พร้อมเพย์ มิติใหม่ของวงการการเงิน

พร้อมเพย์ มิติใหม่ของวงการการเงิน

By Krungsri Guru

สำหรับแนวทางของเทคโนโลยีการจัดการเรื่องเงินแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในขณะนี้คงหนีไม่พ้น “พร้อมเพย์” ที่มีประโยชน์มากมายทั้งความสะดวกสบาย และความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้เราจะมาเจาะกันในมุมของ “เทคโนโลยีทางการเงิน” ที่ไม่หยุดนิ่ง และกระตุ้นให้เกิดอะไรใหม่ ๆ ในสังคม เมื่อคนไทยใช้พร้อมเพย์แล้ว จะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินอย่างไรบ้าง ติดตามกันเลย

สมมติเรามีเครื่องเดินทางข้ามเวลา (Time Machine) สามารถเดินทางไปยัง “อนาคต” ได้ สิ่งที่หลายคนอยากรู้สำหรับเรื่องของอนาคตก็คือ “เรื่องเงิน” ที่กำลังจะเปลี่ยนไป หากเราไม่ปรับตัวกับสถานการณ์ที่เงินกำลังพัฒนาเราก็จะเป็นคนตกยุค หรือไม่สามารถคว้าโอกาสในอนาคตได้นั่นเอง ลองมาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ หลังจากจุดเริ่มต้นกำเนิดสิ่งที่เรียกว่า “พร้อมเพย์”

ประการแรก “พร้อมเพย์ทำให้เกิดการประหยัดเงินอย่างมหาศาล”

สำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องโอนเงิน รับเงินบ่อย ๆ และมีเงินหมุนเวียนในกิจการหลักแสน หรือหลักล้านบาทต่อเดือน ต้องมีการโอนเงินออก รับเงินเข้าตลอดเวลา ในปัจจุบันที่ใช้ระบบโอนเงินแบบเก่า เราอาจไม่ทันรู้ตัวว่า “ค่าธรรมเนียม” ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านธนาคารนั้นสูงมาก ยิ่งถ้าเราต้องโอนเงิน รับเงินต่างธนาคาร ค่าธรรมเนียมยิ่งสูง แต่สิ่งนี้ตรงกันข้ามสำหรับพร้อมเพย์ เนื่องจากระบบพร้อมเพย์นั้นจะทำการผูกบัญชีธนาคารกับโทรศัพท์มือถือ ทำให้ค่าธรรมเนียมถูกลงมาก สำหรับการโอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท ไม่เสียค่าธรรมเนียม โอนเงินมากกว่า 1 แสนบาทมีค่าธรรมเนียมไม่เกิน 10 บาทต่อรายการ (รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก)
นอกจากนั้น คุณรู้หรือไม่ว่า ทุกวันนี้การทำธุรกรรมทางการเงินสิ้นเปลืองกระดาษมากแค่ไหน ลองคิดเล่น ๆ ดูว่า ถ้าในประเทศไทยมีคนกด ATM ทั้งหมด 10 ล้านครั้งต่อวัน (เป็นตัวเลขสมมติ) และการกดแต่ละครั้งจะมีบิลกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แจ้งยอดคงเหลือ ทั้งหมด 10 ล้านใบต่อวัน คิดเป็น 10 x 360 = 3,600 ล้านใบต่อปี ถ้าต้นทุนบิลแต่ละใบเป็นจำนวนเงิน 10 สตางค์เท่ากับเรามีต้นทุนกระดาษที่ต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ กว่า 360 ล้านบาทต่อปี ยังไม่นับรวม ค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายไฟฟ้าให้กับตู้ ATM ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย แต่ถ้าเราหันมาใช้ระบบการโอนเงินพร้อมเพย์จะช่วยลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

ประการที่สอง “พร้อมเพย์ทำให้เกิดความรวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน”

สิ่งที่จะเกิดขึ้นสำหรับเทคโนโลยีทางการเงินในอนาคตก็คือ ความรวดเร็ว ในยุคต่อไปอาจจะหมดยุค ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่จะเข้าสู่ยุค “ปลาเร็ว กินปลาช้า” หมายความว่า ต้องใช้ความสะดวกรวดเร็วเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจสมัยใหม่ Startup ที่แม้จะเป็นคนตัวเล็กแต่ก็มีความโดดเด่น คือ ความเร็ว การอาศัยเทคโนโลยีทางการเงินที่รวดเร็วจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กิจการเหล่านี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ไม่ยาก
พร้อมเพย์ตอบโจทย์ดังกล่าวอย่างหมดจด เนื่องจากความสะดวกของการรับโอนเงินด้วยการแจ้งแค่หมายเลขโทรศัพท์ที่เราไปลงทะเบียนผูกบัญชีเอาไว้เท่านั้น ทำให้เราไม่ต้องบอกเลขที่บัญชียาว ๆ ให้กับผู้ต้องการโอนเงินชำระค่าสินค้าหรือบริการของเราอีกต่อไป แถมยังโอนต่างธนาคารได้ด้วย และไม่มีข้อจำกัดเรื่องค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก ดังนั้นการหันมาใช้พร้อมเพย์จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่นักธุรกิจต้องจับตามองไม่กระพริบ
นอกจากนี้ ยังมีความสะดวกในแง่ของการรับโอนเงินบำนาญ เงินคืนภาษี แม้แต่เงินผู้สูงอายุที่รัฐบาลจ่ายให้ทุกเดือน เพราะเมื่อเราใช้พร้อมเพย์ก็ไม่ต้องเดินทางไปทีเขตเพื่อทำเอกสารรอรับเงิน แต่เราสามารถให้ระบบโอนเข้าบัญชีได้ทันทีแค่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์กับเขต และกรมสรรพากร ระบบแบบนี้เรียกว่า Paper Less หรือระบบที่ไร้เอกสาร ลดขั้นตอน ลดความยุ่งยาก สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางให้เสียค่าน้ำมัน ค่าเดินทางแต่อย่างใด

ประการที่สาม “พร้อมเพย์มาพร้อมกับความปลอดภัยสูงสุด”

สำหรับเทคโนโลยีทางด้านการเงินสิ่งที่ต้องผ่านไปให้ได้ก็คือ “ความปลอดภัย” หรือความน่าเชื่อถือของการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเทคโนโลยีดังกล่าว นวัตกรรมพร้อมเพย์ถูกพัฒนาเพื่อความปลอดภัยอย่างแท้จริง สำหรับความน่าเชื่อถือนั้นต้องบอกว่า “หายห่วง” เนื่องจากต้นเรื่องเป็นรัฐบาลที่มีความมั่นคงสูง ทำให้ความน่าเชื่อถือนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับพร้อมเพย์
ในด้านความปลอดภัยนั้น การลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ นั้นมีความปลอดภัยสูง สำหรับการโอนเงินด้วยวิธีเดิม หากเราต้องการรับเงินโอนเราต้องระบุตัวตนด้วยการส่งสำเนาบัตรประชาชน บอกเลขที่บัญชีที่ต้องการให้โอนเงินเข้า สิ่งนี้ถือเป็นความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากมีมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนของเราไปสวมสิทธิ์ เราก็จะต้องเดือดร้อนภายหลัง สำหรับพร้อมเพย์นั้นเราลงทะเบียนระบุตัวตนเอาไว้ตั้งแต่แรก ถ้าต้องการให้ลูกค้าโอนเงินก็แค่แจ้งเบอร์โทรศัพท์ ไม่ต้องบอกเลขที่บัญชีธนาคาร หรือส่งสำเนาบัตรประชาชนเพื่อระบุตัวตน สิ่งนี้คือ ความปลอดภัยที่มากขึ้น เราก็จะทำธุรกรรมได้อย่างอุ่นใจมากขึ้นนั่นเอง แถมยังช่วยลดปัญหาอาชญากรรมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเราไม่ต้องเสี่ยงส่งเอกสารส่วนตัวของเราให้กับคนที่เราไม่รู้จัก หากพัฒนาไปจนถึงระบบการเงินที่ไม่ได้ใช้เงินจริง ๆ ก็จะหมดปัญหาโจรปล้นเงินสด หรือลดลงได้เป็นอย่างมากในอนาคต
สำหรับข้อสรุปของการใช้พร้อมเพย์นั้น ต้องขอสรุปสามคำสั้น ๆ ว่า ประหยัด รวดเร็ว ปลอดภัย หากเราคิดว่าเราต้องการคำสามคำนี้ เพื่อให้กิจการของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม คือ “ประหยัด รวดเร็ว ปลอดภัย” ก็สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมที่นี่เลย กรุงศรี พร้อมเพย์ อนาคตรอทุกคนอยู่ มั่นใจใช้พร้อมเพย์
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา