หลายคนคงทราบดีว่าเครดิตบูโรมีความสำคัญ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อ หรือยื่นเอกสารสมัครบัตรเครดิต และมักจะมีคำถามตามมาว่า เราจะตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของตัวเองได้อย่างไร? น้องเพลินเพลินมีข่าวดีมาบอก เพราะการเช็กเครดิตบูโรนั้นง่ายกว่าที่คิด สามารถทำได้สะดวกทุกที่ทุกเวลาผ่านมือถือ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต พร้อมบอกข้อดีอื่น ๆ ของการเช็กเครดิตบูโรด้วยตัวเองที่มากกว่าแค่ขอสินเชื่อ จะน่าสนใจแค่ไหน ตามไปดูกันเลย
เครดิตบูโรมีความเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร ทำไมถึงควรเช็ก
เครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau - NCB) คือ สถาบันที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นประวัติการขอสินเชื่อ การได้รับอนุมัติ และที่สำคัญคือประวัติการ
ชำระหนี้ ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล ของเราทุกคน ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บเป็นระบบ และใช้เป็นฐานข้อมูลกลางสำหรับสถาบันการเงินในการประเมินความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ
ดังนั้น เครดิตบูโรจึงมีความเกี่ยวข้องกับเราโดยตรง เพราะเปรียบเสมือน “สมุดพกทางการเงิน” ที่บันทึกพฤติกรรมทางเครดิตของเราไว้ทั้งหมด การเช็กเครดิตบูโรด้วยตัวเองเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งที่คนมีรายได้ หรือสินเชื่อควรทำนั่นเอง
ข้อดีของการเช็กเครดิตบูโรตัวเองเป็นประจำ
การตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเองอยู่เสมอมีข้อดีหลายด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องการขอสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราวางแผน และจัดการสุขภาพทางการเงินได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เตรียมความพร้อมก่อนยื่นขอสินเชื่อ
การเช็กเครดิตบูโรล่วงหน้าก่อนยื่นขอสินเชื่อ ทำให้เราเห็นภาพรวมสถานะเครดิตของตัวเองก่อนที่สถาบันการเงินจะเห็น หากประวัติการชำระหนี้ดี ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยื่นขอสินเชื่อ แต่หากพบว่ามีข้อมูลบางอย่างที่อาจส่งผลกระทบ เช่น เคยมีประวัติค้างชำระ หรือมีข้อมูลที่ผิดพลาด เราจะได้มีเวลาตรวจสอบ แก้ไข หรือเตรียมเอกสารชี้แจง ทำให้การยื่นขอสินเชื่อในอนาคตราบรื่นมากขึ้น
เช็กเครดิตการเงินของตัวเองว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม
นอกจากการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสินเชื่อที่มีอยู่แล้ว การเช็กเครดิตบูโรยังช่วยให้เราตรวจพบความผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น มีรายการสินเชื่อหรือบัตรเครดิตที่เราไม่เคยสมัครปรากฏในรายงาน หรือมีการขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตโดยที่เราไม่ได้ทำธุรกรรม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการถูกสวมรอย หรือโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล
เช็กเครดิตบูโรออนไลน์ผ่านโมบายแอป Bureau OK (บูโร โอเค)
ปัจจุบัน การเช็กเครดิตบูโรไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยแอปพลิเคชัน “Bureau OK” (บูโร โอเค) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด แอปนี้ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตัวเองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สามารถขอรายงานเครดิตบูโรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงแค่มีสมาร์ตโฟน และอินเทอร์เน็ต
ขั้นตอนการลงทะเบียนใช้บริการ Bureau OK
สำหรับใครที่สนใจเช็กเครดิตบูโรผ่านมือถือด้วยแอปพลิเคชัน Bureau OK สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน : ค้นหา และดาวน์โหลดแอป “Bureau OK” ได้ทั้งจาก App Store (iOS) และ Google Play Store (Android)
- อ่าน และยอมรับเงื่อนไข : ทำความเข้าใจข้อกำหนด และเงื่อนไขการใช้บริการ และกดยอมรับ
- ลงทะเบียนยืนยันตัวตน : ผู้ใช้ใหม่จำเป็นต้องผ่านการพิสูจน์ และยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น ผ่านเคาน์เตอร์บริการที่กำหนด, ตู้ ATM ธนาคารที่ร่วมรายการ, หรือผ่านช่องทางดิจิทัลอย่าง NDID (ตรวจสอบช่องทางที่สะดวกได้จากเว็บไซต์เครดิตบูโร หรือในแอปพลิเคชัน)
- สร้างบัญชีผู้ใช้ : เมื่อยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ให้ทำการสร้างบัญชีผู้ใช้ ตั้งรหัสผ่าน และกรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่แอปกำหนด
- เข้าสู่ระบบ และขอรายงาน : ใช้บัญชีที่สร้างขึ้นเข้าสู่ระบบภายในแอป Bureau OK และเลือกเมนูเพื่อขอรายงานเครดิตบูโร
ค่าบริการในการขอข้อมูลเครดิต
การขอรายงานเครดิตบูโรผ่านแอป Bureau OK มีค่าบริการอยู่ที่ 100 บาทต่อครั้ง* และหลังจากชำระเงินเรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไปจะสามารถรอรับรายงานในรูปแบบไฟล์ PDF ทางอีเมลที่ลงทะเบียนไว้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง หรือบางกรณีอาจเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับระบบในขณะนั้น
*ค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบในแอปพลิเคชัน Bureau OK อีกครั้ง ณ วันที่ทำรายการ
ควรเช็กเครดิตบูโรของตัวเองบ่อยแค่ไหน
คำถามต่อมาคือ
เราควรเช็กเครดิตบูโรบ่อยแค่ไหน? จริง ๆ แล้วไม่มีกฎตายตัว แต่ขอแนะนำดังนี้
- อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง : เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ตรวจหาสิ่งผิดปกติ และเป็นการตรวจสุขภาพทางการเงินโดยรวม
- ก่อนยื่นขอสินเชื่อ : ควรเช็กก่อนสัก 1-2 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อม และเผื่อเวลาหากต้องมีการแก้ไขข้อมูล
- หลังจากปิดบัญชีหนี้ : เช็กเพื่อยืนยันว่าสถานะบัญชีในระบบเครดิตบูโรได้อัปเดตเป็น "ปิดบัญชี" เรียบร้อยแล้ว
เข้าใจความหมายรหัสในเครดิตบูโร แบบไหนที่เรียกว่า “ปกติ”
เมื่อได้รับรายงานเครดิตบูโรมาแล้ว เราจะเห็นรหัสสถานะบัญชีต่าง ๆ กำกับอยู่ ซึ่งรหัสเหล่านี้มีความหมายแตกต่างกันไป มาดูตัวอย่างรหัสสถานะที่บ่งบอกว่าบัญชีของเรา “ปกติ” หรือไม่มีปัญหาในการชำระหนี้กัน
- 10 หรือ 010 : สถานะปกติ หมายถึง บัญชีนี้มีการชำระหนี้ตามกำหนด จ่ายตรงเวลา ไม่มียอดค้างชำระ
- 11 หรือ 011 : สถานะปิดบัญชี หมายถึง หนี้ในบัญชีนี้ได้รับการชำระครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว
- 12 หรือ 012 : สถานะพักชำระหนี้ หมายถึง บัญชีอยู่ในมาตรการพักชำระหนี้ตามนโยบายของสถาบันการเงินหรือภาครัฐ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระ
จะเห็นได้ว่า การเข้าใจรหัสเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างมากในการเช็กเครดิตบูโร หากในรายงานของคุณเป็นรหัสเหล่านี้ ก็ถือว่ามีสถานะเครดิตที่ดี แต่หากพบรหัสอื่น ๆ เช่น 20 (ค้างชำระเกิน 90 วัน) โดยที่มีการชำระหนี้ปกติ ควรตรวจสอบรายละเอียด และประวัติการชำระของบัญชีนั้น ๆ เพิ่มเติม
สรุป เช็กเครดิตบูโรด้วยตัวเองเป็นประจำ มีประโยชน์มากกว่าขอสินเชื่อ
การเช็กเครดิตบูโรเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะข้อมูลเครดิตมีผลโดยตรงต่อโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อต่าง ๆ การตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเองอย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางที่สะดวกสบายอย่างแอปพลิเคชัน Bureau OK บนมือถือ จะช่วยให้เราทราบสถานะทางการเงิน เตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการถูกสวมรอยได้ อย่าลืมสละเวลาเช็กเครดิตบูโรของคุณ เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาว