ตั้งแต่อดีตจนถึงยุคปัจจุบัน ในบ้านเราหากจะทำนายเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมือง ชะตาชีวิต หรือสุขภาพ มีความเชื่อมาตั้งแต่คนยุคเก่า ๆ ในเรื่องของโหราศาสตร์ หรือความรู้ที่ใช้การโคจรของหมู่ดาวบนท้องฟ้า นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ และมาพยากรณ์ว่าจะ
เกิดอะไรในอนาคตขึ้นบ้าง อย่างเช่น การเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ หรือดวงอาทิตย์ การเกิดข้างขึ้น ข้างแรม นักโหราศาสตร์เลยเก็บข้อมูลเหล่านี้ แล้วเอามาผูกกับโชคชะตาของคนเราว่า หากเกิดการเปลี่ยนแปลงของหมู่ดาวขึ้นเมื่อไหร่ จะส่งผลกับชีวิตของคนเราในเรื่องของการเงิน การงาน หรือแม้กระทั่งความรัก เป็นความเชื่อสืบทอดต่อกันมา เป็นการใช้ข้อมูลเดิม มาทำนายว่าคนเหล่านี้จะมีพฤติกรรม และความคิดเป็นอย่างไร และจะเกิดผลอะไรบ้างตามมา และเชื่อมโยงความน่าจะเป็นกับคนอื่น ๆ ที่มีลักษณะแบบเดียวกัน
แต่เมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนแปลง เกิดเทคโนโลยีมากมาย ความรู้เกี่ยวกับดวงดาวมากขึ้น ข้อมูลเดิม ๆ จากนักโหราศาสตร์ เช่น เรื่องของดวงดาว วันและเวลาเกิดของมนุษย์ อาจไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับการทำนายชีวิตในอนาคต เพราะข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์มันน้อยเกินไป ทั้งนี้เมื่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง สังคมของมนุษย์มีความซับซ้อนมากขึ้น มนุษย์มีความรู้ในเรื่องนอกเหนือจากเรื่องของดวงดาว ทำให้เรามีข้อมูลเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น หากจะใช้การทำนายโดยหลักโหราศาสตร์แบบในอดีต ก็คงจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ และขาดความน่าเชื่อถือ จนเมื่อมนุษย์ได้มีการพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์จนสร้าง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ
AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ และจัดการข้อมูลต่าง ๆ หรือที่เรียกว่าการใช้ “Data Analytic” เข้ามาใช้จนสามารถทำนายชีวิตในอนาคตได้แม่นยำขึ้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันหน่อยสิว่าเรื่องของโหราศาสตร์ และ AI ทั้งสองสิ่งนี่เกี่ยวข้องกันแค่ไหน? ไปรู้พร้อมกันเลย
AI ทำนายสภาพอากาศแบบเรียลไทม์
ในอดีตนักโหราศาสตร์จะใช้ข้อมูลที่เคยจดบันทึก นำมาวิเคราะห์ และทำนายว่าจะเกิดสภาพอากาศอะไรในอนาคตซึ่งก็ตรงบ้าง คลาดเคลื่อนบ้าง แต่ในตอนนี้เราสามารถใช้ AI พยากรณ์อากาศให้เราทราบโดยใช้เวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้นโดยเรื่องนี้เป็นผลงานงานวิจัยจาก Google บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังสามารถใช้ AI คำนวณจากข้อมูลสภาพอากาศ ความชื้นสัมพันธ์ และการเคลื่อนที่ของก้อนเมฆ แบบเรียลไทม์ ทำนายผลได้เลยว่าพื้นที่ของเราในรัศมี 1 กิโลเมตรต่อจากช่วงเวลาที่คำนวณเสร็จไปอีก 6 ชั่วโมงจะมีสภาพอากาศอย่างไร ณ จุดไหนจะมีฝนตกบ้าง โดยประมวลผลจากข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง ณ ช่วงเวลานั้น ทำให้ผลที่ได้แม่นยำที่สุด
AI ช่วยทำนายการลงทุน ไม่พลาดโอกาสทำกำไร
สำหรับเรื่องของการเงิน การลงทุน จากเดิมที่ใช้จักรราศีช่วยทำนายว่าใครจะมีโชคลาภ ความแม่นยำของคำทำนายก็อาจไม่เต็มร้อย เพราะข้อมูลที่ใช้ทำนายเป็นเพียงความเชื่อสืบทอดกันมา แต่ในโลกปัจจุบันเราสามารถทำนายการลงทุนได้แม่นกว่าการใช้หลักโหราศาสตร์ โดยใช้ AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนจากข้อมูลอ้างอิงได้ รวมทั้งปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา เช่น ข่าวสารที่ทำให้ราคาหุ้นขึ้นหรือลง AI สามารถวิเคราะห์ให้เราสามารถคัดกรองการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง และนอกจากการใช้ AI เข้ามาช่วยเหลือบริษัทหลักทรัพย์ของไทยอย่างเช่น ธนาคารกรุงศรี ก็เริ่มมีการ
ใช้ Robo Advisor ร่วมกับ AI เข้ามาช่วยวางแผนการลงทุนเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบดิจิทัลให้ทุกคนลงทุนได้แบบง่ายขึ้นนั่นเอง
AI ช่วยทำนายสุขภาพแบบล่วงหน้า ช่วยป้องกันโรคร้าย
สำหรับเรื่องของสุขภาพกับความเชื่อตามจักรราศี ก็ขาดกันไม่ได้ อย่างเช่น ราศีสิงห์มีความเชื่อเรื่องสุขภาพว่ามีระบบการทำงานของหัวใจดี และกระดูกสันหลังแข็ง โดยใช้การอ้างอิงจากสิงโต จากลักษณะร่างกายแข็งแรง มีหัวใจของการเป็นนักล่า และเมื่อความรู้เรื่องการแพทย์ของคนถูกพัฒนาเรียนรู้มากขึ้น การทำนายสุขภาพด้วยหลักโหราศาสตร์ ก็ไม่ค่อยแม่นยำ เพราะร่างกายมนุษย์ซับซ้อนเกินกว่าจะใช้ข้อมูลจากวิชาโหราศาสตร์ทำนายเพียงอย่างเดียว แต่ในตอนนี้การใช้ AI สามารถทำนายสุขภาพของมนุษย์ได้แม่นยำสูงถึง 95% โดยเฉพาะการทำนายโรคมะเร็งผิวหนัง, มะเร็งปอด หรือมะเร็งปากมดลูก AI สามารถวิเคราะห์ได้จากตัวอย่างข้อมูลสุขภาพ และผล X-ray นับไม่ถ้วน แล้วทำนายว่าเรามีโอกาสเกิดโรคมะเร็งมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในปัจจุบันก็มี AI ทั้งจาก Google และ MIT ที่มีการพัฒนาด้านสุขภาพช่วยให้เราป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคร้ายก่อนสายเกินแก้
มาถึงจุดนี้อาจพูดได้ว่าหลักโหราศาสตร์ เป็นวิชาที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบเดิม ๆ ที่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ซับซ้อน ซึ่งหากใครจะเชื่อการวิเคราะห์จากหลักโหราศาสตร์ก็ไม่ได้ผิด แต่หากอยากทราบข้อมูลที่แม่นยำ และน่าเชื่อถือแบบตามหลักวิทยาศาสตร์ การใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลที่มี อาจทำให้เราได้พบกับผลลัพธ์ที่เป็นจริงมากขึ้น และในอนาคตเมื่อ AI มีการเรียนรู้ข้อมูลที่มากกว่านี้ ไม่ว่าเรื่องไหนที่เราอยากรู้ AI นี่แหละจะช่วยทำนายชีวิตในอนาคตให้กับเราเอง