แปลงรถและบ้านเป็นเงินทุน
รอบรู้เรื่องรถ
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

แปลงรถและบ้านเป็นเงินทุน

icon-access-time Posted On 24 พฤศจิกายน 2559
By Krungsri the COACH
ไม่มีเงินทำยังไงดี? สำหรับคนที่เป็นเจ้าของกิจการส่วนตัว และหมุนเงินไม่ทัน หรือแม้แต่คนทำงานทั่วไปที่เงินไม่พอใช้ แต่มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงินจริง ๆ มองไปทางไหนก็ดูไม่มีทางออก แต่ที่จริงแล้วมี !
แนวคิดการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนนั้น คือ ทางออกสำหรับปัญหาขาดสภาพคล่องดังกล่าว ด้วยการแปลงบ้าน และรถยนต์ที่เรามีให้เป็นเงินทุน เพื่อนำไปหล่อเลี้ยงชีพ เลี้ยงกิจการให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ไม่ดีไปได้ สำหรับการแปลงรถ และบ้านเป็นเงินทุนนั้นมีหลักการคิดดังต่อไปนี้

แนวทางการประเมินมูลค่ารถยนต์ที่สามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้


ส่วนใหญ่แล้วการประเมินมูลค่ารถยนต์ที่สามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้นั้น สถาบันการเงินทั้งธนาคาร และ non-bank จะประเมินจากราคากลางเป็นเบื้องต้น และบางแห่งจะประเมินให้สูงสุด 100% ของราคาประเมินจากทางสถาบันการเงินแต่ละแห่ง โดยแบ่งเป็นรายละเอียดดังต่อไปนี้
  • รถยนต์ส่วนบุคคล และมีเล่มทะเบียนตัวจริง (โอนเล่มทะเบียนเรียบร้อย) จะได้รับวงเงินให้กู้สูงสุด 100% ของมูลค่ารถยนต์จากราคาประเมินของธนาคาร ระยะเวลาให้กู้สูงสุด 72 เดือนโดยประมาณ และอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วง 3.18-15% ต่อปี (*ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามวันและเวลาในอนาคต)
  • รถเก๋ง กระบะ รถตู้ ทุกยี่ห้อ ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป โดยไม่จำเป็นต้องโอนเล่มทะเบียน จะได้รับวงเงินสูงสุดราว 80% ของมูลค่ารถยนต์จากราคาประเมินของธนาคาร ระยะเวลาให้กู้ไม่เกิน 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 12.25-13.15% (*ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามวันและเวลาในอนาคต)
อย่างไรก็ตาม วงเงินที่จะได้รับหลังจากการประเมินมูลค่าจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับสภาพรถของเจ้าของเป็นสำคัญ และถ้าเป็นสถาบันการเงินประเภท non-bank อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าที่แจ้งมา หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามได้ที่ Krungsri Auto

แนวทางการประเมินมูลค่าบ้านที่สามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้


สำหรับแนวทางการประเมินมูลค่าบ้านที่สามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้นั้น จะคล้ายกับสินเชื่อที่ค้ำประกันเงินกู้ด้วยรถยนต์ โดยต้องพิจารณาคุณสมบัติของผู้กู้ประกอบด้วย โดยผู้กู้ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่น้อยกว่า 22 ปี ถ้าผู้กู้ทำงานประจำต้องแสดงหลักฐานเป็น Statement เงินเดือนในแต่ละเดือนย้อนหลังอย่างน้อย 3-6 เดือน แต่ถ้าประกอบอาชีพอิสระต้องมี Statement ที่มีรายได้เข้าบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน และในกรณีเจ้าของกิจการต้องมีเอกสารการประกอบกิจการส่วนตัวประกอบ พร้อม Statement ที่มีรายได้เข้าบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน
สำหรับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 15 ปี สูงสุดไม่เกิน 30 ปี โดยเงื่อนไขในรายละเอียดจะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง อัตราดอกเบี้ยถ้าเป็นสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์อยู่ประมาณ 15-22% ต่อปี (*ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามวันและเวลาในอนาคต) แต่ในกรณี Non-Bank จะมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างไป อาจสูงกว่านี้
การประเมินสินทรัพย์ต้องแยกเป็นกรณี ได้แก่ บ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ ห้องชุด ทาวน์เฮ้าส์ โดยต้องพิจารณาทำเลที่ตั้งประกอบด้วย เช่น ทำเลที่ตั้งในย่านใจกลางเมือง หรือทำเลต่างจังหวัด จะมีการตีมูลค่าสินทรัพย์ และวงเงินกู้ที่แตกต่างกัน
  • กรณีที่เป็นสินทรัพย์ประเภทบ้านพักอาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย เราสามารถได้วงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 80% ของราคาที่ประเมินโดยสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ โดยวงเงินขั้นต่ำที่เราจะได้รับขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง บางแห่งให้วงเงินมากกว่า 500,000 บาทขึ้นไป
  • กรณีเป็นสินทรัพย์ประเภทอาคารพาณิชย์ เราสามารถได้วงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 70% ของราคาที่ประเมินโดยสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ โดยวงเงินขั้นต่ำที่เราจะได้รับขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง บางแห่งให้วงเงินมากกว่า 500,000 บาทขึ้นไปเช่นกัน โดยวงเงินขั้นต่ำที่เราจะได้รับขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง บางแห่งให้วงเงินมากกว่า 500,000 บาทขึ้นไป
  • กรณีเป็นสินทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า เราสามารถได้วงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 50-70% ของราคาที่ประเมินโดยสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ โดยวงเงินขั้นต่ำที่เราจะได้รับขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง
โดยคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ ต้องมีสินทรัพย์ที่ปลอดภาระหนี้ และมีอายุไม่เกิน 65 ปี หากเป็นพนักงานประจำควรมี Statement ย้อนหลังอย่างน้อย 6-12 เดือน ในกรณีที่เป็นเจ้าของกิจการต้องประกอบกิจการมาอย่างน้อย 2 ปี ถ้ามีผู้ขอสินเชื่อร่วม หรือผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติกัน ถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มอีก หาข้อมูลความรู้ได้ที่ Plearn เพลิน by Krungsri Guru
อย่างไรก็ตาม การขอสินเชื่อสำหรับนำมาหมุนเวียนในกิจการ หรือใช้ในกรณีที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือรถยนต์ หรือรถประเภทต่าง ๆ สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เราสามารถได้รับการอนุมัติสินเชื่อก็คือ มูลค่าของสินทรัพย์ที่เราจะนำไปประเมินเป็นหลัก และคุณสมบัติของตัวเราเอง ถ้าเรามีเครดิตดี ไม่มีประวัติเสียทางการเงิน โอกาสที่เราจะได้รับสินเชื่อก็มีความเป็นไปได้ที่สูงมาก เอาใจช่วยทุกท่าน ผู้ประกอบการทุกคนให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดีครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา