คุณเคยรู้สึกผูกพันกับสถานที่ ๆ หนึ่ง รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ไป จนกลายเป็นความทรงจำดี ๆ ที่ผูกพัน ราวกับสถานที่แห่งนี้คือเพื่อนคนหนึ่งของคุณหรือไม่ เรากำลังพูดถึงลิโด้ โรงภาพยนตร์ฉายซ้ำความทรงจำของใครหลายคน บางคนดูหนังครั้งแรกกับแฟนที่นี่ ขณะที่อีกคนดูหนังครั้งสุดท้ายกับแฟนเก่า หรือดูหนังคนเดียวที่นี่ที่แรก ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ลิโด้ กลายเป็นเรื่องเล่าในแบบคุณ นี่คือจุดเริ่มต้นของการ “connect” ทุกความทรงจำจากทุกเรื่องราว
Rebirth
ในวันที่ลิโด้ลาจอ
ภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2561 หลายคนเสียใจ คิดว่าจะไม่มีโอกาสเจอเพื่อนคนนี้อีกแล้ว แต่สุดท้าย ลิโดก็กลับมาในชื่อ Lido Connect พร้อมกับแนวคิด The Unexpected Experience มอบประสบการณ์ที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์อีกต่อไป แต่จะมีกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ดนตรี ศิลปะ และงานแสดงอื่น ๆ เปลี่ยนจากสถานที่เป็นสิ่งมีชีวิต จากเดิมที่เคยอยู่ในความดูแลของโรงภาพยนตร์เครือ APEX และสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ลิโด้โฉมใหม่บริหารโดย LOVEiS ค่ายเพลงที่คุ้นชินกับพื้นที่สยามสแควร์มาตั้งแต่ยังเป็นค่าย Bakery Music ทั้งลิโด้และ LOVEiS จึงมีความผูกพันกับพื้นที่แห่งนี้มาด้วยกัน การรีแบรนด์ครั้งใหม่ จึงเหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน แล้วกลับมาเจอกันอีกครั้ง ซึ่งหากเราสังเกตแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ มักใช้กลยุทธ์เชื่อมโยงให้ผู้บริโภครู้สึกผูกพันกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ให้คนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ จนเกิดความไว้วางใจ และนำไปสู่การเป็น Brand loyalty ที่ซื่อสัตย์
Reconnect
การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เปลี่ยนไปของ “Lido Conncet” ที่ยังคงกลิ่นอายของวันวาน ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยรุ่นยุคไหน ลิโด้ก็คือเพื่อนคนเดิมที่มีอายุ 50 กว่าปีแล้ว ถ้าเปรียบเป็นคนก็มากประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ แต่ยังคงแข็งแรง และสนุกกับการใช้ชีวิต ในวันนี้ ลิโด้ คอนเนค คือพื้นที่ใหม่ที่รอคุณมาบรรเลงความทรงจำบทใหม่ในแบบฉบับของคุณเอง ถ้านึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ลองมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่ ที่คุณจะได้เจอกับคนทุกเจเนอเรชั่น หากเราเจอเพื่อนที่ลิโด้ เราจะไม่ทักว่า มาดูหนังเรื่องอะไร? แต่เราจะถามว่า มาทำอะไรที่นี่บ้าง? เพราะมีหลายกิจกรรมให้คุณทำ เชื่อมต่อคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อผลักดันสิ่งดี ๆ สู่สังคม
Renovate
การรีแบรนด์ครั้งนี้มาพร้อมกับการรีโนเวทพื้นที่ครั้งใหญ่ เริ่มจากการคิดโจทย์ว่าพื้นที่สยามสแควร์ยังขาดอะไร แม้จะเป็นแลนด์มาร์คแสดงความทันสมัยของเมืองหลวง มีร้านค้า ห้างสรรพสินค้าที่หรูหรา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังขาดคือพื้นที่อิสระของคนรุ่นใหม่เพื่อแสดงออกความคิดสร้างสรรค์ การปรับปรุงพื้นที่นี้จึงสร้างประโยชน์ให้กับทุกคน ไม่ใช่แค่คนที่จะมาดูหนัง หรือร่วมกิจกรรมเท่านั้น แม้แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ยืนรอรถเมล์ก็แวะมานั่งพักได้ แถมยังมีดนตรีให้ฟังด้วย ในส่วนของการออกแบบยังคงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมเอาไว้ เพราะลิโด้เป็นแบรนด์ที่มีคุณค่าทางความรู้สึกแค่เปลี่ยนบริบทของพื้นที่ลิโด้ให้มีชีวิตชีวา สนุกและร่วมสมัยขึ้น ซึ่งภายในตัวอาคาร แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน Lido 1 ยังคงเป็นโรงภาพยนตร์เพื่อฉายหนังคุณภาพดี Lido 2 เป็นพื้นที่ live house สำหรับแสดงดนตรี และ Lido 3 ที่มีชื่อว่า Blackbox เปิดโอกาสสำหรับกิจกรรมแนว Art Innovation, Performing Art ฯลฯ บริเวณใต้อาคารยังมีร้านรวงต่าง ๆ คาเฟ่เก๋ ๆ ให้มานั่งพักผ่อน ส่วนลานกิจกรรมด้านหน้าเปิดพื้นที่แนว Street Performance ไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงผลงาน
Why rebrand?
จากกรณีศึกษาของลิโด้ แม้จะเป็นแบรนด์ที่มีความชัดเจนมาก ๆ ก็ยังต้องรีแบรนด์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของโลก เพราะธรรมชาติของแบรนด์ไม่ใช่สิ่งที่อยู่เป็นอมตะ ถึงคนจะนิยมในวันนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ต้องเจอกับขู่แข่ง และอุปสรรคที่อาจมาจากการบริหารภายใน หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของเจ้าของแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลว่าทำไมต้องมีการรีแบรนด์เพื่อปรับเปลี่ยน ภาพลักษณ์ใหม่ ให้ผู้บริโภคเดิมตื่นเต้น คนใหม่ ๆ ก็รู้สึกว้าว อยากไปสัมผัสกับตาตัวเองให้ได้ ส่วนประโยชน์ที่ได้นั้นก็คือการขยายขอบเขตความสำเร็จ เพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ สร้างแบรนด์ให้แข็งแรงขึ้น หากเปรียบแบรนด์เป็นมนุษย์ เมื่อเติบโตขึ้น ความคิดก็ย่อมพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป ตามประสบการณ์ชีวิต เมื่อไหร่ที่หยุดคิดและเรียนรู้ก็เท่ากับเป็นมนุษย์ที่ไร้ลมหายใจ
หากคุณเป็นผู้ประกอบการ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่
ธุรกิจของคุณต้องรีแบรนด์ ลองทบทวนสักนิด แล้วหยิบเอากรณีศึกษาของลิโด้มาปรับใช้ได้ การเปลี่ยนแปลงที่ดีคือการนำไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม แต่ยังคงคุณค่าที่เคยมีอยู่อย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับลิโด้ ที่ไม่ใช่แค่สถานที่แต่คือเพื่อนคนหนึ่งของคุณ
ขอบคุณข้อมูลจาก:
thestandard.co/,
lidoconnect.com/,
mdsiglobal.com/rebranding/