ข้อคิดการใช้ชีวิตจากคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน

ข้อคิดการใช้ชีวิตจากคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน

By Krungsri Guru

สำหรับคนในยุคปัจจุบัน ยุคใหม่ หรือเรียกว่า Generation ME ส่วนใหญ่จะเป็น “เด็กรุ่นใหม่” คนในยุคที่เติบโตมาพร้อมกับ “เทคโนโลยี” อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าในอดีตที่ไม่มี “อินเทอร์เน็ต” หรือ Smart Phone เขาใช้ชีวิตกันอย่างไร ทำธุรกิจอย่างไร? เก็บเงินกันอย่างไร? เอาไปลงทุนอะไรบ้าง? ถ้าอยากรู้ก็ตามมาอ่านได้เลยครับ


ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิต


สำหรับคนในยุคก่อน คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนนั้น การใช้ชีวิตในอดีตไม่ได้สะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน เมื่อไม่สะดวกสบายก็ต้องใช้ความพยายามมากขึ้น ทำให้คนในยุคก่อนมีสิ่งที่เรียกว่า “ความอดทน” มากกว่าคนในยุคปัจจุบัน ลองนึกภาพการเดินทางโดยไม่มีรถไฟฟ้า การส่งข้อมูลโดยไม่มีอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่อาหารการกินที่ไม่มีร้านสะดวกซื้อเหมือนในสมัยนี้
เมื่อความสะดวกสบายเข้าถึงคนในยุคนี้ทำให้ “ความอดทน” ของคนรุ่นใหม่ลดน้อยลงไปมาก เกิดปัญหาที่เรียกว่า “สมาธิสั้น” หรือทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่เฉพาะเจาะจงลงไป ไม่ตั้งใจอยู่ในงานที่ทำ ทำให้งานแม้จะรวดเร็วขึ้น แต่ก็ขาดความรอบคอบ นั่นคือสิ่งที่คนรุ่นเก่าที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอยากให้คนรุ่นใหม่คิดถึงก็คือ “ความอดทน”
 

ข้อคิดเกี่ยวกับการทำงาน


สำหรับเรื่องราวของการทำงาน ลองนึกภาพคนยุคเก่าที่ไม่มีแม้แต่คอมพิวเตอร์จะต้องกองอยู่กับเอกสารงานล้นโต๊ะ จะทำบัญชี ตัดเงิน เพิ่มเงิน สั่งซื้อ สั่งผลิต เช็คยอดขาย ต้องทำผ่าน “กระดาษ” ทำให้ต้องมีห้องเก็บเอกสารขนาดใหญ่ ข้อดีของการทำแบบนี้ คือ มันเป็น Hard Copy เอกสารจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ เวลาสืบค้นก็จะยังพบกับเอกสารเก่า ๆ ทำให้ตามหาร่องรอยต่าง ๆ ได้ไม่ยาก
แต่สำหรับในยุคใหม่ที่เป็นยุค “ดิจิทัล” ทุกอย่างถูกจัดเก็บไว้ในรูปแบบ File ในคอมพิวเตอร์ ใน Sever ขนาดใหญ่ ข้อดีก็คือ ลดการใช้กระดาษ ลดปริมาณเอกสารลงไปอย่างมากมาย แต่ข้อเสียก็คือ หากฐานข้อมูลเสียหายต้องกู้คืนจะต้องปวดหัวอย่างหนัก แม้จะสะดวกสบาย แต่ความจริงแล้วการทำงานในยุคปัจจุบันทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ปริมาณข้อมูลมหาศาล” ทำให้คนในยุคปัจจุบันเกิดโรคใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือ Office Syndrome ที่เกิดจากการทำงานกับข้อมูล กับเครื่องมือสมัยใหม่ คำแนะนำของคนยุคเก่าก็คือ “ช้าลงบ้าง” ลดความรวดเร็ว แต่เพิ่มความระมัดระวังในการทำงาน งานที่ทำก็จะมีคุณภาพ ไม่ต้องกลับไปแก้ไขความเสียหายนั่นเองครับ
 

ข้อคิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจ


สำหรับการทำธุรกิจในอดีตมีข้อดีก็คือ “คู่แข่งยังไม่มาก” แต่ข้อเสียก็คือ การทำธุรกิจในอดีตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากยังไม่มีเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน ทำให้คนที่คิดจะทำกิจการส่วนตัวในสมัยก่อนต้องออกแรงอย่างหนัก ทั้งการติดต่อสื่อสารก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนในยุคนี้ การติดต่อธุรกิจแต่ละครั้งถ้าเป็นเรื่องสำคัญต้องนัดประชุมกันอย่างเป็นทางการ ทำให้นักธุรกิจในอดีตมีการติดต่อสื่อสารทางตรงกันมากกว่านักธุรกิจในยุคปัจจุบัน ทักษะการเจรจาต่อรอง “แน่น” โดยเฉพาะเมื่อต้องเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาเงินทุนมาหมุนเวียน และต้องเจรจา “เก็บหนี้” กับลูกหนี้
ในยุคปัจจุบันการทำธุรกิจง่ายขึ้นมาก การติดต่อสื่อสารก็สะดวกรวดเร็ว แน่นอนที่สุดว่าทำให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจยุคดิจิทัล เกิดเจ้าของกิจการพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า Start Up อย่างมากมาย แต่ข้อพึงระวังที่นักธุรกิจที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอยากจะแนะนำก็คือ กิจการที่เกิดง่ายเกินไป ก็มีโอกาสล้มง่ายเช่นกัน เราจะเห็นว่ากิจการประเภท Start Up นั้นมีอย่างมากมาย แต่มีน้อยรายที่จะประสบความสำเร็จ การมีเลือดของนักธุรกิจ คือ “กัดไม่ปล่อย” หรือมีความเพียรอย่างนักธุรกิจในยุคก่อนจะช่วยให้นักธุรกิจยุคใหม่ผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ด้วยดีนั่นเอง
 

ข้อคิดเกี่ยวกับการลงทุน


ในอดีตการลงทุนนั้นถูกจำกัดด้วยปัจจัยหลากหลาย นักลงทุนในยุคเก่าจึงมักลงทุนในสินทรัพย์ที่ “จับต้องได้” เช่น ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น แต่ในยุคปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน-การลงทุนมีอยู่อย่างมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นสามัญ หุ้นกู้ พันธบัตรรูปแบบต่าง ๆ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงิน พวกอนุพันธ์ ฟิวเจอร์รูปแบบต่าง ๆ
ข้อดีของการลงทุนในรูปแบบปัจจุบัน คือ ความหลากหลาย และความสามารถในการทำ “กำไร” โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบอนุพันธ์ และฟิวเจอร์รูปแบบต่าง ๆ เราใช้เงินเพียงเล็กน้อย แต่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงมาก คำแนะนำของผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนก็คือ ควรใช้ความระมัดระวังการลงทุนในรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนสูง ๆ เพราะมันมาพร้อมกับ “ความเสี่ยง” ที่สูงด้วยเช่นกัน
ข้อคิดก็คือ “อย่าโลภ” ควรลงทุนด้วยความรอบคอบ พิจารณาทุกแง่มุมให้ครบด้านก่อนตัดสินใจ การลงทุนในสมัยนี้มีรูปแบบหลากหลายก็จริง แต่เราควรเลือกการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง หากเราคิดจะรวยเร็วมากจนเกินไปผลลัพธ์มักจะออกตรงกันข้าม จากประสบการณ์ตรงของการเป็นนักลงทุนมาหลายปี ควรค่อยเป็นค่อยไป ศึกษาไปด้วยลงทุนไปด้วย เมื่อเราเก่งขึ้นแล้วค่อยขยับขยายพอร์ตให้ใหญ่ขึ้นก็ยังไม่ช้าเกินไปอย่างแน่นอนครับ
ประสบการณ์ของคนอาบน้ำร้อนมาก่อนนั้น “ควรค่าแก่การอ่าน” เนื่องจากมันเป็นเหมือน “ทางลัด” อย่างหนึ่ง เป็นการบอกเล่าจากประสบการณ์ตรงโดยที่เราไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเสียเอง ฟังไว้หน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร จริงหรือไม่ครับ?
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา