Sweet Excursion ว่างสองวันก็ไปพักใจใกล้เมืองได้

Sweet Excursion ว่างสองวันก็ไปพักใจใกล้เมืองได้

By Krungsri Society
เบื่อชีวิตในเมืองวัน ๆ ทำงานหัวฟูอยู่แต่ในออฟฟิศ เลิกงานก็ใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนกับห้างซะส่วนใหญ่ พอถึงวันศุกร์ทีไรสมองเริ่มโลดแล่น หัวใจล่องลอยอยากออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาชาร์จพลังสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอด แต่มีวันหยุดแค่ 1-2 วันจะไปไหนดีนะ คิดไปคิดมาสุดท้ายก็นอนเหงาอยู่บ้านทุกที งั้นเราลองมาเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ กันดีกว่า มีสถานที่สวย ๆ ฟิน ๆ มากมายให้เลือกไปพักใจ จะไปเช้า-เย็นกลับ หรือจะนอนค้างคืนสักคืนลองใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ก็ดีไม่หยอก แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี วันนี้เรามีสถานที่พักใจใกล้เมืองมาฝาก

กินลมชมทะเลที่เกาะล้าน

 
นึกถึงทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ หลายคนยกให้พัทยาเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ เนื่องจากเดินทางสะดวกสบายไม่ถึง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ แต่ถ้าใครแอบเบื่อทะเลชายหาดฝั่งพัทยา อยากได้บรรยากาศธรรมชาติ ทะเลสวยฟ้าใส ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับชาวบ้านแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ ‘เกาะล้าน’ ที่นี่จะตอบโจทย์คุณทุกข้อ การเดินทางก็แสนง่ายจะขับรถมาเองหรือนั่งรถโดยสารประจำทางมาก็ได้ มีทั้งรถทัวร์ รถไฟ แต่ถ้าจะให้ไวต้องรถตู้เลิศสุด มาถึงพัทยาแล้วพุ่งตรงมาขึ้นเรือที่แหลมบาลีฮายได้เลยค่ะ ถ้านั่งเรือโดยสารใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถ้าเป็นเรือเร็วจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น นั่งมองทะเลเพลิน ๆ แป๊บเดียวก็มาถึงเกาะล้านแล้ว ทะเลจ๋า พี่มาแล้วจ๊ะ ลงจากเรือเดินเข้ามาที่ท่าหน้าบ้านจะมีรถรับจ้างคอยให้บริการ หรือจะเลือกเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวรอบเกาะก็ได้ แต่ต้องระมัดระวังกันหน่อยนะคะ เพราะพื้นที่บนเกาะค่อนข้างแคบและชัน คนไม่ชินทางอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้เพราะฉะนั้นอย่าซิ่งกันล่ะ เกาะล้านมีหาดน้อยใหญ่ทั้งหมด 7 หาด มีทั้งที่คึกคักและเงียบสงบให้เลือกตามอัธยาศัย ถ้าหิวก็มีร้านเมนูทะเลรสเด็ดให้ฝากท้องหลายร้าน รวมทั้งร้านคาเฟ่สวย ๆ บรรยากาศดี ๆ อีกเพียบ หากมีเวลาค้างสักคืนก็มีที่พักมากมายตั้งแต่หน้าเกาะยันท้ายเกาะ ตอนกลางคืนยังมีร้านอาหารใต้แสงเทียนริมทะเลให้บริการ แต่ถ้าใครมีเวลาน้อยมาเช้า-เย็นกลับก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่คุ้มค่ะ เพราะแค่ได้มองน้ำทะเลใส ๆ ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง กินอาหารทะเลสด ๆ แชะรูปเป็นที่ระลึกก็ฟินสุด ๆ แล้ว

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่:

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) โทร: 02 250 5500 ศูนย์บริการข่าวสารท่องเที่ยว ททท. 1672
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา โทร: 038 427 667, 038 428 750, 038 423 990 เว็บไซต์: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ชมเมืองเก่า ไหว้พระขอพรที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

 
พระนครศรีอยุธยาเป็นราชธานีเก่าแก่ที่เคยรุ่งโรจน์เมื่อหลายร้อยปีก่อน อยู่ห่างกรุงเทพฯ เพียงแค่ 76 กิโลเมตร นั่งรถไม่ทันเมื่อยเราก็จะสัมผัสกับเสน่ห์มนต์ขลังของเมืองโบราณที่ยิ่งใหญ่และงดงามราวกับภาพวาด ที่สำคัญทราบกันไหมคะว่า อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกภายใต้ชื่อ "นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร" อีกด้วย สนใจแล้วใช่ไหมคะ งั้นไปลุยกันเลย !!!!
ถ้าคุณเดินทางมาอยุธยาครั้งแรกแล้วยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี วันนี้เรามีวัดสำคัญที่ไม่ควรพลาดมาฝากค่ะ เริ่มกันที่ไปไหว้พระนอนที่วัดใหญ่ชัยมงคล แวะขอพรหลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จากนั้นเข้าเมืองไปนมัสการหลวงพ่อมงคลบพิตรที่วิหารพระมงคลบพิตร สัมผัสความยิ่งใหญ่ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ แล้วเดินชมวังหลวงโบราณที่อยู่ติดกัน ต่อด้วยชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติตื่นตาไปกับเศียรพระในรากต้นโพธิ์วัดมหาธาตุ
ปิดทริปชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาที่วัดไชยวัฒนาราม นอกจากวัดวาอารามยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา พิพิธภัณฑ์เรือไทย พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ฯลฯ เพนียดคล้องช้าง หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านโปรตุเกส ตลาดโก้งโค้ง ฯลฯ ให้ตระเวนชมกันอีกเพียบ อิ่มตาอิ่มบุญแล้ว อย่าลืมไปอิ่มท้องกับก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาสูตรดั้งเดิม ชิมโรตีสายไหมขนมประจำจังหวัด ขากลับแวะไปนั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยากินกุ้งแม่น้ำเผาตัวโตเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ บอกได้เลยว่า มาเที่ยวอยุธยาคุ้มค่ามากกกกก กอไก่ล้านตัว แค่มีเวลาวันสองวันก็สามารถมาเที่ยวชิล ๆ ที่อยุธยาได้แล้ว

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่:

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) โทร: 02 250 5500 ศูนย์บริการข่าวสารท่องเที่ยว ททท. 1672
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร: 035 246 076
    เว็บไซต์: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ดื่มด่ำธรรมชาติที่ จ.กาญจนบุรี

 
หากคุณชอบท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร และต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริงในเวลาจำกัด ต้องมาที่ จ.กาญจนบุรี ขับรถเพียงแค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็จะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอด ยิ่งถ้าได้มานอนแพริมแม่น้ำชิล ๆ บอกเลยว่าสวรรค์ชัด ๆ คุณจะสามารถปล่อยกายปล่อยใจทิ้งความเหนื่อยล้าจากหน้าที่บนบ่าไปกับสายน้ำ ใช้ชีวิตช้าลงอีกนิด ฟังเสียงธรรมชาติให้มากขึ้น ส่วนใครที่ชอบทำกิจกรรมอยากออกไปผจญภัย ที่ จ.กาญจนบุรีก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์มากมายให้แวะไปเยี่ยมชม เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว, ทางรถไฟสายมรณะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก สุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ เขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานประวัติศาตร์เมืองสิงห์ อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติถ้ำธารลอด ฯลฯ ถ้ามีเวลาต้องไม่พลาดไปสังขละบุรี ชมโบสถ์ใต้น้ำ กราบขอพรหลวงพ่ออุตตมะวัดวังก์วิเวการาม สัมผัสวิถีชีวิตชาวมอญ และแวะด่านเจดีย์สามองค์ก่อนกลับ

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่:

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) โทร: 02 250 5500 ศูนย์บริการข่าวสารท่องเที่ยว ททท. 1672
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี โทร: 034 511 200 เว็บไซต์: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ที่ยกมานี่แค่น้ำจิ้มเล็ก ๆ น้อย ๆ นะคะ ยังมีสถานที่ให้คุณได้หนีความวุ่นวายจากแสง สี เสียง ออกไปพักใจใกล้ ๆ เมืองอีกมากมาย ไม่ต้องรอหยุดยาว ไม่ต้องนั่งรถนาน ๆ จะไปคนเดียว ไปกับเพื่อน ไปเป็นคู่ หรือชวนพ่อแม่ไปก็ยิ่งดี ระยะทางไม่ใช่สาระสำคัญเท่าการได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา