เทคนิคฉายเดี่ยวทำธุรกิจ E-Commerce แบบเป๊ะปัง

เทคนิคฉายเดี่ยวทำธุรกิจ E-Commerce แบบเป๊ะปัง

By สืบศักดิ์ ลิ่วลักษณ์

ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่นิยมเป็นเจ้าของธุรกิจ E-Commerce กันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ในช่วงเริ่มต้นก็มักเปิดร้านขายของตามสื่อสังคมออนไลน์กันแบบง่าย ๆ ไม่ได้คำนึงถึงข้อกฎหมายกันสักเท่าไรนัก แต่ในอนาคตหากต้องการขยายกิจการให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด การจดทะเบียนพาณิชย์อย่างเป็นทางการจะช่วยให้ธุรกิจ E-Commerce ของคุณมีความน่าเชื่อถือ จัดการเงินหมุนเวียนได้อย่างเป็นระบบ และมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากยิ่งขึ้น

โดยเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดตั้งบริษัทจำกัดคนเดียว เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของภาครัฐได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า นโยบายนี้ย่อมส่งผลดีต่อการขยายกิจการของนักธุรกิจ E-Commerce ที่ต้องการฉายเดี่ยว เพราะจากเดิมที่ต้องมีผู้ร่วมลงทุนอย่างน้อย 3 คนจึงจะสามารถเปิดบริษัทจำกัดได้ พอมีรูปแบบบริษัทจำกัดคนเดียวเข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง การดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อขยายกิจการของผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของคนเดียวก็จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่เจ้าของธุรกิจ E-Commerce จำเป็นต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการขยายกิจการ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงเริ่มกิจการที่ยังมีลูกค้าไม่มากนัก คุณอาจตอบคำถามลูกค้าทางไลน์และเฟซบุ๊ก รวมถึงเตรียมการจัดส่งสินค้าด้วยตนเองได้ แต่เมื่อมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของกิจการควรปรับบทบาทมาเป็นผู้บริหารจัดการระบบและควบคุมการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผน โดยว่าจ้างพนักงานมาช่วยแบ่งเบาภาระ เพื่อคุณจะได้มีกำลังแรงและเวลาไปมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโต แบบนี้ย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจมากกว่า
ส่วนเรื่องสำคัญอย่างช่องทางการชำระเงินนั้น ถ้ายิ่งสะดวกสบายและเอื้อประโยชน์ต่อลูกค้ามากเท่าใด โอกาสปิดการขายของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันคนไทยโดยเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ ต่างก็คุ้นเคยกับการทำธุรกรรมออนไลน์กันเป็นอย่างดี ดังนั้น ผู้ขายจึงสามารถเพิ่มรูปแบบในการชำระเงินใหม่ ๆ นอกเหนือจากการแจ้งเลขบัญชีให้ลูกค้าโอนเงินเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างช่องทางการชำระเงินที่น่าสนใจ เช่น

สำหรับธุรกิจออนไลน์

 
บริการที่ทำให้การชำระค่าสินค้าในธุรกิจออนไลน์เป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะหากเจ้าของธุรกิจมีบัญชี Business PromptPay ที่ผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์มือถือของทางร้าน ลูกค้าก็จะสามารถโทร.สั่งสินค้าและชำระเงินด้วยหมายเลขเดียวกันได้ทันที โดยไม่ต้องจำเลขบัญชียาว ๆ ให้ยุ่งยากและไม่เสียค่าธรรมเนียม หากยอดโอนไม่ถึง 5,000 บาท นอกจากนี้ แต่เดิมที่เจ้าของธุรกิจออนไลน์หลายท่านต้องเปิดบัญชีไว้หลายธนาคารเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า เมื่อหันมาใช้พร้อมเพย์คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีหลายธนาคารอีกต่อไปทำให้สะดวกสบายในการคำนวณรายรับแต่ละเดือนมากขึ้น เพราะเงินที่ลูกค้าโอนเข้ามาจะรวมกันอยู่ในบัญชีเดียวไม่กระจัดกระจาย

สำหรับธุรกิจ E-Commerce

 
เจ้าของธุรกิจ E-Commerce ส่วนใหญ่ มักดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นประจำอยู่แล้ว แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถซื้อง่ายขายคล่องมากขึ้น ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสารให้เป็นเครื่องรูดบัตร ด้วย Krungsri QuickPay ที่จะทำให้การชำระค่าสินค้าและบริการสะดวกสบายกว่าเดิม รูดปุ๊บให้ลูกค้าเซ็นชื่อบนหน้าจอได้ทันที จากนั้น ใบเสร็จก็จะถูกส่งเข้าอีเมลหรือโทรศัพท์มือถือ ทั้งยังใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ร้านค้าออนไลน์ที่ไปออกบูธตามงานแฟร์บ่อย ๆ ควรมีไว้เป็นอย่างยิ่ง

สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้าน

 
สำหรับเจ้าของธุรกิจ E-Commerce ที่มีหน้าร้านเป็นของตนเอง สามารถเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินให้กับลูกค้าได้ด้วย Krungsri EDC (Electronic Data Capture) บริการรับชำระค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิตและเดบิตของ VISA, MasterCard และ JCB หรือที่คนทั่วไปมักเรียกกันติดปากว่าการรูดบัตรจ่ายเงินนั่นเอง
หากร้านค้าใดสนใจใช้บริการ Krungsri QuickPay หรือ Krungsri EDC แต่กังวลว่า จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรก็ตัดปัญหานี้ไปได้เลย เพราะเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ได้มีพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 640) ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ เเก่บุคคลธรรมดาเเละบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ใช้อุปกรณ์สำหรับการรับส่งข้อมูลการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จากบัตรเครดิต บัตรเดบิต เงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด เพื่อสินค้าเเละบริการ ซึ่งจะมีผลผลถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ร้านค้าจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2561 นั่นเอง ทั้งสะดวกและยังได้กำไรครบถ้วนเหมือนเดิม นี่แหละนวัตกรรมทางการเงินที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเป๊ะปังในการทำธุรกิจอย่างเรา!
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา