เคล็ดลับสำหรับคนยุคนี้ใช้ชีวิตสบายใจ ไม่มีสะดุด

เคล็ดลับแรก โทรศัพท์มือถือต้องมีแอปครบและพร้อมใช้งานเสมอ ทุกวันเราใช้ประโยชน์จากเจ้าสิ่งนี้มากมาย นอกจากแอปโซเชียลทั้งหลายอย่าง Line Facebook Instagram Twitter แล้ว แอปอื่น ๆ ที่เป็นตัวช่วยให้ชีวิตประจำวันเราสะดวกขึ้น ที่เราอาจไม่เคยลองใช้มาก่อนก็มีอีกเยอะ เช่น

• แอป AQI ที่ไว้เช็คสภาพอากาศและฝุ่น PM 2.5
• แอป Life360 ที่บอกตำแหน่งได้ว่าคนที่เรารักอยู่ที่ไหน จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
• แอป Speed test ที่ใช้ตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต
• แอป Copy my data ที่ไว้ใช้โอนข้อมูลต่าง ๆ อาทิ รายชื่อผู้ติดต่อ ปฏิทิน รูปภาพ และวิดีโอ บนมือถือไปไว้ที่ Google drive และที่เก็บสำรองอื่นๆ
• แอป Google translate ที่เป็นเหมือนดิกชันนารีคู่ใจ ช่วยแปลภาษาได้ทุกภาษาในเสี้ยวนาที

และสุดท้าย แอปที่ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้ก็คือ แอปธนาคาร หรือ Mobile Banking ที่ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกขึ้นมาก ๆ ขอแนะนำว่าควรมีแอปอย่างน้อย 2 ธนาคาร เพราะหลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์ระบบล่มตอนที่กำลังจะโอนเงินหรือจ่ายบิล ถ้าเรามีแอปธนาคารเดียวก็จบกัน ไม่ได้ซื้อของ หรือจ่ายบิลไม่ทันกำหนดแน่ แต่ถ้าเรามีแอปของอีกธนาคารไว้เผื่อสำรอง การใช้เงินของเราก็จะไม่สะดุด จริงมั้ย…ถ้าตอนนี้ใครยังมีแอปเพียงธนาคารเดียว และอยากหาเพิ่มไว้ให้อุ่นใจ เราขอแนะนำให้ลองดู KMA krungsri app เพราะแอปสวย ใช้ง่าย สะดวก ฟังก์ชันครบ ทั้งถอน โอน จ่าย เปิดบัญชีออมทรัพย์ เปิดบัญชีและซื้อ-ขายกองทุน ซื้อประกัน รวมถึงสมัครสินเชื่อ และที่เด็ดกว่านั้น คือ ทำธุรกรรมตามปกติยังมีสิทธิ์รับของขวัญทุกเดือนจาก Krungsri GIFT ลองไปศึกษาดูนะ สะดวกและคุ้มจริง ๆ

ถึงจะไลฟ์สไตล์ Cashless society บัตรเดบิตต้องมีพกไว้ หลายคนอาจงงว่านี่แนะนำอะไรกัน ทำไมต้องมีบัตรเดบิต เดี๋ยวนี้เค้ากดเงินไม่ต้องใช้บัตรผ่านแอปกันแล้ว ถูกต้องค่ะ แต่...อย่างที่บอกไปแล้วว่า เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดได้เสมอ แอปธนาคารอาจล่มในบางครั้งและล่มพร้อม ๆ กันหลายธนาคารก็เคยมีให้เห็น หรือโทรศัพท์แบตหมด โทรศัพท์หาย หรือดันพลาดกดรหัสเข้าแอปผิดจนระบบล็อค แล้วถ้าต้องใช้เงินนาทีนั้น จะทำยังไง นี่คือเหตุผลที่เราควรต้องมีบัตรเดบิตไว้สักใบ เพื่อใช้ในเวลาจำเป็น ซึ่งบัตรเดบิตเนี่ยไม่ได้ใช้ถอนเงินได้อย่างเดียว แต่ใช้โอนเงิน จ่ายบิลที่ตู้เอทีเอ็มก็ได้ แล้วยังใช้รูดซื้อของได้ด้วยนะ แต่บัตรเดบิตต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี จึงไม่ควรมีหลายใบให้เปลืองเงิน เลือกใบที่คุ้มที่สุดพกไว้ในกระเป๋าแค่ใบเดียวก็พอ ซึ่งขอแนะนำบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ที่ฟรีค่าธรรมเนียมทุกธุรกรรมตลอดชีพ ทั้งฟรีกดเงินที่ตู้ ATM ทุกแบงก์ ทุกตู้ทั่วประเทศ ไม่จำกัดครั้ง ฟรีจ่ายบิลค่าสินค้า บริการ/เติมเงิน ผ่าน KMA krungsri app, ATM และสาขา ใครกดเงินบ่อย ๆ มีบิลต้องจ่ายทุกเดือน พลาดไม่ได้เลยนะ คุ้มจริงขอบอก

มีเงินสดติดบ้านไว้บ้าง เพื่อความอุ่นใจแบบสูงสุดในยุคนี้ เงินสดสำรองควรจะต้องมีเก็บไว้ที่บ้านบ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้านเมื่อไหร่ เกิดต้องใช้เงินสดในยามนั้นขึ้นมา เราจะได้มีพร้อมไม่ต้องวุ่นวายใจ

เคล็ดลับที่สอง แผนเตรียมความพร้อมเรื่องการเงิน เพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ โควิดไม่รู้จะวนมาเจอกันอีกกี่รอบ เราจึงควรวางแผนเพื่อเตรียมตัวไว้ให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจมาแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วกระทบรายได้ที่เคยคิดว่ามั่นคง ขอแนะนำให้เก็บเงินสม่ำเสมอทุกเดือน เราควรมีเงินเก็บอย่างน้อยเท่ากับค่าใช้จ่ายประจำของเรา 6 เดือน เพื่อเป็นสายป่านให้เราพอมีเวลาหารายได้ใหม่ได้ทัน และจะเก็บเงินทั้งทีก็ควรหาบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงหน่อย เงินจะได้งอกเงยมากขึ้น เช่น บัญชีออมทรัพย์มีแต่ได้ ที่จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ดอกเบี้ยสูง 1.5% ต่อปีเชียวนะ และถ้าจะเตรียมให้ครบยิ่งขึ้น ก็ลองประเมินดูว่าเรามีตัวช่วยรับมือกับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรืออุบัติเหตุบ้างหรือยัง อาทิ ประกันโรคมะเร็ง หรือประกันอุบัติเหตุ ถ้าสนใจแต่ยังไม่แน่ใจว่าประกันอะไรที่เหมาะกับเรา หรือเราต้องเตรียมการเก็บเงินอย่างไรบ้าง แนะนำให้โทรปรึกษา Plan Your Money ของธนาคารกรุงศรี โทร 02-296-5959 ได้เลย บริการให้คำปรึกษาฟรีนะ และก็ไม่บังคับซื้อของด้วย คุยเฉย ๆ หาความรู้ก็ไม่ว่ากัน

และนี่ก็คือเคล็ดลับการใช้ชีวิตดี ๆ ที่กรุงศรีนำมาฝาก หวังว่าจะตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตยุคนี้ และช่วยเตรียมความพร้อมให้คุณรับมือในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ

บทความโดย ปริตา ธิติปรีชาพล
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา