เที่ยวต่างประเทศสุด unseen แบบไม่ตามเทรนต์ จากเพจเที่ยวเอง

เที่ยวต่างประเทศสุด unseen แบบไม่ตามเทรนต์ จากเพจเที่ยวเอง

By Krungsri Plearn Plearn
ถ้าถามถึงความฝันของคนยุคนี้ การเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกน่าจะเป็นความฝันอันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะได้ทั้งเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิต และอาจนำมาต่อยอดให้กลายเป็นงานที่สร้างรายได้อีก แต่ไปทั้งทีก็อยากพิเศษไม่ซ้ำใคร เราต้องวางแผนยังไง มีที่ไหนไม่ควรพลาด เพจ “เที่ยวเอง” จะมาแนะนำให้คุณเอง
ในช่วงหลายปีหลังกระแสการ “เที่ยวเอง” ในต่างประเทศถือว่ามาแรงแบบสุด ๆ เพราะนอกจากราคาตั๋วเครื่องบินจะถูกลงกว่าแต่ก่อนค่อนข้างมากแล้ว ข้อมูลต่าง ๆ ยังสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้นเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ยิ่งถ้าเป็นจุดหมายปลายทางหลัก ๆ ด้านการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของคนหมู่มากแล้ว ยิ่งหาข้อมูลได้ง่ายตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนขั้นตอนสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ใช่ประเทศสายแมสที่คนไทยชอบไปตาม ๆ กันก็อาจหาข้อมูลเพื่อประกอบการวางแผนได้ยากหน่อย แต่ความยากนี่แหละคือแรงกระตุ้นและเสน่ห์ชั้นดีที่ช่วยเพิ่มแพสชั่นให้กับเรา พอหาข้อมูลไปเที่ยวประเทศแปลกใหม่ได้มันก็จะรู้สึกภูมิใจหน่อย ๆ
ดังนั้นหากกำลังมองหาประเทศใหม่ ๆ ที่อาจยังไม่ได้อยู่ในกระแสหลัก แต่จริง ๆ มีความสวยงามเฉพาะตัวน่าค้นหา อีกทั้งค่าครองชีพและค่าเดินทางยังไม่สูงเท่าไหร่ ไปเที่ยวเองแล้วไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋ามากนัก นี่คือจุดหมายที่ “เที่ยวเอง” คัดเลือกและภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมาก

Bosnia & Herzegovina

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อประเทศนี้จากเหตุสงครามที่กินเวลาหลายปีในช่วงทศวรรษ 90 อาจติดภาพความโหดร้ายรุนแรง และคิดว่าประเทศนี้อันตรายน่ากลัวไม่น่าไป แต่อยากบอกว่าบอสเนียฯ มีอะไรให้ค้นหาเพียบ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม รวมไปถึงธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์แบบสุด ๆ
บอสเนียฯ เป็นประเทศที่แยกตัวมาจากอดีตประเทศยูโกสลาเวียเมื่อปี 1995 เพราะความแตกต่างของเชื้อชาติและศาสนา โดยชาวบอสเนียนส่วนมากนับถือศาสนาอิสลาม แต่กว่าจะแยกตัวเป็นอิสระได้ต้องเผชิญกับเหตุสงครามยาวนานตามที่หลายคนรู้กัน ร่องรอยความบอบช้ำในครั้งนั้นยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่าง ๆ และเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจถึงบทเรียนในอดีตได้เป็นอย่างดี
ประเทศนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่าน ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ด้านเหนือและตะวันตกติดกับโครเอเชีย ด้านตะวันออกติดกับเซอร์เบีย และด้านใต้ติดกับมอนเตเนโกร มีทางออกทะเลแคบ ๆ ที่เมือง Neum โดยการเดินทางเข้าบอสเนียฯ ต้องทำวีซ่าของบอสเนียฯ เอง ซึ่งยุ่งยากพอสมควร แต่วิธีการง่ายที่สุดคือ ใช้วีซ่าเชงเก้นแบบ Multiple Entries ที่สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 15 วันเข้าได้
เมืองที่น่าสนใจมีหลายเมือง เริ่มตั้งแต่เมืองหลวงอย่างกรุง Sarajevo ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยุคสงคราม แต่ก็ยังมีความเจริญซ่อนตัวอยู่เช่นกัน หมู่บ้าน Blagaj ที่มีไฮไลท์จากสำนักบวชโบราณตามแนวผนังถ้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ต่อด้วย Mostar อีกเมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่เหมือนหลุดเข้าไปยุคออตโตมันโบราณจริง ๆ ทุกอย่างยังคงความเก่าแก่ที่มีเสน่ห์มาก ๆ และปิดท้ายด้วย Jajce เมืองทางตอนในที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรป่าสีเขียวและน้ำตกอันทรงพลัง บอกเลยว่าวิวสองข้างทางก่อนถึงเมืองนี้สวยงามไม่ต่างจากสวิตเซอร์แลนด์หรือนอร์เวย์
สำหรับค่าครองชีพก็นับว่าไม่ต่างจากเมืองไทย ค่าอาหาร ที่พัก และค่าเดินทางราคาใกล้เคียงกันมาก จึงจัดได้ว่าเป็นอีกประเทศที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่มีงบไม่สูงมากนัก

Armenia

ประเทศเก่าแก่บนแนวเทือกเขาคอเคซัสที่แยกตัวมาจากอดีตสหภาพโซเวียตเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 90 เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้จักประเทศนี้และไม่รู้ว่ามีอะไรให้เที่ยวบ้าง แต่จริง ๆ อาร์เมเนียเต็มไปด้วยโบราณสถานโดยเฉพาะที่เกี่ยวโยงกับศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO มากมาย โดยอาร์เมเนียได้ชื่อว่าเป็นดินแดนคริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
แม้ทำเลที่ตั้งจะค่อนมาทางทวีปเอเชีย แต่อาร์เมเนียถือเป็นส่วนหนึ่งของทวีปยุโรป ทิศเหนือติดกับจอร์เจีย ด้านตะวันออกติดกับอาร์เซอร์ไบจาน ด้านตะวันตกติดกับตุรกี และทิศใต้ติดกับอิหร่าน โดยเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ก็ยังคงมีทรัพยากรน้ำสมบูรณ์จากทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อ Sevan
การเดินทางเข้าอาร์เมเนียต้องมีวีซ่าซึ่งสามารถทำได้ทั้ง On Arrival ที่พรมแดนและสนามบิน หรือทำออนไลน์ล่วงหน้าก็ได้เช่นกัน โดยส่วนมากนิยมเดินทางต่อเข้ามาจากจอร์เจียซึ่งเป็นประเทศที่คนไทยเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะไฟล์ทบินเข้ากรุง Yerevan เมืองหลวงนั้นมีไม่มาก รวมทั้งเวลายังไม่ค่อยดีอีกด้วย
อย่างที่บอกว่าประเทศนี้โดดเด่นจากแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่ามากมายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจคงหนีไม่พ้นสำนักบวชโบราณ สถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Khor Virap ซึ่งมีแนวภูเขา Ararat ที่เกี่ยวโยงกับตำนานเรือโนอาห์เป็นฉากหลัง หรือจะเป็นเมือง Vagharshapat เมืองเก่าแก่ที่รายล้อมด้วยศาสนสถานมรดกโลกหลายแห่ง รวมไปถึงเมืองหลวงอย่างกรุง Yerevan ที่มีกลิ่นอายโซเวียตผสมกับบรรยากาศแบบอาร์เมเนียนดั้งเดิมได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติสุดสบายตาของทะเลสาบ Sevan และเมืองในหุบเขาอย่าง Ijevan เป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้รักธรรมชาติ
ในส่วนของค่าครองชีพนั้นถือว่าถูกมาก โดยรวมแล้วเท่า ๆ กับเมืองไทยเลย จะมีแต่ค่าที่พักถ้าอยู่ใจกลางเมืองจะค่อนข้างสูงพอตัวเลยทีเดียว แต่ค่ากินอยู่และค่าเดินทางนั้นสบายกระเป๋ามาก ๆ

Morocco

ประเทศมุสลิมบนแนวเทือกเขาแอตลาสในทวีปแอฟริกา โมร็อกโกเปี่ยมเสน่ห์ด้วยบ้านเมืองที่หลากหลายตามลักษณะของแต่ละภูมิประเทศ ศาสนสถานอิสลามสุดยิ่งใหญ่ บรรยากาศทะเลทรายซาฮาราเวิ้งว้างกว้างใหญ่ รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของคนพื้นเมือง โมร็อกโกเป็นหนึ่งในไม่กี่ชาติของแอฟริกาที่ยังมีกษัตริย์ปกครองประเทศมาจนถึงปัจจุบัน
โมร็อกโกตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ทางเหนือติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตรงข้ามกับสเปน ทิศตะวันออกติดประเทศแอลจีเรีย ตะวันตกติดมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นแนวยาว และทางใต้ติดกับดินแดนซาฮาราตะวันตก
เชื่อว่าหลายคนคงอยากไปประเทศนี้ แต่อาจกังวลเรื่องความปลอดภัยและความไม่สะดวกในการเดินทางภายในประเทศ จริง ๆ แล้วสามารถเที่ยวโมร็อกโกเองได้โดยใช้รถไฟและซื้อทัวร์ท้องถิ่นเข้าทะเลทรายซาฮารา หรือจะเช่ารถขับก็สะดวกไม่น้อยและไม่ได้แพงอะไร ค่าครองชีพโดยรวมใกล้เคียงกับเมืองไทย นั่งแท็กซี่ในเมืองราคาพอ ๆ กับนั่งในกรุงเทพฯ ถ้าไม่อยากบินไกลแล้วเที่ยวได้แค่ประเทศเดียวก็สามารถขอวีซ่าเชงเก้นแล้วไปเที่ยวสเปนและโปรตุเกสพ่วงในทริปนี้ได้ด้วย
เมืองหลัก ๆ ที่น่าไปเที่ยวเมืองแรกคือ Casablanca ซึ่งเป็นที่หมายแรกที่มีไฟล์ทบินจากเมืองต่าง ๆ มาลง คาซาบลังก้าเป็นที่ตั้งของมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาและใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก Rabat เมืองหลวงที่ให้บรรยากาศแบบชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก Marrakech เมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดของประเทศซึ่งเป็นต้นทางสำหรับท่องทะเลทรายซาฮารา ปิดท้ายด้วย Chefchaouen เมืองสีฟ้าหวานใสทางภาคเหนือที่น่าเดินเที่ยวสุด ๆ

Lithuania

อีกประเทศเกิดใหม่ที่แยกตัวมาจากสหภาพโซเวียต ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศบอลติกที่ประกอบไปด้วย Estonia, Latvia และ Lithuania ส่วนตัวคิดว่าลิทัวเนียเป็นประเทศในยุโรปที่หลายคนยังไม่รู้จักและอยู่นอกสายตาแบบสุด ๆ อาจเพราะไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์แบบแลนด์มาร์คและไม่ได้อยู่ในโซนประเทศที่เป็นจุดหมายท่องเที่ยวหลัก
แต่ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศแบบโซเวียตที่ผสมความทันสมัยตามแบบฉบับบอลติก มีอาคารสวยงามให้ได้ชื่นชม ใช้วีซ่าเชงเก้น และเงินสกุลยูโร แต่ค่าครองชีพถูกกว่ายุโรปตะวันตกเป็นเท่าตัว แถมด้วยความแปลกใหม่ ปลอดภัย และยังไม่เป็นการค้ามากนัก บอกเลยว่าประเทศนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
ลิทัวเนียตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ด้านบนติดกับลัตเวีย ด้านตะวันออกติดกับเบลารุส ด้านตะวันตกเป็นทะเลบอลติกและคาลินินการ์ดที่เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และด้านใต้ติดกับโปแลนด์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนมากจะจัดทริปพ่วงกันเป็น Baltic Trip ได้แก่ ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ซึ่งอาจรวมถึงโปแลนด์ด้วย
สำหรับเมืองที่น่าสนใจ นอกจากกรุง Vilnius เมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์รวมความเจริญทุกอย่างของประเทศแล้ว เมืองที่ภูมิใจนำเสนอมาก ๆ คือ Trakai ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง นั่งรถบัสออกมาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไฮไลท์ของเมืองนี้อยู่ที่ Trakai Castle ปราสาทยุคกลางบนเกาะกลางทะเลสาบที่เหมือนฉากในการ์ตูนเทพนิยาย ยอมรับว่าเห็นของจริงคืออ้าปากค้างตกตะลึงเพราะมันคลาสสิกย้อนยุคดูดีมีระดับมาก ๆ
เห็นอย่างนี้แล้วอย่าปล่อยให้เป็นแค่ความฝัน ลองวางแผนการเงินเพื่อทำให้ทริปของคุณเป็นจริง รับรองว่าประเทศเหล่านี้ต่อให้ไกลแค่ไหน ก็ไม่ไกลเกินไปถึงได้แน่นอน
 
บทความโดย facebook.com/tieweng
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา