“คุณพ่อ คุณแม่ขา หนูเหนื่อยจังเลย” คำพูดแบบนี้ผู้ปกครองทั้งหลายคงได้ยินอยู่บ่อย ๆ หลังจากลูก ๆ ของเราเพิ่งเรียนออนไลน์เสร็จ ถึงแม้เราจะเห็นใจแทนลูก ๆ ที่ต้องเหนื่อยกว่าเดิมจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้ยังไปโรงเรียนไม่ได้ จากความเหนื่อยล้าจากการเรียนออนไลน์ และไม่ได้เจอเพื่อน ๆ หรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ จริง ๆ แล้วในวัยนี้ของเด็ก ๆ ไม่ควรที่จะต้องเคร่งเครียดกับการเรียนมากเกินไป แต่ต้องให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตให้สนุกสมวัย สำหรับคนเป็นพ่อและแม่ช่วงเวลานี้แหละที่เราจะช่วย
คลายเครียดให้กับลูกน้อยของเรา แต่ถ้าจะให้ออกไปพักผ่อนข้างนอกบ้าน เช่น การไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า เดินจูงมือลูกไปท่องเที่ยวที่สวนสัตว์ หรือไปทำกิจกรรม Outdoor ได้วิ่งเล่น ปีนป่าย ในพื้นที่กว้าง ๆ ช่วงนี้อาจยังไม่เหมาะสักเท่าไหร่ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงถึงแม้จะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านไม่ได้ แต่เรามีตัวอย่างกิจกรรมที่ให้คุณสามารถสนุกกับลูก ๆ ในบ้านได้มาเป็นไอเดียให้กับผู้ปกครองทั้งหลายด้วย
1. ชวนประดิษฐ์ของ DIY และของเล่นวิทยาศาสตร์ ช่วยฝึกการเรียนรู้
สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเรียนรู้ มาเพิ่มความสนุกให้ลูก ๆ ของเราได้รู้ทดลอง และสวมบทบาทเป็นนักประดิษฐ์จากของเหลือใช้ภายในบ้าน อย่างเช่น การทำกระถางต้นไม้จากขวดน้ำพลาสติก ซึ่งเราสามารถลงมือทำไปพร้อม ๆ กับลูกได้ ตั้งแต่ขั้นตอนคัดแยกขวดพลาสติก ล้างทำความสะอาด หรือการประดิษฐ์สไลม์ ของเล่นวิทยาศาสตร์ที่เด็ก ๆ ชื่นชอบจากโยเกิร์ตและแป้งข้าวโพด ซึ่งวิธีทำก็แสนง่ายเพียงนำโยเกิร์ตมาผสมสีผสมอาหาร แล้วนำแป้งข้าวโพดมาผสม แล้วคนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปล่อยทิ้งไว้สักครู่เราก็ได้สไลม์ที่ปลอดภัย ไม่เกิดอันตรายจากสารเคมี พร้อมให้ลูก ๆ ได้สนุกแล้ว
การที่พ่อแม่ให้ลูก ๆ ได้ลองประดิษฐ์สิ่งของด้วยตัวเองจะช่วยให้ลูก ๆ ฝึกการเรียนรู้ ฝึกสมาธิ และช่วยเสริมสร้างจินตนาการได้เป็นอย่างดี และเมื่อลูก ๆ มีความมั่นใจจากตรงนี้จะทำให้พวกเขารู้สึกสนุกกับการได้ทดลองทำอะไรด้วยตัวเอง เมื่อเราอยากให้ลูกได้รู้จักกับสิ่งใหม่ ๆ จะง่ายขึ้น แล้วลูก ๆ จะไม่รู้สึกกลัวกับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตแค่ลองให้ลูกได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเอง ก็ส่งผลไปยังชีวิตของพวกเขามากเลยทีเดียว
2. เข้าครัวทำอาหาร ช่วยฝึกการแบ่งหน้าที่
เรื่องของการทำอาหารทานกันในบ้าน หากลูก ๆ ของเราอยู่ในช่วงอายุที่ยังน้อยลองมาทำ
เมนูอาหารที่เน้นผักให้เยอะกันดีไหม และชวนลูก ๆ สวมบทบาทพ่อครัวร่วมกับคุณพ่อคุณแม่โดยอาจเริ่มต้นด้วยเมนูง่าย ๆ เริ่มต้นจาก ผักโขมอบชีส เพราะรสชาติหวานจากผักโขมและชีส สิ่งที่เราต้องเตรียม เช่น ผักโขม เนยสด เกลือป่น แฮม และชีส และเตรียมถาดอลูมิเนียมให้พร้อมแล้วมาเริ่มทำกันเลย นำผักโขม แฮม และชีสลงไปผัดในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ เสร็จแล้วนำผักโขมและแฮมที่ผัดเสร็จแล้วใส่ลงในถาดอลูมิเนียม แล้วนำชีสที่เตรียมไว้มาวางเป็นท๊อปปิ้ง แล้วนำเข้าเตาอบ หรือไมโครเวฟใช้เวลา 10-12 นาทีก็ทานได้เลย เมนูผักโขมอบชีสจะทำให้ลูก ๆ เปิดใจให้กับการกินผักได้ง่ายขึ้น หรือการนำผักมาเสียบไม้ย่างเป็นบาร์บีคิว ก็จะช่วยให้ลูก ๆ มีความสุขกับการทานผักมากยิ่งขึ้น และทุกขั้นตอนการทำให้แบ่งหน้าที่กันเลยอย่างเช่น คุณพ่อคุณแม่เตรียมอุปกรณ์ คุณลูก ๆ ช่วยล้างผัก แบ่งประเภทผักที่จะนำมาทำอาหาร
ที่เราต้องแบ่งหน้าที่ให้กับทุกคน จะช่วยฝึกเรื่องความรับผิดชอบและระเบียบวินัยให้กับลูก ๆ ได้ว่าเรื่องของงานบ้าน ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนเดียว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่สามารถช่วยเหลือ ทำงานร่วมกันได้ อีกสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมคือ เรื่องความปลอดภัยของลูก ๆ ด้วยนะ หลังจากเข้าครัวเสร็จแล้ว ช่วงเวลารับประทานอาหารให้พูดคุย ผ่อนคลายจิตใจของลูก ๆ จากความเครียดกันให้เยอะ ๆ เมื่อทำแบบนี้หลาย ๆ ครั้งลูกของเราจะมีระเบียบวินัยที่จะส่งผลดีไปยังเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย
3. ชวนลูก ๆ มาเลี้ยงสัตว์ ให้รู้จักความเมตตา และการแบ่งปัน
หากครอบครัวไหนที่ลูก ๆ ของเรากำลังอยู่ในวัยกำลังซน ต้องเคยได้ยินคำขอจากลูก ๆ ว่าอยากมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน หากบ้านไหนที่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงมาก่อนช่วงเวลาแบบนี้ถึงเวลาที่จะได้เรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ไปพร้อมกับเรา อาจเริ่มจากสัตว์ที่เลี้ยงได้ในพื้นที่เล็ก ๆ อย่างการเลี้ยงมดในหลอดทดลอง หากลูก ๆ เริ่มโตขึ้นอาจให้พวกเขาได้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องใช้เวลาในการดูแลอย่าง เช่น สุนัขหรือแมว แต่ส่วนนี้เราก็ต้องถามลูก ๆ ก่อนว่าพวกเขาจะดูแลสัตว์จริง ๆ ใช่ไหมเพราะสุนัขและแมว มีอายุที่ยืนยาว และ
ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไปอีกหลายปี เช่น ค่าอาหาร ค่าวัคซีน หรือค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
นอกจากความน่ารักของการเลี้ยงสัตว์ยังมีข้อดีมากมาย เช่น ช่วยฝึกให้สมาชิกรู้จักความรับผิดชอบ เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะต้องเตรียมอาหาร หรือที่ขับถ่ายให้สัตว์เลี้ยงของเรา และยังช่วยให้ลูก ๆ รู้จักการใส่ใจความรู้สึกของสัตว์เลี้ยง รู้จักเรื่องของความรัก ความผูกพันที่มีต่อสัตว์เลี้ยง
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ สำหรับกิจกรรมในครอบครัว เราสามารถสร้างได้ในทุกวัน ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันหยุด เพราะตอนนี้นอกจากหน้าที่ของแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นของพ่อแม่ และลูก ๆ ของเราก็หนักด้วยกัน การมีเวลามาใช้ชีวิตร่วมกันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีในช่วงเวลาที่แต่ละฝ่ายต้องการกำลังใจ หากใครชอบกิจกรรมเหล่านี้ อย่าเก็บไว้คนเดียวสามารถแชร์ไปให้เพื่อน ๆ ที่มีลูกอยู่ในวัยเดียวกับเราได้เลย แล้วชีวิตครอบครัวก็จะมีความสุขไปด้วยกัน