มัดรวมกองทุนลดหย่อนภาษีที่คุณควรรู้ ตัวช่วยไหนคุ้มค่าที่สุด

โดย สิรภัทร เกาฏีระ CFP® นักวางแผนการเงิน
18 กันยายน 2567
กองทุนลดหย่อนภาษีที่ควรรู้
คนส่วนใหญ่คิดว่า ลดหย่อนภาษีจะรีบซื้อทำไม รอซื้อปลายปีทีเดียวดีกว่า แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด อาจไม่ใช่การซื้อทั้งก้อนตอนปลายปี หรือการซื้อกองทุนตัวใดตัวหนึ่ง โดยบทความนี้จะพาคุณมาพบเคล็ดลับที่จะทำให้คุณสามารถลดหย่อนภาษีให้คุ้มค่ามากที่สุด กับ 3 ประเภทกองทุนที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่าง SSF, RMF และ Thai ESG
 

เทียบสิทธิประโยชน์ของ 3 ตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่คุณควรรู้

SSF หรือกองทุนรวมเพื่อการออม กองทุนที่เน้นการออมระยะยาวและเป็นตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีที่มาแทนกองทุน LTF โดยมีหลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ ดังนี้
  • ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
  • ซื้อหน่วยลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
  • ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อและไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี


RMF หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมเงินไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่เมื่อปี 2563 เพื่อให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากขึ้น ดังนี้
  • ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
  • ซื้อหน่วยลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
  • ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อยซื้อปีเว้นปี)

Thai ESG หรือกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน กองทุนน้องใหม่ที่ให้วงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก 300,000 บาท เพื่อส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในกิจการที่เน้นความยั่งยืนของประเทศไทย โดยมีเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ ดังนี้
  • ลงทุนสินทรัพย์ในประเทศ เช่น หุ้นหรือตราสารหนี้ ที่มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน และต้องได้รับการรับรอง SET ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
  • ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยที่วงเงินนี้จะไม่นับรวมกับการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF และเงินลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ
  • ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน
  • ต้องถือครอง 5 ปีขึ้นไป นับจากวันที่ลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี สามารถเลือกซื้อได้เฉพาะปีที่ต้องการลดหย่อนภาษี
 

แนะนำกองทุนเด่น SSF, RMF และ Thai ESG ที่ไม่ควรพลาด

 
กองทุนลดหย่อนภาษี SSF, RMF, Thai ESG ที่น่าลงทุน
 

กองทุน SSF ดาวเด่น

  • กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผลเพื่อการออม (KFGBRANSSF)
    • เน้นลงทุนในหุ้นแบรนด์เด่นของบริษัทชั้นนำที่คนทั่วโลกเลือกใช้ ผ่านกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund (Class ZX)
    • เน้นสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอและโอกาสรับเงินปันผล
  • กองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้-เพื่อการออม (KFAFIXSSF)
    • เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะกลางคุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น สามารถรับความผันผวนของ NAV ระยะสั้นได้ และลงทุนเพื่อมุ่งเน้นการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก
 

กองทุน RMF ที่น่าลงทุน

  • กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGBRANRMF)
    • เน้นลงทุนในหุ้นแบรนด์เด่นของบริษัทชั้นนำที่คนทั่วโลกเลือกใช้ ผ่านกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund (Class Z)
    • เน้นสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ
  • กองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFAFIXRMF)
    • เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะกลางคุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น สามารถรับความผันผวนของ NAV ระยะสั้นได้ และลงทุนเพื่อมุ่งเน้นการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก
  • กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFSINCRMF)
    • เน้นลงทุนตราสารหนี้คุณภาพดี หลากหลายประเภททั่วโลก
    • เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง ตั้งแต่ระดับ 5 ขึ้นไป และต้องการโอกาสสร้างความสม่ำเสมอของผลตอบแทน
 

กองทุน Thai ESG ที่น่าสนใจ

  • กองทุนหุ้น KFTHAIESG
    • เน้นลงทุนในตราสารทุนเป็นหลัก โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
    • สินทรัพย์หลักที่ลงคือ หุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET หรือ MAI ซึ่งคัดเลือกมาแล้วว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม หรือความยั่งยืน ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดให้ลงทุนได้ รวมถึงโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนในกลุ่ม ESG ด้วย
    • เลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบ
      • KFTHAIESGA แบบสะสมมูลค่า (ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล)
      • KFTHAIESGD แบบมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล
    • เหมาะกับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นไทย รับความเสี่ยงได้ในระดับสูง
  • กองทุนตราสารหนี้ KFGBTHAIESG
    • เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับด้านความยั่งยืนเป็นหลัก โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
    • กองทุนจัดสรรการลงทุนประมาณ 80% ในตราสารหนี้ภาครัฐในกลุ่มความยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับ ThaiBMA Government Bond ESG Index อีก 20% ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เงินฝาก เพื่อสร้างสภาพคล่อง
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยในกลุ่มความยั่งยืน
 
ตัวช่วยลดหย่อนภาษี

หากต้องการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีเพื่อให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด แนะนำให้ทยอยซื้อกองทุนเพื่อลดกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนโดยกองทุนที่ซื้อแนะนำให้ดูจากความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หากคุณเป็นคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงมาก ก็อาจจะลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว

ปัจจุบันตัวช่วยลดหย่อนภาษีมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง SSF, RMF และ Thai ESG เพื่อให้คุณลดหย่อนภาษีให้ได้ประโยชน์ทางภาษีสูงสุด ขอแนะนำให้คุณวางแผนลดหย่อนตั้งแต่ต้นปี เพื่อให้คุณสามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากคุณมีข้อสงสัย หรือยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ ข้อกำหนด รวมถึงซื้อลดหย่อนเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม ปีนี้ควรเลือกลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีตัวไหนดี หรือไม่มีเวลาในการวางแผนลดหย่อนภาษี สามารถรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-296-5959 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้ที่ปรึกษาทางการเงินจากทีม KRUNGSRI PRIME ติดต่อกลับเพื่อแนะนำ

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
  • RMF เป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
  • Thai ESG เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาวและสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
  • กองทุน KFGBRANSSF, KFGBRANRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • KFAFIXSSF, KFAFIXRMF, KFSINCRMF อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วน หรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
สนใจร่วมเป็นลูกค้า ด้วยการเลือก KRUNGSRI PRIME ต่อยอดเงินให้เติบโต​
KRUNGSRI PRIME ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน และต่อยอดเงินล้านของคุณให้เติบโตสู่ล้านถัดๆไป นอกจากนี้ KRUNGSRI PRIME ยังมอบความพิเศษด้วยสิทธิ์ต่างๆทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ที่ถูกคัดสรรมาให้แก่ลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ