แปลงคำวิจารณ์เป็นพลังให้ไปต่อ

แปลงคำวิจารณ์เป็นพลังให้ไปต่อ

By Krungsri Academy

คำติ คำวิจารณ์ และคำพูดมากมายที่เราไม่อยากได้ยิน มักจะมาตอนที่เราตั้งใจหรือเริ่มทำอะไรดี ๆ เสมอ บางคนก็ล้มเลิกจุดประสงค์ไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าคำวิจารณ์ในแง่ลบเหล่านั้นจะเกิดเป็นจริงขึ้นมา จนต้องล้มเลิกความตั้งใจไป กลับเข้าสู่วังวนเดิม ๆ คำพูดพวกนี้มีแต่จะรั้งและไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น แล้วเราจะทำอย่างไรกับคำพูดเหล่านี้ได้บ้าง? ลองมาหาคำตอบไปด้วยกัน จากประโยคคำติคำวิจารณ์เบสิก ๆ นะคะ

“ทำไม่ได้หรอก ความสามารถเธอมันไม่ถึง”

คำวิจารณ์แรก ๆ ที่มักจะออกมาจากปากผู้หวังดี (ที่อาจเจือปนประสงค์ร้าย)บอกไว้เลยว่า คนที่พูดคำพวกนี้ออกมา มักจะประเมินความสามารถจากตัวเขาเอง ไม่ได้ประเมินจากตัวเราสักนิด นั่นก็แปลว่า ที่ทำไม่ได้มีวงเล็บในใจว่า “(ฉัน) ทำไม่ได้หรอก” แล้วสิ่ง ๆ นั้น มาตัดสินคนอื่นว่าก็ทำไม่ได้เหมือนกัน อันนี้เป็นกรณีคนที่อยู่ไกลตัวนะคะ ส่วนคนใกล้ตัว เขาอาจจะพอมองเห็นว่าความสามารถเรายังไม่ถึงจริง ๆ แต่เขาไม่รู้จะใช้คำพูดดี ๆ มาบอกเรา จึงกล่าวคำวิจารณ์แบบนี้ออกมา ก็ให้ลองคิดทบทวนดูนะคะว่า ความสามารถเราถึงหรือไม่หรือแค่ไหน ยังขาดอะไร ถามเขาไปตรง ๆ เลยก็ได้ค่ะ ว่า “พี่คิดว่าหนูต้องพัฒนาส่วนไหนเพิ่มคะ? หนูจะได้ไปปรับปรุง” ทีนี้ นอกจากคำติ คำวิจารณ์ด้านลบที่บั่นทอนจิตใจแล้ว เราจะได้รับฟังเหตุผลที่เขามองเราอีกมุม เป็นการเปิดใจรับข้อเสนอแนะมาปรับปรุง พัฒนาตนเอง และนี่ล่ะจะกลายเป็นพลังลมใต้ปีกให้เราบินขึ้นอย่างมั่นคง

“สวยนะ แต่จะทำงานเป็นหรือเปล่า?”

ถ้าได้ยินคำนี้ บอกเลยว่า ให้รีบขอบคุณสำหรับคำชมพร้อมยกมือไหว้งาม ๆ เจือยิ้มและแววตาที่มั่นใจ เพราะสิ่งนี้จะเป็นการตอกย้ำกลับไปหาเจ้าของคำวิจารณ์นี้ว่า “หนูสวย และหนูมั่นใจว่าหนูทำได้ค่ะ” รับรองว่าร้อยทั้งร้อย มนุษย์ป้าต้องอึ้งแน่นอนค่ะ นอกจาก First Impression นี้แล้ว ก็อย่าลืมแสดงให้เขาเห็นด้วยนะคะ ว่าคุณน่ะ ทำงานได้อย่างที่พูดจริง ๆ เช่น ไปทำงานให้ตรงเวลา เพราะถ้าเราไปสายแล้ว มนุษย์ป้าจะคิดว่าเรามัวแต่แต่งตัวเลยสาย กินเวลาทำงาน และหมั่นศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน และมีความรู้รอบตัวไปด้วย เรียกว่าผู้หญิงหยุดสวยไม่ได้ฉันใด ก็หยุดฉลาดไม่ได้ฉันนั้น

“ที่ผ่านมา พี่ว่าโชคช่วยนะ”

ประโยคนี้ เจ็บใช่เล่นเลยใช่ไหมคะ? ก็ลองตอบพี่เขากลับไปนิ่ง ๆ ว่า “ขอบคุณค่ะ พี่ ที่ผ่านมาโชคหนูคงดีขนาดถูกรางวัลที่ 1 เลยล่ะค่ะ เพราะหนูมีทีมงานที่ดีให้หนูพร้อมลุยไปกับทีม มีหัวหน้าเก่ง ๆ ที่คอยให้คำปรึกษาที่ดีคอยสอนงานและได้เรียนรู้ จนงานของหนูสำเร็จ ต้องขอบคุณโชคของหนูจริง ๆ ค่ะ” สถานการณ์จะพลิกกลับแล้วเน้นย้ำว่าที่ผ่านมา เราทำงานได้ดีเพราะอะไร มันสมเหตุสมผลพอที่คำวิจารณ์นี้จะไม่กลับมาทำร้ายเราอีก เพราะคำว่าโชคช่วย ถ้าเราเชื่อแบบนั้นจริง ๆ คุณจะลดทอนความมั่นใจในตนเอง จนกลายเป็นว่าไม่กล้าทำอะไรอีกเลย เก็บคำว่าโชคไว้ใช้เวลาอื่นนะคะ ไม่ใช่เวลางานค่ะ

“เศรษฐกิจแบบนี้ ทำอะไรก็เจ๊ง”

คำวิจารณ์เด็ด ๆ ที่เหล่าเถ้าแก่น้อย หรือชาว Startup มักจะได้เจอ เมื่อเริ่มต้นจะทำธุรกิจหรือโปรเจกต์อะไรสักอย่าง แต่ลองมองมุมกลับดูนะคะว่า การทำธุรกิจ เราเริ่มต้นเพื่อจะมาลบล้างหรือตอบปัญหาอะไรสักอย่าง เช่น Startup ที่สร้างสรรค์งานมาเพื่อลดความลำบากในการเดินทาง ฯลฯ จุดตั้งต้นมันเริ่มต้นจากปัญหาด้วยซ้ำ นั่นก็แปลว่า เราจะได้เพิ่มอีก 1 เงื่อนไขเข้ามาเท่านั้นเอง คำวิจารณ์แบบนี้ แค่พยักหน้าพร้อมยิ้มเบา ๆ แล้วตอบว่า “จะลองดูค่ะ ถ้าพลาดก็ได้ประสบการณ์เพิ่ม ถ้ารุ่งก็จะทำต่อไปให้ดีขึ้น” แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ความแน่วแน่และคำปรึกษาดี ๆ จากคนที่ร่วมทีมกับเรา คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน มีเจ้าของธุรกิจหลายเจ้าเลยนะคะที่รุ่งสวนทางเศรษฐกิจ

“อ้วนขนาดนี้ ลดไม่ลงหรอก” หรือ “ชาตินี้ก็หาแฟนไม่ได้หรอก”

อื้อหือ คำพูดนี้ คิดแล้วอยากจะทำให้เห็นได้ไว ๆ แล้วจะโพสอวดวันละ 3 เวลาเลยใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้น ก็เริ่มเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ตัดสินใจให้แน่วแน่ และทำเป็นประจำ เริ่มจากการดูแลตัวเอง รับประทานอาหารดี ๆ ที่สำคัญก็เรื่องจิตใจค่ะ พยายามไม่เครียด พอเราสวยจากภายในแล้ว ความสวยมันจะพัฒนาตัวเองเป็นระบบอัตโนมัติเลยล่ะ เพราะเมื่อเราดูแลตัวเองดีแล้ว ไม่ว่าจะหุ่น จะหน้า จะผม หรือผิว ความสวยที่มาจากความสุขมันจะเปล่งปลั่งไปเข้าตาหนุ่ม ๆ และคนที่ให้คำวิจารณ์เหล่านั้นต้องอึ้งกับความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของคุณ คำวิจารณ์แบบนี้ ดีเสียอีกที่คุณจะได้โอกาสลุกขึ้นมาแล้วเปลี่ยนแปลงตนเอง จะคำวิจารณ์หรือคำติฉินอะไร ก็ไม่สามารถมาทำร้ายคุณได้ เท่ากับการที่คุณเอาคำพูดด้านลบเหล่านั้นมาใส่ใจ แต่ถ้าคุณพลิกแพลงใช้วิกฤตเป็นโอกาส เวลานั้นล่ะค่ะที่คุณจะมีพลังลุยต่อไป เผลอ ๆ จะกลับมาขอบคุณคำวิจารณ์เหล่านี้ด้วยซ้ำ
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา