เกาะกระแสการลงทุนปี 2024 ตัวไหนรอด ตัวไหนร่วง

โดย สิรภัทร เกาฏีระ CFP® นักวางแผนการเงิน
23 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะกระแสการลงทุน 2024
ถ้าจะพูดถึงประเภทการลงทุน หนึ่งในกลุ่มหุ้นที่มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดเงินจากนักลงทุนจำนวนมากได้ก็คือ “หุ้นเติบโต” หรือ Growth Stock ซึ่งก็คือ หุ้นของบริษัท หรือกลุ่มบริษัทที่มีผลประกอบการจากการดำเนินงานที่ดี มีอัตราการเติบโตของผลกำไรโดยเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มักเป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจพื้นฐานที่มีความสำคัญกับการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนส่วนใหญ่บนโลก เช่น หุ้นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี การแพทย์ กลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคาร เป็นต้น

ส่วนใหญ่หุ้นประเภทนี้มักไม่มีการจ่ายเงินปันผล เพราะต้องนำเงินที่ได้จากผลกำไรไปลงทุนต่อเพื่อขยายกิจการให้เติบโตต่อเนื่อง Growth Stock จึงเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนในพอร์ต ที่เน้นการต่อยอดการลงทุน เพื่อให้เงินเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
 
สำรวจทิศทางเศรษฐกิจ 2024
 

สำรวจทิศทางเศรษฐกิจ อะไรคาดว่าจะเติบโตในปี 2024 เพื่อลงทุนได้อย่างมั่นใจ

สิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้เลยสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นเติบโตก็คือ การศึกษาหาความรู้ ติดตามข่าวสารบ้านเมืองทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะยิ่งภาคธุรกิจหรือภาคอุตสาหกรรมใดกำลังได้รับความนิยม กำลังเป็นกระแส อยู่ในความสนใจของผู้คนส่วนใหญ่บนโลก กระแสการลงทุนในหุ้นของกลุ่มธุรกิจนั้น ๆ ก็จะสูงตามไปด้วย ทำให้มีโอกาสที่นักลงทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้จากหุ้นในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว

สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มน่าลงทุน 2024 มีด้วยกันหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น
 

1. กลุ่มธุรกิจ E-Commerce

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่หันมาซื้อของสำหรับอุปโภคและบริโภคผ่านระบบซื้อขายออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หุ้นของกลุ่มธุรกิจ E-Commerce เจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามไปด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งกลุ่มหุ้นเติบโตที่น่าลงทุน
 

2. กลุ่มธุรกิจบริการ Cloud Service และ Cyber Security

แน่นอนว่าเมื่อมีการใช้งานระบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Social Media การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ Cyber Security จึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งด้วยจำนวนข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลในแต่ละวินาที ภาคธุรกิจจึงนิยมหันมาใช้ Cloud Service กันมากขึ้น ทำให้กลุ่มธุรกิจทั้ง 2 นี้จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และจะยิ่งมากขึ้นในทุก ๆ ปี
 

3. กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม

กลุ่มธุรกิจนี้ประกอบด้วยบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต มีความสอดคล้องกับเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนสมัยใหม่ ที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ประกอบกับกระแสนิยมของหลาย ๆ ครอบครัวยุคใหม่ ที่หันมาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Internet of Things (IoT) กันเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งทำให้กลุ่มธุรกิจนี้มีอนาคตที่สดใส เหมาะแก่การลงทุนต่อเนื่อง
 

4. กลุ่มธุรกิจการแพทย์ และเสริมความงาม

สุขภาพร่างกายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงที่จะไม่ดูแลได้ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องไปใช้บริการในกลุ่มธุรกิจการแพทย์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หุ้นในกลุ่มธุรกิจนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และนอกจากผู้คนจะต้องพึ่งพาแพทย์ยามเจ็บป่วยแล้ว การเสริมความสวยความงาม ก็เป็นอีกหนึ่งบริการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันผู้คนทุกเพศ ทุกวัยหันมาให้ความสนใจกับรูปลักษณ์ของตนเองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก
 

5. กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์ในเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)

ด้วยสถานการณ์ที่สังคมโลกในหลาย ๆ ประเทศ ประชากรเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุกันมากขึ้น เช่น ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค หรือบริการต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุ ได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเติบโต จึงน่าลงทุนแบบระยะยาว
 

6. กลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ประกันภัยต่าง ๆ

หลังจากที่ต้องเผชิญกับวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ผู้คนก็หันมาใส่ใจกับการบริหารจัดการความเสี่ยง และความไม่แน่นอนในชีวิตของตนเองกันเพิ่มขึ้น เพราะตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองชีวิต และผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันวินาศภัย ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มธุรกิจประกันภัยได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
 

7. กลุ่มธุรกิจ EV และพลังงานทดแทนในรูปแบบต่าง ๆ

ปัญหาที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน ทำให้คนทั้งโลกหันมาให้ความสนใจ และใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะเห็นถึงผลกระทบร้ายแรงที่เกิดกับตนเองและคนในครอบครัว อย่างในปี 2023 ต่อเนื่องถึง 2024 ก็จะเห็นได้จากเทรนด์การใช้รถที่ EV ที่มียอดจองและยอดขายเพิ่มมากขึ้น เริ่มเห็นรถยนต์กลุ่มนี้ในท้องถนนมากขึ้น หรือแม้แต่เทรนด์การติดตั้งแผงโซลาเซลล์เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงกันเพิ่มมากขึ้นในหลาย ๆ บ้าน เป็นต้น ยังรวมไปถึงนโยบายรัฐ และทิศทางเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ก็ยิ่งส่งให้กลุ่มธุรกิจนี้มีอนาคตที่สดใส เหมาะกับการลงทุนไปอีกยาว ๆ ได้
 
เลือกกองทุน ตามการเติบโต 2024
   

เลือกกองทุนที่ใช่ ต้อนรับปี 2024 ตามกระแสเศรษฐกิจที่เติบโต

เมื่อทราบถึงทิศทางและแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีโอกาสเติบโตในปี 2024 กันไปแล้ว ขั้นตอนที่ต้องทำต่อไปก็คือ นักลงทุนต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเข้าไปลงทุนในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมดังกล่าว ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมที่เกี่ยวข้อง โดยอาจจะหาข้อมูลกองทุนแนะนำที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นเติบโต ก็จะส่งผลให้การลงทุนนั้นมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้น โดยการจะตัดสินใจลงทุนในหุ้นเติบโตใด ๆ ควรมีพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจ และการเตรียมความพร้อมในการลงทุน ดังนี้
 

1. มีเงินทุนที่เป็นเงินเย็นสำหรับการลงทุนอย่างเพียงพอ

เนื่องจากการลงทุนในหุ้นเติบโตเพื่อให้ได้ผลกำไรที่ดีจะต้องลงทุนระยะยาว 5-10 ปี จึงจะสามารถเห็นดอกผลจากธุรกิจนั้น ๆ ได้ ดังนั้นไม่เหมาะที่จะนำเงินที่ต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมาลงทุน และต้องรีบร้อนขายคืนเมื่อจำเป็นต้องใช้เงิน
 

2. ศึกษาข้อมูลหุ้นเติบโตที่สนใจให้ละเอียดก่อนการลงทุน

เช่น ข้อมูลประวัติการสร้างรายได้ อัตรากำไรที่เกิดจากการดำเนินกิจการย้อนหลัง สถานะการเงินของบริษัท แบรนด์ดิ้งของบริษัท ความแข็งแกร่งของประเภทธุรกิจ เป็นต้น ถึงแม้ผลประกอบการในอดีตจะไม่ได้การันตีผลประกอบการในอนาคต แต่เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งพื้นฐานที่นักลงทุนจำเป็นต้องรู้ก่อนการลงทุนทุกครั้ง
 

3. ประเมินความเสี่ยงและสัดส่วนการลงทุนที่ตนเองสามารถรับได้

อัตราผลตอบแทนที่ได้จากหุ้นเติบโตนั้น มักมีโอกาสสูงกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ แต่ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงในการลงทุน และยังมีความผันผวนด้านราคาที่สูงตามไปด้วย ทำให้มีโอกาสที่ราคาหุ้นเติบโตจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุน ต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเอง และจัดสัดส่วนพอร์ตการลงทุนให้ได้ตามแผน
 

4. หมั่นติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ เพื่อรู้ทันแนวโน้มเศรษฐกิจ

การลงทุนในหุ้นเติบโตจะต้องมีการติดตามราคาตลาดหุ้น ข่าวสารเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทที่ลงทุน และทิศทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้คุณต้องตกขบวน ที่สำคัญจะต้องมีการ Rebalance พอร์ตการลงทุนอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนในการลงทุนลงได้ในระดับหนึ่ง
 

แนะนำกองทุนยอดนิยม ที่เน้นการลงทุนใน Growth Stock

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนใน Growth Stock ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีกองทุนรวมแนะนำ ที่เหมาะกับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นเติบโตแบบมีคุณภาพ อย่างกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์ - หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (UGQG) กองทุนรวมตราสารทุนที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ United Global Quality Growth Fund (Class USD Acc) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักจะลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการรักษาผลผลิต/ประสิทธิภาพทางการเงิน (Financial Productivity) ในระดับสูง (ประเมินโดยการวัดอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน อาทิ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) หรือผลตอบแทนของกระแสเงินสดต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Cash Flow Return on Equity) หรือผลตอบแทนของกระแสเงินสดต่อการลงทุน (Cash Flow Return on Investment) และมีความสามารถในการนำกระแสเงินสดกลับมาลงทุน (Reinvest) ในธุรกิจด้วยอัตราผลตอบแทนในระดับสูง

จุดเด่นของกองทุน UGQG
เป็นกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อเป็น Core Global Equity Portfolio ผ่านการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพทั่วโลกและมี Benchmark คือ MSCI ACWI กองทุนลงทุนในบริษัทที่มีลักษณะ “Compounders” คือมีคุณภาพ มีการเติบโตที่ยั่งยืน และมีการลงทุนเพื่อต่อยอด (Reinvestment) เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต โดยทางทีมผู้จัดการกองทุนหลัก Lazard มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการกองทุนเฉลี่ยมากกว่า 20 ปี ภายใต้การบริหารงานของ Lazard Ltd. ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1848 และมีอายุร่วม 175 ปีกองทุนหลักใช้กลยุทธ์การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแบบ Bottom Up โดยพิจารณาบริษัทที่มีความสามารถในการรักษาผลผลิต/ประสิทธิภาพทางการเงิน (Financial Productivity) ในระดับสูง (ประเมินโดยวัดอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน อาทิ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) หรือผลตอบแทนของกระแสเงินสดต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Cash Flow Return on Equity) หรือผลตอบแทนของกระแสเงินสดจากการลงทุน (Cash Flow Return on Investment) และมีความสามารถในการนำกระแสเงินสดกลับมาลงทุน (Reinvest) ในธุรกิจด้วยอัตราผลตอบแทนในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม กองทุนนี้มีระดับความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 6 ซึ่งเป็นความเสี่ยงสูง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นได้ค่อนข้างสูง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนควรประเมินความเสี่ยง และควรเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่ตนเองรับได้
 

เริ่มต้นลงทุนกองทุนตอนนี้ ไม่พลาดโอกาสเติบโต

การลงทุนในหุ้นเติบโตตามทิศทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดี และได้รับความนิยม จะทำให้พอร์ตการลงทุนมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน เพื่อตอบโจทย์การลงทุนระยะยาว และที่สำคัญการสร้างผลกำไรในกลุ่มนี้ต้องอาศัยระยะเวลาในการลงทุน ดังนั้นยิ่งเริ่มต้นลงทุนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสช่วยให้การเติบโตของผลกำไรเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และไม่ต้องกังวลว่า จะไม่มีความรู้ในการลงทุน เพราะการลงทุนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำในทุก ๆ ขั้นตอนการลงทุนของคุณ

ก่อนจากกันขอย้ำว่า “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง” แต่สำหรับใครก็ตามที่ศึกษาข้อมูลการลงทุนด้วยตนเองแล้วยังไม่เข้าใจ สามารถติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อพูดคุยและขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนโดยเฉพาะ ได้ที่ช่องทางฮอตไลน์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้ที่ปรึกษาทางด้านการเงินจาก KRUNGSRI PRIME ติดต่อกลับก็ได้เช่นกัน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • UGQG ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (FX Hedging 81.01% ข้อมูล ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2566)
สนใจร่วมเป็นลูกค้า ด้วยการเลือก KRUNGSRI PRIME ต่อยอดเงินให้เติบโต​
KRUNGSRI PRIME ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน และต่อยอดเงินล้านของคุณให้เติบโตสู่ล้านถัดๆไป นอกจากนี้ KRUNGSRI PRIME ยังมอบความพิเศษด้วยสิทธิ์ต่างๆทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ที่ถูกคัดสรรมาให้แก่ลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ