หลังจากสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการคาเฟ่ในบ้านเราเมื่อ 2 ปีก่อน จากการสร้างสรรค์ร้านอาหารสุดแนวอย่าง Mocking Tales คาเฟ่สไตล์แฟนตาซีใจกลางทองหล่อ ที่ผสมผสานเรื่องราวความเป็นเทพนิยาย และเมนูอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านขนมหวาน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมทั้งร้านค็อกเทลเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จนก่อให้เกิดกระแสแฟรี่เทลคาเฟ่ขึ้นในบ้านเราอย่างเห็นได้ชัดเจน
วันนี้เราจึงหาโอกาสบุกเข้าไปในปราสาทของความอร่อยแห่งนี้ เพื่อค้นหาสูตรสำเร็จของเทพนิยายคาเฟ่ จากคุณเจี้ยน กฤษฎา อัศวพรสกุล และคุณอู๋ เอกพล ดีบุญมี ณ ชุมแพ สองเจ้าชายแห่ง Mocking Tales หุ้นส่วนร้านคนสำคัญที่ลูกค้ายกนิ้วให้เป็นพ่อค้าสุดแซ่บ ที่จะมาเปิดเผยทุกรายละเอียดความสำเร็จของร้านอาหารแห่งนี้จากจุดเริ่มต้นที่สามารถต่อยอดให้กลายเป็นแบรนด์ระดับตำนานให้เราฟังกันครับ
จุดเริ่มต้นของ Mocking Tales
คุณอู๋เล่าให้เราฟังว่าร้านนี้เกิดจาก Passion ของหลาย ๆ คนมารวมกัน จนเกิดเป็นความคิดที่ว่าน่าจะทำร้านออกมาในแนวเทพนิยาย หลังจากนั้นหุ้นส่วนทุกคนก็เข้ามาช่วยกันปรับแต่งกันจนออกมาเป็นร้านอาหารสไตล์แฟรี่เทลใจกลางทองหล่ออย่างที่ทุกคนเห็นในตอนนี้
Presentation ที่แตกต่างจากร้านทั่วไป
คุณเจี้ยนเปิดเผยว่าที่ร้านนั้นได้มีการแบ่ง Chapter เพื่อหมุนเวียนเปลี่ยน Theme เมนูและการตกแต่งภายในร้าน ทำให้รายละเอียดภายในร้านไม่ซ้ำจำเจและน่าเบื่อ ซึ่งตรงจุดนี้เองที่ทำให้ลูกค้าเกิดการติดตามว่าในแต่ละ Chapter ของร้านเรานั้นจะมีอะไรต่อไปจนต้องกลับมาที่ร้านอีกครั้ง
สร้างสรรค์เมนูภายในร้านด้วยแรงบันดาลใจ
เรื่องแรงบันดาลใจแต่ละเมนูที่ทำออกมานั้นคุณเจี้ยนเล่าให้ฟังว่า ส่วนใหญ่เกิดมาจากการที่เราพยายามดึงจุดเด่นจากแฟรี่เทลในแต่ละเรื่องที่มันจะมีคีย์ของมัน อย่างเช่น “Lord of the ring” มีภูเขาไฟซึ่งเป็นจุดกำเนิดและทำลายแหวนชิ้นเอกของเรื่อง หรือ “Pirates of the Caribbean” ที่จะมีหีบสมบัติให้เหล่าโจรสลัดออกตามล่า แล้วเราก็พยายามที่จะ create เมนูที่อิงเรื่องราวเหล่านั้นออกมาให้ทานได้อย่างแนบเนียนที่สุด อย่างเมนู Inferno Mountain ที่หยิบเอาแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Lord of the ring ครับ
เมนูพระเอกประจำ CHAPTER 6 : Dragon Warrior Valley (หุบเขานักรบมังกร) คือ Dragon's Fire Breath (ลมหายใจมังกร)
ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จ
เมื่อได้พูดคุยกับทั้งคู่ก็ได้ค้นพบว่าเจ้าชายทั้งสองคนนี้ ไม่ได้มาจากสายอาหารโดยตรงแต่ค่อนข้างมีความ create ในเรื่องอาหาร เพราะทั้งคู่ศึกษาค่อนข้างเยอะ ลองผิดลองถูกมาด้วยกันจนทำให้ค้นพบว่าอะไรที่เข้าหรือไม่เข้ากัน
อุปสรรคชิ้นสำคัญที่ให้บทเรียนกับร้านแห่งนี้
สิ่งแรกที่คุณอู๋ และคุณเจี้ยนต้องปวดหัวเลยคือ เรื่องของพนักงานในร้านที่จ้างมาได้ไม่กี่วันก็ลาออกไปอย่างไม่บอกกล่าว ส่วนบทเรียนสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกแย่คือ การที่ไม่สามารถรองรับลูกค้าจำนวนมากทั้งหมดในเวลาเดียวกันได้ หลังจากที่ชื่อเสียงของร้านดังเป็นพลุแตกในช่วงข้ามคืน
สิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจอาหารในรูปแบบนี้
คุณอู๋บอกกับเราว่าอย่างแรกเลยคืออาหารต้องอร่อยก่อน ต่อมาคือเรื่องของ
งานบริการที่จะทำให้เขาประทับใจด้วย เพราะทั้งคู่รู้ดีว่าการบริการแบบเอาใจใส่และเป็นกันเองอย่างใกล้ชิดจะยิ่งทำให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดีกลับไปรวมถึงจะทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมาร้านอีกครั้งด้วย
ก้าวต่อไปของ Mocking Tales
คุณเจี้ยนเล่าให้ฟังว่า “Mocking Tales” ที่เราได้คุยกันมาตั้งแต่ต้นนั้นจะเติบโตไปในรูปแบบของ “
แบรนด์สินค้า” มากกว่าที่จะเป็นเพียงร้านอาหาร หรือร้านกาแฟเท่านั้น ซึ่งตรงนี้เองมันจะทำให้เราสามารถต่อยอดไปได้ในอนาคตเวลาใครนึกถึง Mocking Tales ก็จะเห็นภาพของคาแรคเตอร์แบรนด์ในรูปแบบของเทพนิยายนั่นเอง
ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากจะทำร้านอาหารในรูปแบบนี้
สองคนเปิดเผยว่า
Passion คือสิ่งสำคัญ เพราะเราต้องเจองานที่หนัก แต่ถ้าเรามั่นใจใน Concept มั่นใจใน Product ตัวเอง พอลงมือทำแล้วมีคนเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อออกไป มันก็จะทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนในการทำร้านของเรามากขึ้น เมื่อถึงตอนนั้นความสำเร็จก็จะเดินมาหาเราเอง
ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งการนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ภายในร้านทั้งการตกแต่งแวดล้อมของร้านอย่างเอาใจใส่ การใส่เนื้อหาความเป็นเทพนิยายเข้าไปในทุกเมนูอาหารอย่างใส่ใจ จนทำให้วัฒนธรรมการกินดื่มของผู้คนในบ้านเราเปลี่ยนไป ไม่ใช่เพียงเข้ามาร้าน รอเสิร์ฟ ลงมือทานแล้วจากไป จนกลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Mocking Tales ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
ตรงจุดนี้เองนับว่าเป็นสิ่งสำคัญของใครอีกหลายคนที่อยากมีร้านอาหารหรือธุรกิจในฝันของตัวเอง ลองค้นหาจุดเด่น และความแตกต่างในสิ่งที่คุณอยากทำให้เจอ แล้วคุณจะพบว่าความสำเร็จนั้นมันไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเราเลย