ทำไมจึงควรลองแบ่งเงินฝากมาลงทุนในกองทุนรวม?
- เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินในบัญชีเงินฝาก
- มีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคอยบริหาร จัดการเงินลงทุน
- กองทุนรวมมีความหลากหลาย สามารถเลือกลงทุนได้ตามเป้าหมาย และระดับความเสี่ยงที่รับได้
กองทุนรวมแนะนำจากหลายบลจ. ที่คุณสามารถซื้อ-ขายได้ง่ายๆ ผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กองทุนรวมที่แนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี ฟันด์ (UEDTECH) กองทุนเปิด วรรณ โกลบอล อีคอมเมิร์ซท (ONE-GECOM) กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A) กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มเซ็ท 50 หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล (1AMSET50-RU) และ กองทุนเปิดเคเคพี สตราทิจิค แอสเซ็ท อโลเคชั่น ชนิดทั่วไป (KKP SG-AA)
โดยแบ่งตามประเภท ดังนี้
1. กองทุนรวมหุ้น
เป็นกองทุนที่นำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในตราสารทุน หรือ หุ้น ไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม จึงมีความเสี่ยงสูง เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว (5 ปีขึ้นไป) และสามารถยอมรับผลขาดทุนได้
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน ณ วันที่ 29 มกราคม 2564
*หากกองทุนรวมจัดตั้งน้อยกว่า 1 ปี ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็นตามที่เกิดขึ้นจริง แต่หากกองทุนรวมจัดตั้งตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็น % ต่อปี **ดัชนี MSCI World ESG Leaders (NR) ซึ่งเป็นดัชนีเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก (Master Fund) ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน สัดส่วน 100.00% ***กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัว ในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
ที่มา: บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย)
ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2564
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563
*หากกองทุนรวมจัดตั้งน้อยกว่า 1 ปี ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็นตามที่เกิดขึ้นจริง แต่หากกองทุนรวมจัดตั้งตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็น % ต่อปี **ดัชนีชี้วัดที่ควรใช้เปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานของกองทุนนี้ คือ อัตราผลตอบแทนของดัชนี EQM Online Retail ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่ลงทุน ตามสัดส่วนการทำ hedging ประมาณร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอัตราผลตอบแทนของดัชนี EQM Online Retail ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน ตามสัดส่วนที่ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนประมาณร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน, การคำนวณอัตราผลตอบแทนดังกล่าวคำนวณโดยไม่ได้หักค่าธรรมเนียมการซื้อขายหน่วยลงทุน, แสดงผลตอบแทนเป็น Annualized ถ้ามากกว่า 1 ปี, ความถี่ในการปรับน้ำหนักของ Composite Benchmark คำนวณเป็นรายวัน
ที่มา: บลจ. วรรณ
ข้อมูล ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A)
ระดับความเสี่ยง 6 เสี่ยงสูง
ลงทุนหุ้นไทยพื้นฐานดี 10-15 บริษัทที่มีโอกาส และศักยภาพในการเติบโตสูง โดยลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน ณ วันที่ 31 มกราคม 2564
*หากกองทุนรวมจัดตั้งน้อยกว่า 1 ปี ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็นตามที่เกิดขึ้นจริง แต่หากกองทุนรวมจัดตั้งตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็น % ต่อปี **ดัชนีผลตอบแทนรวม SET TRI เอกสารการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดและนำเสนอผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: บลจ. ทิสโก้
ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2564
กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มเซ็ท 50 หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล (1AMSET50-RU)
ระดับความเสี่ยง 6 เสี่ยงสูง
ลงทุนหุ้นไทยพื้นฐานประมาณ 25-30 บริษัทที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 โดยลงทุนในตราสารทุนไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563
*หากกองทุนรวมจัดตั้งน้อยกว่า 1 ปี ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็นตามที่เกิดขึ้นจริง แต่หากกองทุนรวมจัดตั้งตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็น % ต่อปี **ดัชนีชี้วัด คือ ดัชนีผลตอบแทนรวม SET50 (SET50 TRI) สัดส่วน 100.00%, การคำนวณอัตราผลตอบแทนดังกล่าวคำนวณโดยไม่ได้หักค่าธรรมเนียมการซื้อขายหน่วยลงทุน, แสดงผลตอบแทนเป็น Annualized ถ้ามากกว่า 1 ปี, ความถี่ในการปรับน้ำหนักของ Composite Benchmark คำนวณเป็นรายวัน
ที่มา: บลจ. วรรณ
ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2564
2. กองทุนรวมผสม
กองทุนรวมที่ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สิน ประเภทต่างๆ ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก ตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือตราสารอื่นๆ กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะสําหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ ปานกลางค่อนข้างสูง
กองทุนเปิดเคเคพี สตราทิจิค แอสเซ็ท อโลเคชั่น ชนิดทั่วไป (KKP SG-AA)
ระดับความเสี่ยง 5 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
ลงทุนผสมระหว่างหุ้น ตราสารหนี้ เงินฝาก และทรัพย์สินอื่นทั้งในไทย และในต่างประเทศ โดยปรับสัดส่วนการลงทุน ตามคำแนะนำด้าน Asset Allocation ที่ได้รับจากที่ปรึกษาการลงทุน ทั้งนี้ กองทุน KKP SG-AA มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น ประมาณ 50% ของ NAV
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน ณ วันที่ 29 มกราคม 2564
*หากกองทุนรวมจัดตั้งน้อยกว่า 1 ปี ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็นตามที่เกิดขึ้นจริง แต่หากกองทุนรวมจัดตั้งตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ผลการดำเนินงานที่แสดงจะเป็น % ต่อปี **ตัวชี้วัด : ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 เป็นต้นไป กองทุนได้เปลี่ยนตัวชี้วัดเป็น
- 15% ดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI)
- 35% ดัชนี MSCI AC World NETR USD Index ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
- 20% ดัชนี Bloomberg Barclays GLOBAL AGGREGATE Total RETURN INDEX VALUE Hedged USD ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
- 10% ดัชนี Bloomberg Barclays Global High Yield Total Return Index Value Hedged USD ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
- 5% ดัชนีผลตอบแทนรวมของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF & REIT Total Return Index)
- 5% ดัชนี FTSE ST Real Estate Investment Trusts ในสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ โดยปรับเป็นอัตราผลตอบแทนทุกประเภทจากการลงทุนในหลักทรัพย์(Total return) โดยใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล Bloomberg หรือแหล่งข้อมูลอื่นที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับ และปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
- 3% ดัชนี DBIQ Optimum Yield Diversified Commodity Index Excess Return ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
- 2% ดัชนีราคาทองคำ London PM Fix ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
- 5% อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน วงเงินน้อยกว่า 5 ล้านบาท เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
***The blended returns are calculated by Kiatnakin Phatra Asset Management Co., Ltd. using end of day index level values licensed from MSCI (“MSCI Data”). For the avoidance of doubt, MSCI is not the benchmark “administrator” for, or a “contributor”, “submitter” or “supervised contributor” to, the blended returns, and the MSCI Data is not considered a “contribution” or “submission” in relation to the blended returns, as those terms may be defined in any rules, laws, regulations, legislation or international standards. MSCI Data is provided “AS IS” without warranty or liability and no copying or distribution is permitted. MSCI does not make any representation regarding the advisability of any investment or strategy and does not sponsor, promote, issue, sell or otherwise recommend or endorse any investment or strategy, including any financial products or strategies based on, tracking or otherwise utilizing any MSCI Data, models, analytics or other materials or information.
ที่มา: บลจ. เกียรตินาคินภัทร
ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือ www.krungsri.com หรือติดต่อขอรับคำแนะนำได้จากผู้เชี่ยวชาญ Krungsri Plan Your Money โทร. 02-296-5959 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น.-17.00 น.
หมายเหตุ: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนจำหน่ายหน่วยลงทุนให้กับ บลจ. เกียรตินาคินภัทร บลจ. วรรณ บลจ. ทิสโก้ และ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) เท่านั้น