กฎหลักของการฉีกแผนการทำงานเดิมสู่แผนใหม่ที่สนุกกว่า

กฎหลักของการฉีกแผนการทำงานเดิมสู่แผนใหม่ที่สนุกกว่า

By Krungsri Plearn Plearn

บางทีการทำงานตามแผนงานเดิมก็ปลอดภัยดี อยู่ใน Comfort Zone ที่สบาย ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่เมื่อมันมาถึงจุดหนึ่ง คุณจะรู้สึกได้ถึงความจำเจ น่าเบื่อ และไม่มีอะไรที่ท้าทายอีกต่อไป นี่คือสัญญาณเตือนให้คุณก้าวออกมาจาก Comfort Zone ก่อนที่คุณจะหมด Passion ในการทำงาน บทความนี้จะพูดถึงกฎหลักของการฉีกแผนงานแบบเก่าคร่ำครึเพื่อลองสร้างแผนงานใหม่ในแบบฉบับของตัวเองที่สนุกยิ่งขึ้น และทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายในชีวิตได้เร็วกว่าเดิม

 
กฎข้อที่ 1
ปลุกความสนุกในตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง
ในเมื่อแผนงานแบบเดิม ๆ ทำคุณเบื่อ เซ็ง นอย ดังนั้นเราก็ต้องหาสิ่งใหม่ที่ท้าทายเพื่อปลุกความสนุกสนานในการทำงานขึ้นมาใหม่ ความสนุกในการทำงานที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่หมายถึง Passion ข้างใน ซึ่งเป็นพลังงานที่สำคัญที่สุดในการทำงานอะไรก็ตาม ดังนั้น ให้คุณลองตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งศึกษาแนวทางใหม่ ๆ ในการทำงานจากแผนงานที่ประสบความสำเร็จเพื่อกระตุ้นอะดรีนาลีนในตัวคุณ แล้วบอกกับตัวเองว่า “เขาทำได้ ฉันก็ทำได้” ลองตั้งเป้าหมายง่าย ๆ เช่น ตั้งใจอ่านและตอบอีเมลทุกฉบับก่อนกลับบ้าน ทำเช็คลิสต์งานไว้ และเมื่อทำงานเสร็จก็ติ๊กออก เป็นต้น
 
กฎข้อที่ 2
เอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ
ถ้าเป้าหมายของคุณ คือ การสร้างแผนงานแบบใหม่ ดังนั้นคุณต้องเริ่มปรับตั้งแต่วิธีการทำงานโดยเริ่มจากการเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ อาจเป็นคาเฟ่บรรยากาศดี นิทรรศการศิลปะ ตลาดนัดฮิปสเตอร์ หรือสถานที่ใดก็ตามที่คุณไปแล้วรู้สึกว่าสมองปลอดโปร่งและพร้อมรับอะไรใหม่ ๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นแหล่งกำเนิดไอเดียชั้นดีที่อาจต่อยอดการทำงานของคุณในอนาคตก็ได้ หากเป็นไปได้ลองหาเวลาว่างไปทำงานที่ห้องสมุด ร่วมงานสัมมนา หรือนัดทำงานที่ร้านกาแฟสักร้านดู
 
กฎข้อที่ 3
ค่อยเป็นค่อยไป
ถ้าจะเปลี่ยนระบบการทำงานแบบหักดิบ แน่นอนว่าเพื่อนร่วมงานของคุณหลายคนอาจจะไม่โอเคเท่าไหร่นัก ดังนั้นเราต้องปรับเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากการปรับมุมมองต่อการทำงานของเพื่อนร่วมทีมให้ค่อย ๆ เดินออกจากแผนงานแบบเดิมด้วยการเปิดกว้างให้ทุกคนโยนไอเดียออกมาตามที่ใจต้องการ และทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของตน ยกตัวอย่าง จากการทำงานผ่านอีเมล ก็ลองนัดคุยพร้อม ๆ กันที่ห้องประชุมสักห้อง วิธีนี้ช่วยประหยัดเวลาในการส่งอีเมลไปมา และยังทำให้ทราบความคิดของสมาชิกทุกคนด้วยค่ะ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Passion เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ถ้าเรามี Passion ที่แข็งแรง ไม่ว่าแผนงานจะเป็นอย่างไร เราก็จะสามารถหาทางลัดใหม่ ๆ เพื่อให้งานชิ้นนั้นประสบผลสำเร็จได้เสมอ
ขอบคุณข้อมูลจาก: By Krungsri Academy
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา