“ผมทำตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านในเรื่องของความพอเพียงครับ พระองค์ทรงเสียสละทำเพื่อชาติ ทรงมีทุกอย่าง แต่ก็ยังทรงสอนให้เรารักกันและให้เราพอเพียง ซึ่งตรงนี้ผมก็ได้ซึมซับและอยากนำคำสอนนั้นมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็คือการทำงานเพื่อชาติ รับส่งผู้คน ทำงานในนามการบินไทย เพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติเรา แม้จะไม่ได้เป็นนักบินของกองทัพอากาศ ผมก็ยังมีความภูมิใจว่ามีตราของการบินไทยอยู่บนหน้าอก ผมมีความสุขทุกครั้งที่เดินในต่างประเทศแล้วคนอื่นรู้ว่า เรามาจากประเทศไทย ซึ่งมีในหลวง ร.9 ที่ทรงคอยพร่ำสอนและทรงปกป้องดูแลประเทศของเรามานาน”
ตอนเด็ก ๆ เราเองก็คงมีความฝันเยอะแยะมากมายที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และตามวัยของเราซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมาก แต่สำหรับ รต.จักรเรืองโรจน์ สมุทรสาคร แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแม้แต่วินาทีเดียว ความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบินของเขาถูกปูพื้นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และมุ่งมั่นที่จะพิชิตฝันนั้นจนกระทั่งทำได้สำเร็จในที่สุด ถึงแม้ระหว่างทางจะมีอุปสรรคและเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันกับที่คิดไว้บ้าง แต่สุดท้ายเขาก็สามารถวิ่งตามความฝัน พร้อมทั้งรับใช้ประชาชนชาวไทยได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ในที่สุด
หมวดนัท-รต.จักรเรืองโรจน์ สมุทรสาคร
กัปตันการบินไทย
ทำตามความฝันเพียงหนึ่งเดียว มุ่งเป้าสู่การเป็น “นักบิน” ตั้งแต่จำความได้
“สมัยเด็ก ๆ ตอนวันเด็กพ่อแม่ก็พาไปดูเครื่องบิน คุณพ่อเองก็เป็นทหารอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างให้ผมเลย ท่านเป็นทหารที่เสียสละเพื่อชาติ รับใช้ชาติมาตลอด เป็นคนขยัน มีความรับผิดชอบสูง ผมก็เลยอยากเป็นทหารและรับใช้ชาติด้วย พอเห็นเครื่องบินเราก็เลยอยากเป็นนักบิน ตั้งใจแต่เด็กเลยว่าอยากจะเป็นนักบิน อยากขับเครื่องบิน เราอยากปกป้องประเทศชาติ ได้ปกป้องน่านฟ้าไทย อย่างอื่นไม่เป็นแล้ว อันนี้อย่างเดียวเท่านั้น”
เปลี่ยนเส้นทางจากนักเรียนนายร้อย สู่กัปตันการบินไทย เพราะโอกาสแสนยิ่งใหญ่ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
หลังจากที่มุ่งมั่นทำตามความฝันมาอย่างยาวนานจนกระทั่งสามารถสอบเข้าโรงเรียนนายเรืออากาศได้ และพยายามพิชิตเป้าหมายที่วางแผนไว้ตั้งแต่เด็ก ด้วยโชคชะตาที่พัดพาคำว่า “โอกาส” ครั้งสำคัญให้ผ่านเข้ามาในชีวิต
“มันเป็นโอกาสหนึ่งที่เราได้ทำตามความฝัน สมัยเรียนอยู่นายเรืออากาศปี 4 มีการรับสมัครสอบนักบินของการบินไทย เลยคิดว่าลองสอบไปก่อน มันก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราใฝ่ฝัน ได้เป็นนักบินเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเครื่องบินรบป้องกันประเทศชาติก็ตาม แต่อย่างน้อยก็เป็นการบินไทย ชื่อไทยก็ยังอยู่บนอก ซึ่งตอนนั้นพอได้ผ่านการคัดเลือก ได้เป็นนักบิน ซึ่งผลเขาประกาศก่อนผลของกองทัพอากาศ เลยคิดว่าไหน ๆ เราก็ได้โอกาสตรงนี้แล้วก็คว้าไว้ดีกว่า เพราะยังไงก็ได้เป็นนักบินเหมือนกัน”
ความแตกต่างกันระหว่างนักบินของการบินไทย กับนักบินของกองทัพอากาศ
“ความแตกต่างมันมีอยู่แล้วครับ คือ นักบินกองทัพอากาศ จะมีการฝึกฝนนักบินที่เข้มข้นและยากกว่ามาก มีความคิดและการตัดสินใจที่รวดเร็ว ฉับไว แม่นยำ ที่สำคัญ คือ ต้องมีวินัยและความกล้าหาญ เพราะต้องออกไปต่อสู้กับข้าศึกได้ทุกเมื่อ ทุกครั้งที่เครื่องพ้นพื้นไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่ได้กลับมาก็ได้ ต้องมีความเสียสละและมีจิตใจที่กล้าหาญ ซึ่งการฝึกฝนก็จะต่างกัน เพราะนักบินพาณิชย์จะไม่มีการฝึกรบ มีแค่การฝึกบินขึ้นลงให้ปลอดภัย เน้นความปลอดภัยที่สุด ถึงแม้จะต้องมีความรู้และการตัดสินใจที่ดีเหมือนกัน แต่การฝึกฝนจะแตกต่างกัน”
เตรียมตัวรับมืออยู่ตลอดเวลา ต่อให้มีอุปสรรคเข้ามาก็ต้องพร้อมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
“อุปสรรคและปัญหาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจออยู่แล้ว ซึ่งเราเองอยู่บนฟ้าเสียเป็นส่วนใหญ่ อุปสรรคของเราก็จะเป็นเครื่องบินหรือสภาพอากาศ หรือแม้แต่ผู้คนที่เราร่วมงานด้วยบางทีก็อาจมีปัญหาสื่อสารผิดพลาดต่าง ๆ ซึ่งอันดับแรกเลยเราต้องมีสติก่อน ไม่ว่าเครื่องบินเสียหรือว่าสภาพอากาศย่ำแย่ เพราะการมีสติจะทำให้เราคิดได้ จะทำอะไรก็ตามเราต้องนึกถึงผู้โดยสาร 300 กว่าคน ที่เขาฝากชีวิตไว้กับเรา เราต้องดูแลเขาให้ถึงเป้าหมายโดยปลอดภัย เพราะฉะนั้นอาชีพนักบินเลยต้องมีการอ่านหนังสือทบทวนอยู่ตลอดเวลา มีการเตรียมตัวไปบิน ทั้งร่างกายและจิตใจ ทุก ๆ 6 เดือนจะมีรอบในการฝึกซ้อม ในการแก้ปัญหาระหว่างขึ้นบิน เช่น เครื่องเสีย ไฟไหม้ อะไรต่าง ๆ ซึ่งเราจะฝึกในเครื่องฝึกบินจำลองเสมือนจริง อ่านหนังสือ ทบทวนตำราตลอดเวลา เพื่อที่เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้แก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรเราก็ต้องพร้อมรับกับมัน แก้ปัญหามันให้ได้”
ประโยชน์เพื่อสังคมของนักบินพาณิชย์ ความดีที่หลาย ๆ คนมองข้าม
“การเป็นนักบินพาณิชย์ก็ถือเป็นการทำงานเพื่อสังคมเหมือนกันนะ ในแง่ของการรับส่งผู้โดยสารหรืออำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัย เช่น สมัยนี้การเดินทางที่รวดเร็วที่สุดก็คือ เครื่องบิน ซึ่งหลายครั้งที่เราต้องรับส่งผู้ป่วย รับส่งคุณหมอจากต่างประเทศเพื่อมารักษาคนไข้ในเมืองไทย ตรงนี้ก็เหมือนการทำเพื่อสังคมเหมือนกัน หรือการรับส่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัด แค่นี้เราก็ต้องไปส่งให้อย่างรวดเร็ว ดีเลย์ไม่ได้”
“หรือการรับส่งนักกีฬาทีมชาติไทยเพื่อไปเตะฟุตบอลในออสเตรเลีย ก็เป็นการทำเพื่อสังคมเหมือนกัน หลายคนอาจจะมองไม่เห็นภาพว่าการเป็นนักบินทำเพื่อสังคมยังไง อันนี้แหละครับที่บอกได้ เรารับส่งคนที่เขาไม่ได้กลับบ้านมาเป็นแรมปี ให้กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย เขาได้เจอครอบครัว ได้เจอรอยยิ้ม ได้รับความสุข สิ่งที่ผมชอบมากที่สุด คือ การได้เห็นรอยยิ้มผู้โดยสารที่มาถึงที่หมายโดยปลอดภัย เขาได้โอบกอดครอบครัว ที่เขารอมานาน มันเป็นการสร้างความสุขให้กับคนอื่นเหมือนกัน”
“ครอบครัว” กำลังใจสำคัญที่ทำให้ไม่ย่อท้อ
“การที่ผมเข้ามาเป็นนักบินกองทัพอากาศ ฝึกทหาร มันฝึกหนัก นักเรียนวัยรุ่นที่ต้องการไปเที่ยว ต้องการอะไร แล้วมันเกิดอุปสรรคขึ้น สุดท้ายก็ต้องถามตัวเองว่ามันคือสิ่งที่เราอยากเป็นหรือเปล่า ทั้งต้องฝึกหนัก ทั้งต้องอดทน ต้องมีความรับผิดชอบ ทำไมเราไม่เป็นนักร้อง ร้องเพลง มีความสุข หรือแบบว่า ทำธุรกิจ ร่ำรวยเงินทอง แต่ถามว่าสิ่งเหล่านั้นมันใช่ตัวเรารึเปล่า มันไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ทุกคน ทุกอย่าง ทุกอาชีพมีอุปสรรคหมด นักร้องก็ต้องไปฝึกร้องเพลง นักธุรกิจก็ต้องมีล้มลุกคลุกคลานกว่าที่จะรุ่งเรือง เพราะฉะนั้นเราจะมาย่อท้อ ยอมแพ้ต่ออุปสรรคแค่นี้มันก็ล้มเหลว เราต้องมีความอดทน ต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้”
“ผมมีครอบครัวที่สนับสนุนผมตลอด คอยเชียร์ ให้กำลังใจตลอด เพราะฉะนั้นเราต้องตัดใจและมีความอดทนฝ่าฟันมันไปให้ได้ ตัวเราต้องแน่วแน่ในความฝัน อดทน พยายาม สู้กับมัน อย่ายอมแพ้ครับ”
ฐานะ ภาระ หน้าที่ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่เคยทำให้ลืมคำสอนของพระองค์ท่าน รัชกาลที่ 9
ถึงแม้ทุกวันนี้จะดูเหมือนว่าคุณจักรเรืองโรจน์ มีทุกอย่างที่ครบถ้วนตามแบบที่คนธรรมดาสักคนอยากจะมี ฐานะทางบ้านที่ดี หน้าที่การงานที่ใหญ่โต รวมถึงความรับผิดชอบที่หนักอึ้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยทำให้เขาลืม
น้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านรัชกาลที่ 9 เป็นแนวทางเลยแม้แต่วันเดียว
“ผมทำตามแนวคิดท่านในเรื่องของความพอเพียงครับ ท่านเสียสละทำเพื่อชาติ ท่านมีทุกอย่าง แต่ท่านก็ยังสอนให้เรารักกัน และสอนให้เราพอเพียง ซึ่งตรงนี้ผมก็ได้ซึมซับและอยากนำคำสอนของท่านมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็คือ เราทำงานเพื่อชาติ รับส่งผู้คน ทำงานในนามการบินไทย เพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติเรา แม้จะไม่ได้เป็นนักบินของกองทัพอากาศ ผมก็ยังมีความภูมิใจที่ว่ามีตราของการบินไทยอยู่บนหน้าอกผม ผมมีความสุขทุกครั้งที่เดินในต่างประเทศแล้วคนอื่นรู้ว่า เรามาจากประเทศไทย ซึ่งมีในหลวง ร.9 ที่คอยพร่ำบอก และคอยปกป้องดูแลประเทศของเรามานาน”
“อีกทั้งในเรื่องของการใช้เงิน แม้ว่าเราจะมีเงินทองอาจจะไม่ได้มากมาย แต่เราก็อย่าใช้ฟุ่มเฟือย เราจะอยู่อย่างมีความสุขได้ อยู่ที่เราพอเพียง มีเยอะแค่ไหน ใช้เยอะมันก็หมด แต่ถ้าเรามีความสุขในสิ่งที่เรามี เท่านี้ก็พอแล้ว มันก็จะเป็นความสุขที่ยั่งยืนมากกว่า”
วางอนาคตไว้อย่างพอเพียง พร้อมเผยเคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต
“ตอนนี้ผมเป็นนักบินผู้ช่วย ก็อยากจะเจริญเติบโตเป็นกัปตันที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ที่คนเขาให้เกียรติ เคารพนับถือ อยากมีครอบครัวที่น่ารัก ต้อง
ใช้จ่ายอย่างประหยัดเพื่อเป็นหลักสร้างความสุขและไม่มีหนี้สิน หรืออยู่แบบพอเพียงตามหลักคำสอนของในหลวง ร.9 ของเรา มีความสุขที่ยั่งยืนต่อไป”
“สำหรับใครที่อยากจะทำตามความฝัน ผมแนะนำว่าอย่างแรกต้องรู้จักตัวเองก่อน รู้ใจตัวเองให้ดีว่าเราเป็นคนชอบอะไร เป็นคนยังไง ต้องการจะเป็นอะไร ตั้งคำถามในใจและตอบให้ได้ เมื่อเรารู้ดีแล้วก็ตั้งเป้าหมาย หมั่นฝึกฝน มีความพยายาม อย่าไปท้อถอย ในวันที่เราท้อให้เรามองย้อนกลับไปว่าวันที่เราเป็นเด็ก เราอยากเป็นแบบนี้มาก ๆ แรงบันดาลใจตรงนั้นมันเป็นยังไง ถ้าเรานึกถึงมันได้ เราจะไม่มีวันท้อถอย เราจะมีแรงทำมันต่อไปเรื่อย ๆ”