กองทุนกลุ่ม KKP SG-AA

พร้อมรับมือกับทุกสภาวะการลงทุน
กองทุนกลุ่ม KKP SG-AA
ลงทุนในตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือ ทรัพย์สินอื่น ทั้งในและต่างประเทศ โดยอาจลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% ของ NAV กองทุนปรับสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์แต่ละประเภทได้ 0-100% ของ NAV ภายใต้กรอบคำแนะนำด้าน Asset Allocation ที่ได้รับจากที่ปรึกษาการลงทุน

โดยมีสัดส่วนการลงทุน (Strategic Asset Allocation) ใน หุ้น เป็นดังนี้
KKP SG-AA Light ประมาณ 24% ของ NAV
KKP SG-AA ประมาณ 50% ของ NAV
KKP SG-AA Extra ประมาณ 76% ของ NAV
ระดับความเสี่ยง : 5 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง

ทำไมต้อง KKP SG-AA

  1. สูตรสำเร็จสำหรับการกระจายการลงทุนในหลายประเภทสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีทีมผู้จัดการกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุนคอยคัดเลือกสินทรัพย์และปรับสัดส่วนการลงทุน ให้เหมาะสมกับแต่ละสภาวะการลงทุน
  2. กองทุนผสานคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Asset Allocation - SAA) กับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ทั้งแบบ Top-Down Approach และ แบบ Bottom-up Approach เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากขึ้น
  3. กองทุนบริหารการจัด Asset Allocation โดย บล.เกียรตินาคินภัทร ที่ปรึกษาการลงทุนของกองทุน ที่มากด้วยประสบการณ์และนักวิเคราะห์คุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และบริหารการคัดเลือกหลักทรัพย์ โดยทีมการลงทุนและนักวิเคราะห์ของ บลจ.ภัทร

KKP SG-AA เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการกระจายเงินลงทุนไปในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีผู้จัดการกองทุนคอยปรับเปลี่ยนสัดส่วนตามสภาวะตลาด
  • ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง หรือสามารถรับความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ที่กองทุนรวมไปลงทุนได้ และสามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป
ข้อมูลเพิ่มเติมกองทุน

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากเอกสารของกองทุน ณ พ.ย. 63 แต่ธนาคารมิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยธนาคารขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า • กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

  • การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน รวมทั้งไม่ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก จึงมีความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน
  • ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนรวมต่อเมื่อเห็นว่าการลงทุนในแต่ละกองทุนรวมนั้นมีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการลงทุนของผู้ลงทุน และผู้ลงทุนสามารถยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวม โดยเฉพาะ นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนรวม และคู่มือการลงทุนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศบางส่วน บริษัทจัดการอาจจะใช้หรือไม่ใช่เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายใต้ดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และ/หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และเนื่องจากกองทุนรวมมีการลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ของประเทศที่กองทุนรวมไปลงทุนได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) จึงมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วน หรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
  • กองทุนรวมบางประเภทอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk profile) ของผู้ลงทุนที่ได้ประเมินไว้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ดังนั้น ผู้ลงทุนจะต้องเข้าใจและรับทราบความเสี่ยงของกองทุนรวมดังกล่าวก่อนทำการลงทุนและหากประสงค์จะลงทุนในกองทุนนั้น ผู้ลงทุนจะต้องลงนามรับทราบและยอมรับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk profile) ของผู้ลงทุนเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนทำการลงทุนทุกครั้ง
  • กองทุนรวม SSF/SSFX เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม LTF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในหุ้น และ RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่มตามกฎเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ผู้ลงทุนไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในฐานะผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับบริษัทจัดการเท่านั้น
ผู้ลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
อ่านทั้งหมด

เปิดบัญชีกองทุนและสมัครบริการวางแผนลงทุนแบบประจำบน KMA ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS, Android และ Huawei

อยู่ที่ไหนก็สามารถลงทุนได้ ให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุน
Appstore
Googleplay
Huawei
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา