ปีนี้อยากอัพเลเวล ต้องเตรียมพร้อมรับการประเมินผลงานได้แล้วนะ

ปีนี้อยากอัพเลเวล ต้องเตรียมพร้อมรับการประเมินผลงานได้แล้วนะ

By Krungsri Academy

ช่วงเดือนมีนาคม - กลางปี เป็นอีกช่วงที่หลาย ๆ บริษัทพิจารณาการปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือนให้แก่พนักงาน โดยการประเมินผลงานของแต่ละบริษัทก็จะมีหลักเกณฑ์ที่ต่างกันออกไป ตอนนี้หลายคนคงใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ กันอยู่ใช่ไหมเอ่ย ใครที่เตรียมตัวมาดี ป่านนี้คงนั่งยิ้มกริ่มรอฟังข่าวดี ส่วนใครที่อยากอัพเลเวล เล็งตำแหน่ง เล็งเงินเดือนไหนไว้ แต่ยังไม่มั่นใจ จิตใจพะวักพะวนคล้ายจะเป็นลม นอกจากจะสูดยาดมแล้ว ลองมาดูวิธีเตรียมพร้อมรับการประเมินผลงานกันดีกว่าค่ะ
 

ทบทวนหน้าที่และรายละเอียดของงาน

ช่วงเวลาใกล้การประเมินผลงาน ถือเป็นเวลาที่ดีที่คุณจะได้นั่งทบทวนถึงการทำงานที่ผ่านมา เนื่องจากจะทำให้เห็นภาพรวมของหน้าที่ที่คุณรับผิดชอบว่า เป็นไปในทิศทางใด ถึงเส้นชัยที่ตั้งเป้าไว้หรือยัง โดยคุณสามารถเปรียบเทียบพัฒนาการจากการประเมินครั้งหลังสุด ถ้าทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางไปได้สวยอย่างที่คุณตั้งเป้าหมายเอาไว้ คุณก็จะได้วางแผนต่อยอดให้ดีขึ้น แต่ถ้ารายละเอียดต่าง ๆ ในการทำงานเริ่มไถลออกนอกเส้นทาง หรือมีปัญหาติดขัดจนเกินรับไหว คุณจะได้มาวิเคราะห์หาหนทางแก้ไขได้ทันท่วงที

จดบันทึกความสำเร็จที่ผ่านมา

การจดบันทึกความสำเร็จในการทำงานไม่ใช่การโอ้อวดว่า คุณเก่งกว่าคนอื่น แต่เป็นการรวบรวมวิธีการและแนวคิดในการทำงานของคุณ ซึ่งคุณควรบันทึกไว้ด้วยว่า “ทำอย่างไร” งานชิ้นนั้น ๆ ถึงสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะเชื่อว่าระหว่างการทำงานมีเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเสมอ การจดบันทึกจึงเป็นตัวช่วยจำ ทำให้คุณมีฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่สามารถนำประสบการณ์มาใช้ประโยชน์กับงานในอนาคตได้ รวมไปถึงตอนประเมินผลงาน คุณยังสามารถชี้ให้หัวหน้าเห็นถึงความสำเร็จ ความมุ่งมั่น วิธีการทำงาน และพัฒนาการของคุณได้อย่างชัดเจนขึ้น

จดบันทึกข้อผิดพลาดและปัญหาในการทำงาน

ในการทำงานทุกคนย่อมต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคที่ท้าทายอยู่เสมอ การที่คุณจดบันทึกข้อผิดพลาดต่าง ๆ ไว้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย หรือจะทำให้คุณดูด้อยในสายตาหัวหน้า แต่กลับกันการที่คุณยอมรับและหาวิธีแก้ไข ไม่ปล่อยให้เรื่องผ่านเลยไปเฉย ๆ และทำผิดซ้ำซากอีก หัวหน้าจะเห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน เห็นว่าคุณพร้อมที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อผลประโยชน์ขององค์กร ที่สำคัญหลังจากนี้คุณก็จะเก่งและแกร่งมากขึ้น

สร้างเป้าหมายในอนาคต

นอกจากจะทำงานที่ผ่านมาให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้ว คุณควรวางแผนการทำงานล่วงหน้าเผื่อไปถึงอนาคตด้วย แทนที่จะรอรับงานที่หัวหน้าสั่งให้ทำเท่านั้น ลองร่างเป้าหมายเกี่ยวกับงานของคุณ เช่น คิดวิธีปรับปรุงและพัฒนางานให้ดีขึ้นจากเดิม ขอบริษัทไปอบรม เพิ่มทักษะด้านอื่นให้ตัวเองเพื่อนำมาส่งเสริมการทำงาน เป็นต้น นอกจากจะทำให้คุณมีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตัวคุณเอง เพราะความกระตือรือร้นของคุณเป็นสิ่งที่ทุกบริษัทมองหา

เปิดใจให้กว้างต่อทั้งคำชมและคำติ

แน่นอนว่า เมื่อมีการประเมิน ก็ต้องมีทั้งคำชมและคำติตามมา อย่าคาดหวังว่าคุณจะได้แต่คำชมเพียงอย่างเดียว อย่าคิดว่าที่หัวหน้าติ เพราะเกลียดคุณ แต่ให้คุณทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมจะรับฟัง พร้อมจะเรียนรู้ และปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เมื่อคุณแก้ไขข้อบกพร่องได้ถูกจุด คุณก็จะบินได้สูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ

เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม

ข้อนี้หลายคนมองข้ามเพราะมัวเอาเวลาไปทุ่มเทให้กับงาน และเคร่งเครียดกับการประเมินที่จะมาถึง จนละเลยที่จะดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ ยิ่งคุณกดดันตัวเอง ใจก็จะป่วย ร่างกายก็จะเจ็บไข้ งานก็จะออกมาไม่ดี ดังนั้น ควรแบ่งเวลาให้พอดี กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
จริง ๆ แล้วการประเมินก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หัวใจสำคัญ คือ ตั้งใจทำงาน ปรับปรุง และพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะหัวหน้าไม่ได้ตัดสินจากการทำงานของคุณแค่ 1-2 วัน แต่จะคอยสอดส่องคุณอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณมั่นใจว่าทำได้ รับรองการประเมินคราวนี้เตรียมเฮได้เลย แต่ถ้ามั่นใจแล้วผลออกมาไม่เป็นอย่างที่หวัง อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ลองหาทางเข้าไปขอคุยเรื่องปรับเงินเดือนกับหัวหน้า บางทีการคุยโดยตรงอาจจะทำให้คุณได้รับการชี้แจงที่ละเอียดกว่า แต่ไม่ใช่ไร้ผลงาน แล้วเข้าไปถามว่า ทำไมถึงไม่ได้ปรับเงินเดือน แบบนั้นไม่ได้น๊าาา โชคดีเงินเดือนขึ้นกันทุกคนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา