PRINCIPAL iPROPEN

ทางเลือกเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี
PRINCIPAL iPROPEN
ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ REITs และ/หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และ/หรือ หน่วยลงทุนของกองทุนรวม รวมถึง ETF และ/หรือ หน่วยของกองทุน private equity ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนใน ตราสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
ระดับความเสี่ยง : 8 เสี่ยงสูงมาก

ทำไมต้อง PRINCIPAL iPROPEN

  1. โอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอจากการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพดี ที่มีรายได้ค่าเช่ามั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
  2. มีนโยบายการลงทุนที่ยืดหยุ่น และเน้นการคัดเลือกตราสารที่ปัจจัยพื้นฐานดี เพื่อให้ได้หลักทรัพย์ที่มีคุณภาพดี และสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ
  3. บริหารการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือก Principal Real Estate Investors LLC บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ให้บริการด้านการจัดการลงทุนที่จัดตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา (Outsourced fund manager)

PRINCIPAL iPROPEN เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
  • ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง หรือสามารถรับความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่กองทุนรวมไปลงทุนได้ และสามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากเอกสารของกองทุน ณ พ.ค. 64 แต่ธนาคารมิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยธนาคารขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า • กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้จัดการกองทุนอาจเข้าทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมฯ โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และในกรณีที่ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงฯ ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ • ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

  • การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน รวมทั้งไม่ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก จึงมีความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน
  • ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนรวมต่อเมื่อเห็นว่าการลงทุนในแต่ละกองทุนรวมนั้นมีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการลงทุนของผู้ลงทุน และผู้ลงทุนสามารถยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวม โดยเฉพาะ นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนรวม และคู่มือการลงทุนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศบางส่วน บริษัทจัดการอาจจะใช้หรือไม่ใช่เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายใต้ดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และ/หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และเนื่องจากกองทุนรวมมีการลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ของประเทศที่กองทุนรวมไปลงทุนได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) จึงมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วน หรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
  • กองทุนรวมบางประเภทอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk profile) ของผู้ลงทุนที่ได้ประเมินไว้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ดังนั้น ผู้ลงทุนจะต้องเข้าใจและรับทราบความเสี่ยงของกองทุนรวมดังกล่าวก่อนทำการลงทุนและหากประสงค์จะลงทุนในกองทุนนั้น ผู้ลงทุนจะต้องลงนามรับทราบและยอมรับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk profile) ของผู้ลงทุนเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนทำการลงทุนทุกครั้ง
  • กองทุนรวม SSF/SSFX เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม LTF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในหุ้น และ RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่มตามกฎเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ผู้ลงทุนไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในฐานะผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับบริษัทจัดการเท่านั้น
ผู้ลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
อ่านทั้งหมด

เปิดบัญชีกองทุนและสมัครบริการวางแผนลงทุนแบบประจำบน KMA ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS, Android และ Huawei

อยู่ที่ไหนก็สามารถลงทุนได้ ให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุน
Appstore
Googleplay
Huawei
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา