อยากเที่ยวต่างประเทศหลังแต่งงาน ไปไหนดี? มาดูกัน

อยากเที่ยวต่างประเทศหลังแต่งงาน ไปไหนดี? มาดูกัน

By Krungsri Plearn Plearn
เติมความหวานให้ชีวิตคู่หลังแต่งงานเหมือนหยดน้ำผึ้งเดือนห้าที่เขาว่ากัน กับที่เที่ยวต่างประเทศยอดฮิตที่เหมาะกับคู่รัก โดยเฉพาะคนที่เพิ่งผ่านงานวิวาห์กันมาหยก ๆ เลย ฮิ้ววว เพราะไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยวกับคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว นอกจากจะได้ประสบการณ์ร่วมกันแล้ว ยังได้ออกไปเปิดหูเปิดตามากขึ้นอีกด้วย
สำหรับคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันที่อยากฮันนีมูนที่ต่างประเทศ วันนี้เรามีที่เที่ยวดี ๆ มาแนะนำ พร้อมทริควางแผนทริปสำหรับคู่รักโดยเฉพาะ จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งทีก็ต้องแพลนแบบจัดเต็มให้สมกับชีวิตหลังแต่งงานไปเลย

รวมที่เที่ยวฮันนีมูนต่างประเทศมีที่ไหนบ้าง?

1. ญี่ปุ่น (Japan)

ประเทศที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย และติดอันดับที่คนไทยอยากไปเที่ยวมากที่สุด โดยมีจำนวนถึง 81% จากผลสำรวจ สาเหตุก็เพราะบรรยากาศที่ประเทศญี่ปุ่นเย็นสบาย และสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองที่สะอาดเรียบร้อย ทำให้ดูสบายตาเหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนมากที่สุด อีกทั้งเรื่องอาหารเองก็ไม่น่ากังวลเลยเพราะคนไทยค่อนข้างคุ้นชินกับอาหารญี่ปุ่นพอสมควร

ถ้าเป็นสายธรรมชาติ อยากได้รูปสวย ๆ ไว้กลับมาอวดเพื่อนว่าได้เที่ยวกับคุณแฟนก็ต้อง Hitachi Seaside Park ตั้งอยู่ที่เมืองฮิตาชินากา (Hitachinaka) ของจังหวัดอิบารากิ เป็นสวนดอกไม้ที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ใครที่ชื่นชอบดอกไม้กับธรรมชาติเย็น ๆ แนะนำที่นี่เลย เพราะในแต่ละฤดูเองก็จะมีดอกไม้ไม่เหมือนกันด้วย เรียกได้ว่ามากี่ทีก็ไม่ซ้ำ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็จะแวะไปชมทุ่งดอกเนโมฟีเลีย ด้วยความที่เป็นดอกไม้เล็กมีสีฟ้าสดใสเหมือนลอยท่ามกลางทะเลจึงเป็นที่นิยม และเหมาะกับการมาพักผ่อนกับแฟนสุด ๆ
เที่ยวต่างประเทศ Hitachi Seaside Park ประเทศญี่ปุ่น
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://shorturl.asia
แนะนำสายพักผ่อนหย่อนใจกับเมืองซัปโปโร เมืองแห่งออนเซ็นที่จะได้พาคุณแฟนมานั่งแช่น้ำร้อนสบาย ๆ ชมธรรมชาติกลางป่าเขา ให้ฟิลพักผ่อนมาก ได้สัมผัสบรรยากาศนอนเรียวกังแบบดั้งเดิมเหมือนย้อนไปอยู่ญี่ปุ่นยุคก่อน ๆ ซึ่งค่าแช่ออนเซ็นก็จะแตกต่างกันไปแต่ละที่แล้วแต่ช่วงเทศกาลด้วย แต่แนะนำว่าไหน ๆ ก็มาถึงซัปโปโรแล้วก็นอนเรียวกังไปยาว ๆ กลับจากเที่ยวกลางวันก็ลงแช่น้ำให้คลายกล้ามเนื้อจากการเดินทางกันไปเลย
เที่ยวต่างประเทศ โฮเฮเคียว ออนเซ็น (Hoheikyo Onsen) ประเทศญี่ปุ่น
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://karaksahotels.com

2. เกาหลี (Korea)

ประเทศเกาหลีเป็นอันดับ 2 ที่คนไทยอยากไปรองจากญี่ปุ่น แต่แทนที่จะไปเมืองโซลที่คนเดินกันพลุกพล่าน ก็จับมือแฟนไปสวีทกันที่ปูซาน เมืองติดทะเลของเกาหลีกันดีกว่า มีทั้งชายหาด และยังได้บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน ไม่ต้องวุ่นวายเหมือนอยู่ในตัวเมือง

แนะนำ Gamcheon Culture Village ที่ปูซานเลย เป็นหมู่บ้านสีสันสดใส ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็หลากสีไปหมด แถมยังเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมที่มีแสดงงานศิลป์แทรกในทุกจุดอีกด้วย ซึ่งจุดเช็คอินของที่นี่ก็จะเป็น ป้ายปลาไม้ยักษ์ กับจุดชมวิวเจ้าชายน้อย ที่สามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านได้ทั้งหมด ได้ฟิลเหมือนเล่นซีรี่ส์เกาหลีเลย
เที่ยวต่างประเทศ หมู่บ้าน Gamcheon Culture Village ปูซาน
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.creatrip.com

3. ปารีส (Paris)

เมืองสุดโรแมนติกที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่บรรยากาศสีชมพูของคู่รัก ทั้งถนนหนทางที่เดินชิลไม่ต้องเร่งรีบ แฟนใครเป็นสายเสพงานศิลป์บอกเลยว่าต้องหลงรักปารีสแน่นอน เพราะเป็นประเทศที่มีแต่สถาปัตยกรรมให้ชมตลอดทาง และจะขาดไปไม่ได้เลยก็คือหอไอเฟล แลนด์มาร์กที่ต้องมาเก็บภาพสวย ๆ ของไอคอนปารีส เป็นจุดเช็คอินของบรรดาคู่รักที่จะพากันมาขอแต่งงานกันที่นั่นมากที่สุด

อีกที่คือมหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral) เป็นสถาปัตยกรรมแนวโกธิกช่วงก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส (ศตวรรษที่ 10) หลังถูกบูรณะให้กลับมาสวยสมบูรณ์เหมือนเดิมแล้วก็กลายมาเป็นอีกจุดเช็คอินที่คู่รักพากันไปขอแต่งงานที่นั่น ซึ่งภายในวิหารจะถูกตกแต่งด้วยสีทองให้ดูหรูหราเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในงานเต้นรำของพระราชวัง นอกจากจะสวยจนตะลึงแล้วก็ยังมีประวัติยาวนานอีกด้วย เหมาะกับคู่รักที่พากันมาฮันนีมูนที่นี่เพื่อให้ชีวิตคู่ยืนยาวเหมือนเรื่องราวของวิหารแห่งนี้
เที่ยวต่างประเทศ มหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral) ประเทศฝรั่งเศส
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.dw.com

4. อิตาลี (Italy)

ไหน ๆ ก็มาทางฝั่งยุโรปแล้ว คงจะพลาดอิตาลี เมืองแห่งเสน่ห์ด้านสถาปัตยกรรมไปไม่ได้ ยิ่งใครที่เป็นแฟนตัวยงของอาหารเส้นสปาเกตตี้ พิซซ่ายิ่งต้องหลงรักแน่นอน เพราะอิตาลีคือต้นกำเนิดของอาหารประเภทนี้ นอกจากจะได้บรรยากาศแล้วก็ยังได้มากินอาหารต้นตำรับอีกด้วย ล่องเรือไปตามคลองน้ำใสกับเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคลองค้าขายอย่าง เวนิส (Venice) ซึ่งต้องเดินทางทางน้ำเป็นหลัก ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเย็นสบาย ชมบ้านเมือง และวิวทิวทัศน์รอบ ๆ คู่รักที่มาฮันนีมูนที่นี่บอกเลยว่าต้องติดใจแน่นอน
เที่ยวต่างประเทศ เวนิส (Venice) ประเทศอิตาลี
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://travellersworldwide.com
หอเอนปิซ่า (La Torre di Pisa) จะขาดไปได้ไงกับจุดเช็คอินที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์กของอิตาลี หอคอยระฆังสูง 8 ชั้น สายคอนเทนต์คอนใจต้องห้ามพลาดเลย เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะถ่ายรูปกับหอเอนปิซ่าด้านนอก แต่ละคนก็ครีเอทรูปกันปัง ๆ ทั้งนั้น งานนี้อย่าได้ยอม! ต้องพาแฟนไปถ่ายรูปคู่เล่นกับหอให้ได้!
เที่ยวต่างประเทศ หอเอนปิซ่า (La Torre di Pisa) ประเทศอิตาลี
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.wetheitalians.com

5. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)

คู่รักฮันนีมูนที่อยากมาพักผ่อนหลังผ่านงานแต่งไปบอกเลยว่า โดน! เป็นอีกหนึ่งประเทศในฝั่งยุโรปที่จัดได้ว่ามีธรรมชาติ และวิวทิวทัศน์สวยสดเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในนิยายแฟนตาซีเลยก็ว่าได้ ยิ่งคู่รักคู่ไหนที่เลิฟอากาศเย็น ๆ ได้ใส่เสื้อหนา ๆ แต่งตัวสนุกแล้ว ที่นี่ก็ตอบโจทย์ในทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ นอกจากได้บรรยากาศแล้วก็ยังมีกิจกรรมอย่างอื่นให้ทำอีกมาก การเดินทางก็สะดวกสบาย ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบเลยทีเดียว

มาเก็บแลนด์มาร์กกันที่ “Jungfraujoch” สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ก่อนจะขึ้นไปถึงยอดเขาด้านบนก็จูงมือพาคุณแฟนไปนั่งรถไฟรางสีแดง ชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งดอกไม้ตัดกับภาพเทือกเขาหิมะปกคลุม ก่อนจะไปถึงกระเช้าลอยฟ้าที่พอมองลงมาก็แทบจะไม่เห็นคน เหลือทิ้งไว้แค่ภาพทิวทัศน์สวยสดเท่านั้น บอกเลยว่าได้วิวหลักล้านแน่นอน
เที่ยวต่างประเทศ Jungfraujoch สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.climate.unibe.ch
ถ้าไม่อยากขึ้นเขาก็ลองเปลี่ยนโลเคชั่นมาเที่ยว “Interlaken” เมืองทะเลสาบที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz รอบล้อมด้วยทิวทัศน์เทือกเขาเสริมให้ภาพยิ่งดูอลังการงานสร้างสุด ๆ
เที่ยวต่างประเทศ อินเตอร์ลาเคน Interlaken ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://fullsuitcase.com
หลังจากเลือกสถานที่ฮันนีมูนได้แล้ว ตามมาดูทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยทำให้ทริปคู่นี้แฮปปี้ยิ่งขึ้นกันดีกว่า เพราะเวลาไปเที่ยว เราก็ต้องวางแพลนทริปว่าจะไปไหนบ้าง พักที่ไหน ปกติถ้าไปกับเพื่อนก็ยังไม่เท่าไร มีเฮฮา ทะเลาะถกเถียงกันบ้าง แต่ถ้าจะไปกับแฟนทั้งที ก็ไม่อยากให้ทั้งทริปอึมครึมเพราะมีปากเสียงกันหรอกจริงไหม มาวางแผนทริปให้สนุกสุดเหวี่ยง มีแต่บรรยากาศรัก ๆ ดีกว่า!

เทคนิคเตรียมตัวไปเที่ยวกับแฟนยังไงไม่ให้ตึง!

1. คุยกันก่อนว่าจะไปไหนบ้าง

สิ่งสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ทุกคู่คือการคุยกัน ที่บอกการคุยก็ต้องคุยให้เคลียร์เข้าใจตรงกันด้วย ไม่ใช่ปากบอก ‘ตามใจเธอ’ แต่ในใจลึก ๆ อีกคนรู้สึกไม่เอนจอยก็พาทริปกร่อยได้เหมือนกันน้า
เทคนิคเตรียมตัวไปเที่ยวกับแฟนยังไงให้ตอบโจทย์
แรกเริ่มเลยก็ต้องปรึกษากันก่อนว่าใครอยากไปประเทศไหน พอตรงใจกันแล้วก็เลือกว่าอยากเที่ยวสไตล์แบบไหนเพื่อให้ทริปไปด้วยกันได้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ต่างคนต่างสไตล์เกินก็ให้เปิดใจแล้วแบ่งคนละครึ่งทาง อย่างคนหนึ่งสายลุย อีกคนสายช้อป ก็แวะที่ช้อปใหญ่ ๆ สักที่ให้คุณแฟนได้รู้สึกว่าใช้เงินคุ้มค่าแล้ว พาไปทำกิจกรรมใหม่ ๆ ที่อีกคนไม่เคยลอง สร้างประสบการณ์ร่วมกัน เพราะได้ไปต่างประเทศทั้งทีก็ต้องเอาให้สุดเหวี่ยง!

2. วางแพลนทริป แบบมองเผื่ออนาคตล่วงหน้า

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘การเผื่อเวลา’ เพราะอย่างบางไฟลท์บินก็อาจมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ต้องเลื่อนเวลาออกเครื่อง จนพลอยทำให้กำหนดการที่วางไว้ล่ม จากตอนแรกที่คิดว่าจะถึงที่หมายช่วงบ่าย พอไฟลท์เลทไป 3 ชั่วโมง ก็อาจทำให้ไปถึงมืดจนร้านค้า และที่เที่ยวพากันปิดแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องมีแผนสำรองเผื่อวันอื่น ๆ หากวันแรกแผนเละไม่เป็นท่าด้วย

3. ค่าใช้จ่ายก็สำคัญ ตั้งงบไว้กระเป๋าจะได้ไม่ฉีก

ยิ่งแฟนใครเป็นสายช้อปยิ่งต้องห้าม ๆ กันบ้าง ไม่ว่าจะช้อปแบรนด์เนม ของกินหรือของใช้อื่น ๆ ถ้าไม่คุมงบให้ดี แล้วจ้องแต่จะใช้บัตรเครดิตจ่ายก็อาจมีปัญหาหลังกลับจากทริปฮันนีมูนได้เหมือนกัน ควรวางแผนตั้งแต่ในขั้นตอนแรกทั้งเรื่องค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเดินทางในประเทศ ค่ากิน และค่าช้อปไม่ควรเกินเท่าไร รวมถึงศึกษาข้อจำกัดการใช้จ่ายบางประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่นถ้าเป็นนอกเมืองจะไม่รับบัตรเครดิต ต้องใช้เงินสดอย่างเดียว และถ้าเพื่อความชัวร์สำหรับคนที่อยากได้เรทแลกเงินดี ๆ สามารถลองใช้บริการบัตร Krungsri Boarding Card พกใบเดียว ไม่ต้องพกเงินสดเยอะ ๆ อีกต่อไป แล้วเรื่องการใช้เงินช้อปปิ้ง กิน เที่ยวระหว่างฮันนีมูน จะเปย์เท่าไหร่ ก็คุ้มเพราะได้เรทแลกเงินดีสุด ๆ ไปเลย
วางแพลนทริป แบบมองเผื่ออนาคตล่วงหน้าก่อนไปเที่ยวกับแฟน

4. หาวันว่างมาช่วยกันจองตั๋ว

หลายครั้งที่ออกทริปไปแล้วมักจะมีปัญหาจากเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะทิ้งให้คนใดคนหนึ่งจัดการเรื่องเงินทั้งหมด ตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พักหรือแม้แต่ร้านอาหาร เพราะแค่ตั๋วเครื่องบินก็แทบจะตาลายแล้วกว่าจะได้ตั๋วราคาดี ๆ แต่จะหมดปัญหาไปเมื่อทำตามทริคจองตั๋วทั้งหมด ตามนี้!

> เปรียบเทียบตั๋วเครื่องบินหลาย ๆ สายการบินสักหน่อย เพราะราคาตั๋วเครื่องบินในแต่ละแพลตฟอร์มจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงขึ้นอยู่กับความถี่ในการเข้าไปเช็กด้วย ซึ่งทางลัดง่าย ๆ ก็คือใช้แพลตฟอร์มสำหรับจองตั๋วเครื่องบินที่ช่วยเปรียบเทียบราคาตั๋วแบบอัตโนมัติไปเลย แบบนี้ก็จะช่วยย่นเวลาที่เราต้องมานั่งหาเองด้วย หรือจะใช้ฟีเจอร์แจ้งเตือนราคาที่เรากำหนดงบไว้ก็ได้

> จองตั๋วล่วงหน้านาน ๆ หน่อย ยิ่งถ้าจองข้ามปีได้ก็จะเจอตั๋วราคาดีกว่ามาก แต่ก็อาจจะจองล่วงหน้าอย่างน้อย 8-12 สัปดาห์ เพราะบางครั้งการจองล่วงหน้านานเกินไปก็อาจทำให้พลาดโปรโมชั่นเด็ด ๆ ที่โผล่ออกมาหลังเราจองไปแล้ว ที่สำคัญการจองล่วงหน้าก็ทำให้เรามีเวลาในการตัดสินใจด้วย

> เลือกไปวันธรรมดา ดีกว่าไปช่วงวันหยุด แนะนำเลยว่าตั๋วช่วงวันธรรมดามักจะได้ราคาดีกว่าวันหยุดติดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งราคาที่พักกับตั๋วก็มักจะเจอราคาถูกลงกว่าครึ่งหนึ่ง แถมเวลาไปถึงก็จะได้ไม่ต้องแออัดกับนักท่องเที่ยวคนอื่นด้วย ที่สำคัญคือควรเลี่ยงช่วงวันหยุดยาว หรือเทศกาลจะดีกว่านะ เพราะช่วงนั้นนอกจากจะมีแต่นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศแล้ว ก็ยังมีคนในประเทศที่หยุดงานเพื่อออกมาใช้ชีวิตด้วยเหมือนกัน

> จ่ายให้ถูกวิธี ก็ช่วยประหยัดค่าตั๋วได้ อย่างการใช้บัตรเครดิตที่สามารถสะสมแต้มต่าง ๆ ได้ ส่วนนี้ก็จะมาช่วยลดราคาตั๋วเครื่องบินได้เยอะเลย นอกจากจะได้พ้อยท์สะสมแล้ว ยังได้ราคาที่ถูกใจอีกด้วย ดังนั้นเวลาเปรียบเทียบราคาตั๋ว ก็ควรเลือกเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มจองตั๋วที่มีตัวเลือกการจ่ายได้หลากหลายด้วย
แน่นอนว่าทริคการจองตั๋วเครื่องบินนี้ก็สามารถใช้ร่วมกับการจองโรงแรม หรือที่พักอื่น ๆ ได้เหมือนกัน สำหรับการจองโรงแรมหรือที่พัก แนะนำว่าให้ลองอ่านรีวิวสถานที่จากหลาย ๆ แหล่งเพื่อประกอบการตัดสินใจนะ!

สิ่งสำคัญของการไปเที่ยวกับแฟนด้วยกัน ไม่ใช่แค่ต้องทำความเข้าใจกันและกันให้มาก ๆ หรือแค่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบ ไม่ชอบอะไร แต่ยังเป็นเรื่องของการยอมรับให้หลาย ๆ สิ่งหลายอย่างที่เขาเป็น ทั้งเรื่องความคิด ทัศนคติ มุมมอง ในทุกความสัมพันธ์ไม่มีจังหวะไหนที่จบการเรียนรู้ มีแต่เราจะได้เรียนรู้ความเป็นเขามากขึ้น เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมเปิดใจ แล้วทำความเข้าใจกันให้มาก ๆ เพื่อจับมือไปเที่ยวด้วยกันได้ทุกที่
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา