เมื่อเศรษฐกิจของประเทศไทยค่อยๆ ฟื้นตัว การมองหาช่องทางขยายธุรกิจ มองหาตลาดใหม่ๆ เพื่อลงทุนจึงเริ่มขึ้น ซึ่งกัมพูชาและเวียดนามนั้นเป็นตลาดที่นักธุรกิจไทยให้ความสนใจ ทั้งนี้การจะไปลงทุนนั้นยังมีรายละเอียดอีกมากมายให้นักธุรกิจต้องเตรียมพร้อม จึงเป็นที่มาของงานสัมมนา "Krungsri Business Talk : กัมพูชา VS เวียดนาม ตลาดไหน ใช่เลย!" ที่น่าสนใจนี้
งานสัมมนาที่แตกต่าง น่าสนใจตั้งแต่เริ่มจนจบ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจัดงานสัมมนา
"Krungsri Business Talk : กัมพูชา VS เวียดนาม ตลาดไหน ใช่เลย!" ขึ้นมาได้แตกต่างจากงานสัมมนาอื่นๆ ที่น่าสนใจคือการให้ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจในสองประเทศนี้ร่วมดีเบตกันในหัวข้อต่างๆ เพื่อให้เราเห็นทั้งโอกาสและข้อควรระวังมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้น พร้อมให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีส่วนร่วมด้วยการแสดงความคิดเห็นผ่านการกดโหวต สร้างบรรยากาศงานสัมมนาให้แตกต่าง สนุกสนาน และน่าสนใจตั้งแต่เริ่มจนจบงาน
ก่อนเริ่มการดีเบตจากผู้มีประสบการณ์การลงทุนในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม
ดร. สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มาบรรยายให้ฟังในหัวข้อ “เศรษฐกิจและนโยบายสนับสนุนการค้าการลงทุน” ซึ่งทั้งสองประเทศนั้นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีมาก โดย GDP อยู่ที่ 6.0 -6.5% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียน โดยกัมพูชามีการบริโภคภายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมีเป้าหมายปรับโครงสร้างเข้าสู่อุตสาหกรรมกรรมสมัยใหม่ สร้างแรงงานที่มีทักษะ เพื่อมุ่งสู่ประเทศรายได้ปานกลาง-สูง ให้ได้ภายในปี 2573 และเข้าสู่ประเทศรายได้สูงภายในปี 2593 ในขณะที่เวียดนามขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการส่งออกเป็นหลัก ซึ่งคิดเป็น 94% ของ GDP มีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้นด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง
ดูคลิปย้อนหลังได้ที่ [LINK]
ด้าน
ผศ.ดร. ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาแชร์ความรู้
“มองบ้านเมือง ให้เป็นเรื่องธุรกิจ” ว่าการไปลงทุนต่างประเทศต้องเรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ให้ได้ โดยเราสามารถเรียนรู้ได้จากห้องน้ำ
แค่เปลี่ยนวิธีคิดให้ออกจากกรอบเดิม เช่น โถส้วมแบบนั่งยองๆ ที่เริ่มหมดความนิยมในบ้านเราแล้ว แต่ในประเทศอื่นๆ ที่เพิ่งเริ่มนิยมสร้างห้องน้ำที่มีโถส้วมแบบนี้ย่อมมีความต้องการมากกว่า เพราะฉะนั้นเมื่อขายในไทยไม่ได้ เพียงแค่เบนเข็มไปขายในประเทศที่ยังมีดีมานด์ตรงนี้อยู่ โอกาสทางธุรกิจย่อมไม่หายไปไหน
ดูคลิปย้อนหลังได้ที่ [LINK]
เมื่อการดีเบตเริ่มต้นขึ้น ความสนุกก็ตามมา...
การดีเบตกันอย่างเต็มรูปแบบเริ่มต้นขึ้นในหัวข้อ “พฤติกรรมผู้บริโภคและโอกาสทางการค้า” โดยมี
คุณอรนุช ผการัตน์ กรรมการผู้จัดการ INTRA Mekong Co.,Ltd. ประเทศกัมพูชา และ
คุณอดิศัย ประเสริฐศรี กรรมการผู้จัดการ Chance and Challenge Co.,Ltd.ประเทศเวียดนาม เป็นวิทยากรให้ความรู้ ซึ่งเรารวบรวมการดีเบตมาไว้ข้างล่างนี้แล้ว
คุณฐปนันท์ กระแสร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ KPMG Phoomchai Audit Co.,Ltd แนะนำเรื่องกฎระเบียบของประเทศเวียดนามเพิ่มเติมว่า การจะประสบความสำเร็จคือการส่งคนเข้าไปประจำ ทำงานร่วมกับ Distributor เพื่อประสานงานได้อย่างลื่นไหลลดความเสี่ยงได้มากกว่าให้คนในพื้นที่ทำทั้งหมด
ดูคลิปย้อนหลังได้ที่ [LINK]
ความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้นในหัวข้อการดีเบตที่สอง “โอกาสในการลงทุน” โดย
คุณเอนก บุญมาก กรรมการผู้จัดการ CTEC Co.,Ltd ประเทศกัมพูชา และ
คุณวุฒิพงษ์ ผานิตเศษฐกร กรรมการผู้จัดการ Quality Plus Aesthetic International Co.,Ltd ประเทศเวียดนาม นักธุรกิจผู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่กัมพูชาและเวียดนาม เช่นเคยเรารวบรวมสรุปมาให้แล้วดังนี้
โอกาสที่หาได้จาก KRUNGSRI BUSINESS TALK
หลังจากจบการดีเบตจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ได้เปิดโหวตให้ผู้ร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็นต่างๆ และถือเป็นการสำรวจผู้เข้าร่วมสัมมนาไปในตัวด้วยว่าสนใจทำธุรกิจที่ประเทศใด สถานการณ์ธุรกิจในปัจจุบันเป็นอย่างไร เพื่อท้ายที่สุดแล้วจะได้แนะนำอย่างตรงจุด ให้ธุรกิจก้าวไปได้อย่างมั่นคง
และไม่ว่าคุณจะสนใจค้าขายหรือไปทำธุรกิจที่ประเทศใด งานสัมมนาในครั้งนี้ก็จะช่วยให้คุณมองเห็นลู่ทางการเข้าไปทำธุรกิจ มองเห็นโอกาสจากพฤติกรรมผู้บริโภค และเข้าใจกฎหมายการค้า รวมถึงการบริการทางการเงินที่จะช่วยให้ธุรกิจของทุกคนราบลื่น
ดูคลิปย้อนหลังได้ที่ [LINK]
นับว่าเป็นอีกปีที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้จัดสัมมนาดีๆ ขึ้น นับว่าเป็นสัมมนาที่ประสบความสำเร็จเพราะมีผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นจำนวนมากและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หากใครสนใจสามารถเข้าดูคลิปงาน
"Krungsri Business Talk: กัมพูชา VS เวียดนาม ตลาดไหน ใช่เลย!" ย้อนหลังได้ที่
[LINK]