ลมหนาวมาทีไร ร่างกายเหมือนจะป่วยทุกครั้ง มาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่า

ลมหนาวมาทีไร ร่างกายเหมือนจะป่วยทุกครั้ง มาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่า

By Krungsri Plearn Plearn
เชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างรอคอยฤดูหนาวกันแน่นอน ส่วนหนึ่งเพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลต่าง ๆ นานาเยอะมาก ถึงแม้อากาศจะไม่ได้เย็นดั่งใจคิดสักเท่าไหร่ อย่างน้อยแค่ให้อากาศไม่ร้อนเท่าช่วงเดือนเมษายน ที่ต้องมาปาดเหงื่อกันทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกก็น่าจะโอเคแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าช่วงฤดูหนาวก็เป็นอีกฤดูกาลหนึ่งที่มักจะป่วยกันได้ง่าย เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนไป อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ภูมิคุ้มกันสุขภาพเลยลดลงไปด้วย การดูแลสุขภาพในช่วงหน้าหนาวนี้ก็จะมีความแตกต่างจากฤดูกาลอื่น ๆ ไปบ้าง มาเช็กเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลสุขภาพช่วงหน้าหนาวที่พร้อมเสิร์ฟให้กับทุกคนเลย
ลมหนาวมาทีไร ร่างกายเหมือนจะป่วยทุกครั้ง มาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่า

1. สวมใส่เสื้อผ้าประเภทเสื้อไหมพรมหรือเสื้อสเวตเตอร์

ก่อนที่เราจะเลือกสวมใส่เสื้อผ้า ก่อนอื่นต้องมาเช็กสุขภาพของตัวเองก่อนว่า รับอากาศหนาวได้มากน้อยแค่ไหน อาจแบ่งเป็นเลเวล เช่น เลเวล 1 ใส่แค่เสื้อยืดก็พอ หรือเลเวล 5 ต้องใส่แบบจัดเต็มทั้งเสื้อกันหนาว หมวก ผ้าพันคอ เป็นต้น นั่นก็เพราะเสื้อผ้าที่เราใส่ ขึ้นอยู่กับความอบอุ่นที่ร่างกายต้องการด้วย

บางครั้งแค่ใส่เสื้อสเวตเตอร์ กางเกงยีนส์ หรือกางเกงวอร์ม ถุงเท้า ก็ช่วยคลายหนาวได้ทันที แต่บางคนอาจต้องเพิ่มเสื้อยืดอีก 1 ชั้น ก่อนที่จะใส่เสื้อไหมพรมในช่วงฤดูหนาว แต่ในชีวิตประจำวันที่ต้องเจอกับอากาศที่หนาว จากแอร์ที่ออฟฟิศ ก็อาจใช้แค่เสื้อกันหนาวก็น่าจะเพียงพอ สำหรับเสื้อกันหนาวอาจช่วยได้แค่ส่วนหนึ่งแต่เราต้องอย่าลืมทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ ถ้าร่างกายเราแข็งแรง ลมหนาวแค่ไหนก็ทำอะไรเราไม่ได้

2. เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิต

อากาศหนาว ๆ สิ่งหนึ่งที่ตามมาก็คือ การเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย เมื่อเราจะสัมผัสกับอะไร ก็อาจเกิดไฟดูด สร้างความรำคาญอยู่เสมอ แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ เช่น ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของเราแห้งจนเกินไป นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าประเภทผ้าขนสัตว์ หรือผ้าใยสังเคราะห์ เพราะผ้าทั้ง 2 ประเภทจะมีการเสียดสีทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย อาจจะเปลี่ยนมาสวมใส่ผ้าฝ้ายดีกว่า เพราะผ้าฝ้ายมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นี้ ก็ไม่ต้องกลัวไฟฟ้าสถิตอีกต่อไป
ลมหนาวมาทีไร ร่างกายเหมือนจะป่วยทุกครั้ง มาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่า

3. เสริมเกราะให้ร่างกายด้วย อาหารหลากรส

จะกี่ลมหนาวก็ไม่ต้องกลัว ถ้าร่างกายของเรามีเกราะป้องกันที่ดีจากการรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันความหนาวเย็น โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเผ็ด และรสขม เพราะรสชาติที่กล่าวไปนั้น มักอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินมากมาย ที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดการเจ็บป่วย สำหรับเมนูที่แนะนำในช่วงฤดูหนาว เช่น ต้มโคล้ง เพราะรสเผ็ดจากเครื่องแกงที่เป็นวัตถุดิบ มักจะเต็มไปด้วยสารแคปไซซินที่ช่วยบรรเทาอาการหนาวชาบริเวณปลายมือและปลายเท้า หรือเมนูแกงจืดยัดไส้มะระ ที่ถึงแม้จะมีรสขม กินยาก แต่เชื่อไหมว่า มะระ มีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจเป็นอย่างดี นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว เราก็อย่าลืมทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวควบคู่กันไปด้วย เพราะวิตามิน A และ C ในผลไม้ต่าง ๆ จะช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง
ลมหนาวมาทีไร ร่างกายเหมือนจะป่วยทุกครั้ง มาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่า

4. บอกลาโรคภัย แค่ปลุกไฟในการฟิต

ในช่วงหน้าหนาว เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย อาจทำให้เรามีความขี้เกียจทำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิต แต่เราอยากให้ทุกคนลองจินตนาการว่า ถ้าเราขี้เกียจในช่วงฤดูหนาวอาจทำให้หุ่นของเราที่ดูแลมาดีทั้งปี เสียเอาได้ง่าย ๆ หรืออาจจะคิดว่าหมดหนาวค่อยมาออกกำลังกาย สร้างหุ่นกันใหม่ ถึงตอนนั้นสุขภาพคงแย่ไม่ทันการณ์ การออกกำลังกายในช่วงหน้าหนาวมีประโยชน์มากมายที่เรายังไม่รู้ เช่น ยิ่งออกกำลังกาย ยิ่งห่างไกลไข้หวัด เพราะการที่เราออกกำลังกายจะสามารถช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้พร้อมทำงาน ร่างกายฟิตอยู่ตลอดแบบนี้ เชื้อโรคที่มากับอากาศหนาว ก็ทำอะไรเราไม่ได้ แถมอากาศที่ดีแบบนี้ทำให้การออกกำลังกายง่ายกว่าฤดูอื่น เพราะลมเย็น ๆ จะทำให้ร่างกายได้สดชื่น คิดแบบนี้เชื่อได้เลยว่า อากาศหนาวแค่ไหนก็ฟิตพร้อมสู้แน่นอน

5. เตรียมลิปมัน โลชั่นให้พร้อม สู้วิกฤติผิวแห้ง

เพราะความหนาวของอากาศอาจทำร้ายผิวของเรามากกว่าที่คิด เมื่ออุณหภูมิเริ่มเย็นตัวจะส่งผลให้ความชื้นในอากาศต่ำลง และผิวหนังของเราเมื่อสัมผัสอากาศเย็นอาจทำให้ความชื้นในผิวหนังของเราถูกดึงออกจากผิวอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย หรือเกิดผิวหนังลอกเป็นขุย ๆ ตามริมฝีปาก หรือแขนขา อย่าลืมที่จะเตรียมลิปมัน หรือโลชั่นบำรุงผิวให้พร้อม โดยเฉพาะ
การทาลิปมันจะช่วยลดอาการปากแห้ง ปากแตก หากรู้สึกว่าปากแห้งเมื่อไหร่ หยิบมาทาได้เลย สำหรับก่อนนอนก็ทาโลชั่นไว้สักหน่อย เพื่อที่จะช่วยให้ร่างกายไม่สูญเสียน้ำบนเซลล์ผิว แม้ขณะหลับ ของแบบนี้ยิ่งถ้าทำได้เป็นประจำทุกวัน ผิวของเราก็จะกลับมาชุ่มชื้น บอกลาผิวแห้งเสียแน่นอน

เคล็ดลับเหล่านี้ คงไม่ยากจนเกินไป เพราะพฤติกรรมบางอย่างสามารถปรับให้เป็นความเคยชินได้ เช่น การปรับจากดื่มน้ำเย็นที่ทำให้รู้สึกสดชื่นเป็นน้ำอุ่น หรือถ้าหากใครยังไม่แน่ใจกับสุขภาพร่างกายก็สามารถทำประกันสุขภาพ ติดตัวให้อุ่นใจไว้ได้ และต่อจากนี้ไม่ว่าอากาศจะเป็นแบบไหน เราก็สามารถมีสุขภาพที่ดี ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ร่างกายก็เจ็บป่วยน้อยลง อย่างคำที่กล่าวว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา