การปฏิเสธแบบสุภาพ  ศิลปะการปฎิเสธอย่างไรให้ทุกคน Happy

การปฏิเสธแบบสุภาพ ศิลปะการปฎิเสธอย่างไรให้ทุกคน Happy

By Krungsri Academy
เคยรู้สึกลำบากใจที่จะเอ่ยคำว่า “ไม่” ออกมากันไหมคะ? ทั้งที่บางครั้งอยากจะปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดออกไปตรง ๆ จะทำให้คนอื่นผิดหวังหรือโกรธ จนกระทบถึงความสัมพันธ์ที่ดีที่มีร่วมกันมาและหลายครั้งก็เจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่รับปาก "Say Yes" ไปด้วยความเกรงใจ แล้วกลับมานั่งไมเกรนขึ้นตามลำพัง ไป ๆ มา ๆ Say Yes วันนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในวันหน้า แต่จะมีวิธีปฏิเสธแบบสุภาพยังไง พูดว่า “ไม่” อย่างไรให้บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นกัน วันนี้เรามีวิธีปฏิเสธงานยังไงไม่ให้เสียเพื่อนมาแนะนำกัน

1. เสนอคำแนะนำอื่นให้เห็นว่าเราใส่ใจ

แทนที่เราจะปฏิเสธไปว่า “ไม่” ทื่อ ๆ ลองเสนอทางออกหรือคำแนะนำอื่นๆ จะดูเป็นการปฏิเสธแบบสุภาพ เช่น เพื่อนร่วมงานขอให้ช่วยออกแบบการ์ดแต่งงานให้ เพราะเห็นว่า เราพอทำกราฟิกได้ แต่เราต้องการจะปฏิเสธ หากถ้าบอกไปตรง ๆ ว่า “ไม่อยากทำอ่ะ ขี้เกียจ เงินก็ไม่ได้” เพื่อนอาจจะรู้สึกแย่ งั้นลองบอกไปว่า “เราไม่เก่งหรอก ทำได้แค่งู ๆ ปลา ๆ แต่เดี๋ยวเราแนะนำร้านที่เข้ากับสไตล์เธอให้นะ หรือว่าเธอทำแล้วเอามาให้เราช่วยดูก็ได้” อย่างน้อยก็แสดงถึงความใส่ใจกลับไปสักนิดยังดีกว่าการปฏิเสธตรงๆ ถือเป็นวิธีปฏิเสธแบบสุภาพที่ดีวิธีนึงเลย

2. พูดขอบคุณรักษาน้ำใจกัน

บางเรื่องก็ไม่ได้เป็นเรื่องหนักหนาสาหัส แต่เราก็ลำบากใจในการปฏิเสธ กลัวโดนงอนหรือโกรธ ก็ต้องหาวิธีปฏิเสธคนอื่นกลับไปแบบละมุนละม่อม เช่น เพื่อนชวนไปเที่ยวทะเล อยากให้เราได้ไปเปิดหูเปิดตา แต่เราอยากนอนกลิ้งอยู่บ้านมากกว่า เราก็บอกเพื่อนไปว่า “ขอบคุณนะที่ชวน/ขอบคุณมากที่นึกถึงกัน แต่วันหยุดนี้เราวางแผนจะทำงานบ้าน เพราะไม่ได้หยุดมาหลายอาทิตย์แล้ว ผ้ากองเต็มตะกร้าเลย ไว้โอกาสหน้านะ”

3. ตั้งคำถามกลับไปไม่โกง

บางสถานการณ์ที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ง่าย ๆ ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไงให้สุภาพ เช่น หัวหน้ามอบหมายงานให้ แต่เรามี ความเห็นไม่ตรงกับหัวหน้า จะบอกว่า ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะเป็นงานในหน้าที่ของเรา แต่ถ้ารับปากแล้วทำไม่ได้ก็ยิ่งเสียหาย ลองบอกหัวหน้าไปว่า “หัวหน้าคะ/ครับ...ดิฉัน/ผมดีใจที่หัวหน้าให้ความไว้วางใจ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแบบนี้... งานจะออกมาเพอร์เฟกต์มากค่ะ/ครับ หัวหน้าว่าอย่างนั้นไหมคะ/ครับ?” วิธีนี้จะทำให้คนฟังรู้สึกคล้อยตามเป็นการช่วยประนีประนอมได้อีกทาง

4. ขอไปดูตารางงานก่อนนะ

เคยไหมคะ ไม่ได้อยากจะรับปาก แต่สถานการณ์มันพาไป คนถามมายืนกดดันอยู่ตรงหน้า พอตอบว่า “ไม่” ไป ก็มีคำถามมากมายตามมา การปฏิเสธแบบสุภาพ อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนขี้เกรงใจอย่างเรา จนบางทีก็เผลอรับปากซะงั้น เช่น เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด (ที่ยังต้องทำงานร่วมกัน) บอกว่า วันที่ 5 เดือนหน้าไปปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนของเพื่อนเป็นเพื่อนเราหน่อยสิ ช่างกล้าชวนเนอะ แต่เพราะยังต้องทำงานที่เดียวกัน เราอาจบอกไปว่า “เดี๋ยวขอเราไปดูตารางงานก่อนนะ ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย” แล้วก็ปลีกตัวออกมาเนียน ๆ วิธีปฏิเสธคนแบบนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงสถานการณ์กดดันตรงหน้าได้ดี

5. บอกเหตุผลไปตรง ๆ แต่อย่าโกหก

หลายคนไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร จะบอกเหตุผลตรง ๆ ก็กลัวโดนโกรธ โดนตำหนิหรือโดนมองในแง่ร้าย จึงเลือกที่จะโกหก เช่น หัวหน้าชวนไปเล่นแบดมินตันวันเสาร์ แล้วเพื่อนร่วมงานตกลงกันหมด เหลือแค่เราคนเดียว ซึ่งเรานัดแฟนไว้จะไปเที่ยวบ้านแฟน จะบอกไปตรง ๆ ก็ไม่กล้าเพราะกลัวโดนว่า เลยโกหกไปว่า แม่ป่วยเข้าโรงพยาบาล ตอนหลังถ้าหัวหน้ามาทราบว่า ไม่เป็นความจริง เราจะกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะทันที ดังนั้น ทางที่ดี คือการปฏิเสธแบบสุภาพไปตรง ๆ ไม่ต้องอ้างเหตุผลมากมาย

การมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่า เราไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ในทุกที่ทุกเวลา ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะพูดคำว่า “ไม่” ออกมาบ้าง ดีกว่าเรารับปากแล้วมานั่งกลุ้มใจทีหลัง หนักไปกว่านั้น คือ ถ้ารับปากแล้วไม่สามารถทำได้ จะทำให้ตัวเราดูแย่ทันทีทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเรา ดังนั้นจะ Say Yes กับใครให้คิดให้ถี่ถ้วน และเอาความสบายใจของเราเป็นหลัก ถ้าเราไม่อยากทำก็ Say No ไปตรง ๆ แต่ถ้าใครรู้สึกไม่ดีที่จะปฏิเสธตรง ๆ ลองเอาวิธีปฏิเสธคนอย่างไรไม่ให้น่าเกลียดไปลองใช้กันได้นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา