจักรทั้งหมด
หนังว่าโหดแล้ว เส้นทางสถานที่ถ่ายทำก็โหดไม่แพ้กัน จนเราอยากชวนคุณมาตามรอยสถานที่ถ่ายทำที่ว่ากันว่า ทั้งโหดและสวยงามจับใจจนน่าไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต ทั้งปราสาทหลังงาม ธารน้ำใสสะอาด หรือหุบเขาน้ำแข็งแสนหฤโหด ทั้งที่เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ โครเอเชีย มอลตา มีประเทศใดอีกบ้าง และจะสวยแค่ไหน ไปดูแล้วเตรียมวางแผนเที่ยวกันเลย
ปราการสุดแข็งแกร่งของตระกูล Stark - Castle Ward ไอร์แลนด์ตอนเหนือ
ประเทศไอร์แลนด์เหนือใช้ถ่ายทำหลายสถานที่ ทั้ง Castle Ward, County Down โดยใช้เป็นฉากเมือง Winterfell ที่อยู่ของตระกูล Stark ผู้ครองนครทางเหนือ หรือจะเป็นเหมืองเก่า Larrybane ก็ใช้ถ่ายฉาก Stormlands ที่มีการประลองต่อหน้า Lord Renly และจัดกำลังพลเพื่อเตรียมออกรบ รวมไปถึง Balintoy Harbour ที่อยู่ของชาวเกาะเหล็ก Ironborn และ Murlough Bay ที่ตั้งตระกูล Greyjoy รวมไปถึงเส้นทาง Dark Hedges, Conty Antrim ถ่ายฉาก The King's Road เส้นทาง Arya เดินทางไปกับคาราวานเพื่อหนีออกจากเมืองหลวง ตลอดจนความสวยงามของ Mourne Monuntains ทางเข้าเมือง Vaes Dothrak ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวเผ่าอาชา Dothraki
การเดินทาง : ไอร์แลนด์ไม่มีเที่ยวบินตรง คุณต้องไปต่อเครื่องที่อังกฤษ การ
ขอวีซ่าได้ทั้งอังกฤษ และวีซ่าไอร์แลนด์ ส่วนการเดินทางภายในประเทศใช้รถประจำทางเป็นหลัก ไอร์แลนด์เหนือมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ฉะนั้นต้องเตรียมเสื้อผ้าและร่างกายให้พร้อม
ย้อนประวัติศาสตร์กับวิหารตระการตา - Fort Manoel มอลตา
เดินทางย้อนอดีตสู่มอลตา ประเทศที่มีเกาะขนาดเล็ก 2 เกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเมืองหลวงคือ Valletta ที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมของยุโรป สถานที่ถ่ายทำที่ติดตาเราก็คือ ซุ้มหิน Azure Window สถานที่จัดงานแต่งของ Khal Drogo และแม่มังกร แต่น่าเสียดายที่ซุ้มหินได้ถูกภัยธรรมชาติพายุถล่ม พังราบไปแล้ว ใครอยากเห็นว่าสวยแค่ไหน คงต้องไปย้อนดูในซีรีส์กัน อีกสถานที่คือ Fort Manoel ใช้เป็นฉากที่ตั้งวิหาร The Great Sept of Baelor มีฉากสำคัญที่กษัตริย์จอฟฟรีย์สั่งประหารชีวิต Ned Stark ในฐานะกบฎ ด้วยการตัดศีรษะ เราได้เห็นฉากหลังอันงดงามและคงความเป็นประวัติศาสตร์ไว้เป็นอย่างมาก
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องขอวีซ่าสถานทูตมอลตา ประจำประเทศไทย หรือสามารถขอวีซ่าเชงเก้นได้เช่นกัน มอลตาตั้งอยู่ใกล้กับประเทศอิตาลี แต่ค่าครองชีพถูกกว่ามาก การเดินทางภายในประเทศสะดวกด้วยการนั่งรถบัส หรือนั่งเรือ ขณะที่สภาพอากาศสบาย ๆ อยู่ที่ 18-30 องศา
ฉากเบื้องหลังสุดคลาสสิค - Dubrovnik โครเอเชีย
Dubrovnik เป็นเมืองเก่าแก่ในโครเอเชียที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ซึ่งฉากหลังอันงดงามของเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย เมืองเก่าแก่สุดคลาสสิคที่ได้รับสมญานามว่าเป็น "ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก" คือสถานที่ถ่ายทำเมืองหลวง 7 อาณาจักร King's Landing ที่เต็มไปด้วยฉากสุดพีค เช่น ตอนราชินีเซอร์ซีเดินไปไถ่บาปไปบนท้องถนนของ King’s Landing ขณะที่ Fort Lovrijenac, Dubrovnik ถูกใช้สร้างฉากป้อมปราการในศึก Blackwater Bay สุดระทึก ด้าน Minceta Tower, Dubrovnik คือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เรียกได้ว่า Must see ใช้ในฉากสำคัญคือ House of the Undying เมือง Qarth ที่ Daenerys เดินทางมาช่วยเหลือลูกมังกร
การเดินทาง : โครเอเชียใช้วีซ่าเชงเก้นหรือวีซ่าโครเอเชียก็ได้เช่นกัน ยังไม่มีเที่ยวบินตรง ต้องต่อเครื่อง ส่วนค่าครองชีพที่นี่ไม่สูงนัก สกุลเงินคือ คูนา (HKR) 1 คูนา = 5.5 บาท สภาพอากาศค่อนข้างเย็นถึงหนาว ฉะนั้นควรเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง
มนต์เสน่ห์แห่งทะเลทราย - Aït Benhaddou โมร็อกโก
แม้ฉากส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประเทศในแถบยุโรป แต่ Aït Benhaddou เมืองที่เป็นมรดกโลกของโมร็อกโก สร้างด้วยอิฐสีโคลน กลับได้รับเลือกให้ใช้เป็นฉากในเมือง Yinkai และเมือง Pentos ที่แม่มังกรปลดปล่อยทาสให้เป็นอิสระ และ Esssouria ใช้เป็นฉากทางเดินเข้าสู่เมือง Astapor ซึ่งระหว่างทางเต็มไปด้วยทาสและทหารไร้มลทิน ซึ่งเรียกว่าการ The Walk of Punishment ความน่าหลงใหลของประเทศนี้คือ เป็นการผสมผสานระหว่างเอเชียและยุโรปไว้ด้วยกัน เที่ยวตามรอยเสร็จแล้ว คุณต้องไม่พลาดแวะเยือนทะเลทรายซาฮาร่า อันโด่งดังด้วย
การเดินทาง : โมร็อกโก อยู่ในทวีปแอฟริกาเหนือ ติดกับสเปน ใช้สกุลเงินของตัวเองคือ Dirham อากาศแห้งแล้งเย็นจัดในช่วงเช้า และร้อนในช่วงกลางวัน ยังไม่มีสายการบินที่บินตรงสู่โมร็อกโก ต้องต่อเครื่อง โดยสามารถยื่นขอวีซ่าได้ที่สถานทูตโมร็อกโกประจำประเทศไทย
ทะเลหิมะขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา - Hverfjall Volcano ไอซ์แลนด์
หลายฉากในซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายทำที่ประเทศไอซ์แลนด์ ฉากสำคัญที่ Grjótagjá, Iceland ถ้ำที่เกิดจากลาวาดับสนิทแล้ว อยู่เลียบทะเลสาบ Myvatn ใช้เป็นฉากที่ John Snow มาพลอดรักกับ Ygritte ขณะที่ Vatnajokull National Park ใช้เป็นฉาก The Wall ที่กลุ่ม Night's Watch ต้องคอยลาดตระเวนและป้องกันผู้อยู่นอกเหนือกำแพง นอกจากนั้นยังมี Thingvellir National Park อุทยานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ใช้เป็นฉากบู๊สุดหวาดเสียวระหว่าง Arya กับ The Hound ขณะที่ Hverfjall Volcano สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนทะเลสาบ Myvatn ในไอซ์แลนด์ โดยใช้เป็นโลเคชั่นของพื้นที่ Beyond the Wall ซึ่ง Mance Rayder ผู้นำคนเถื่อนใช้เป็นถิ่นฐานในการตั้งแคมป์ และเป็นจุดกำเนิดของเหล่า White Walker
การเดินทาง : ไอซ์แลนด์ใช้วีซ่าเชงเก้น เนื่องจากไอซ์แลนด์ไกลจากประเทศไทยมาก การเดินทางต้องต่อเครื่องอย่างน้อย 1 เที่ยว แต่ความสวยงามคุ้มค่ากับการไปเยือนจริง ๆ การเช่ารถเที่ยวเองเหมาะกับประเทศนี้ที่สุด เป็นประเทศที่มีอากาศหนาวจัดตลอดทั้งปี ฉะนั้นควรวางแผนการเดินทางให้ดี
กำเนิดแห่งมังกร - San Juan de Gaztelugatxe สเปน
เกาะหินอันเก่าแก่ San Juan de Gaztelugatxe ของสเปน คือสถานที่ถ่ายทำฉากเกาะ Dragonstone ซึ่งอยู่ที่แคว้นบาสก์ โดยเป็นฉากที่ แดเนอริส ทาร์แกเรียน มารดาแห่งมังกรเดินทางกลับบ้าน และเคยเป็นบัลลังก์เก่าของกษัตริย์ผู้บ้าคลั่งแห่งตระกูลทาร์แกเรียน นอกจากนั้นปราสาท Castillo de Almodóvar ของเมือง Andalusia ทางใต้ของสเปน ยังใช้เป็นที่ถ่ายทำ Highgarden แห่งบ้าน Tyrell หนึ่งในเมืองที่ว่ากันว่าสวยที่สุดใน Westeros อีกด้วย ประเทศสเปนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอันเก่าแก่และเป็นประวัติศาสตร์มากมายที่รอนักท่องเที่ยวไปดื่มด่ำกับบรรยากาศ สเปนขึ้นชื่อเรื่องเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลวิ่งหนีวัวกระทิง, เทศกาลเผาหุ่นลาฟายัส La Fallas, เทศกาลปามะเขือเทศ และกีฬาฟุตบอลลีก
การเดินทาง : สเปนใช้วีซ่าเชงเก้น และใช้ค่าเงินยูโร การเดินทางสามารถบินตรงและต่อเครื่องได้ ส่วนระบบขนส่งภายในประเทศก็ปลอดภัยและมีคุณภาพมาก สามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินหรือรถบัสก็ได้
ตั้งตระหง่านท้าทายผู้มาเยือน - Doune Castle สก็อตแลนด์
ปราสาทที่ตั้งตระหง่านในฉากเมือง Winterfell ของตระกูล Stark ผู้ครองนครทางเหนือ คือปราสาท Doune Castle ในสก็อตแลนด์นี่เอง ประเทศอันเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน สำหรับคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ สก็อตแลนด์มีโบราณสถานมากมายให้ไปเยี่ยมชม เช่น Urquhart Castle (ปราสาทอาฟการ์ต) Edinburgh Castle (ปราสาทเอดินบะระ) หรือจะเป็น Stirling Castle (ปราสาทสเตอร์ลิ่ง)
การเดินทาง : สก็อตแลนด์หนาวตลอดทั้งปี และอากาศค่อนข้างจะแปรปรวน ใน 1 วันคุณอาจได้เจอกับอากาศทุกรูปแบบ ที่นี่ใช้เงินปอนด์เหมือนอังกฤษและการขอยื่นวีซ่าสก็อตแลนด์ยื่นผ่านตัวแทน VFS การเดินทางต้องไปต่อเครื่องที่ประเทศอังกฤษ ยังไม่มีเที่ยวบินที่บินตรง
แนะนำเลย สำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวยุโรปต้องไม่พลาดตามรอยซีรีส์ดังเรื่องนี้ Game of Thrones แต่ก่อนจะไปวางแผนการเดินทางให้ดี เพราะสถานที่ตามรอยทั้งหมดตั้งอยู่โซนยุโรปแทบทั้งสิ้น นั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจากการท่องเที่ยวในโซนเอเชีย แล้วยังเพิ่มความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการยื่นขอวีซ่าเข้ามาอีก ฉะนั้นต้องเตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ อาจต้องเผื่อเวลาหลายเดือน ทั้งการยื่นขอวีซ่า การจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาคุ้มค่าที่สุด แต่เมื่อคุณเริ่มคิดตั้งต้นที่จะไปแล้วก็ลุยเดินหน้าเต็มที่เลยครับ