เรียนรู้จากการถอดบทเรียนธุรกิจล้มละลาย ลุกอย่างไรให้ปังกว่าเดิม

เรียนรู้จากการถอดบทเรียนธุรกิจล้มละลาย ลุกอย่างไรให้ปังกว่าเดิม

By Krungsri Plearn Plearn

ในยุคที่ธุรกิจต้องมีการปรับตัวแบบก้าวกระโดด บางธุรกิจที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีตก็อาจจะหายไปจากช่วงชีวิต แต่กลับกันเรายังจะพบธุรกิจอีกหลายธุรกิจที่เคยล้ม แต่สู้เรียนรู้จนพิสูจน์ตัวเองให้กลับมายืนได้อีกครั้ง แล้วอะไรคือสิ่งที่นำพาธุรกิจกลับมาได้ และอะไรคือสิ่งที่ต้องระวังใส่ใจ วันนี้เราจึงอยากให้คุณติดตามการถอดบทเรียนธุรกิจนี้ เพื่อจะได้ปรับธุรกิจให้กลับมาปังมากกว่าเดิม

ปรับให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ เพื่อไปต่อ

ก่อนจะเริ่มต้นบทเรียนธุรกิจ เราควรไปไล่ยอดขายในช่วงที่ผ่านมาว่ายังทำได้ดี หรือแบรนด์เรายังอยู่ในใจลูกค้าหรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ เราจะต้องเริ่มกลับไปทบทวนแก้ปัญหาให้ถูกจุดด้วยการฟังเสียงผู้บริโภค เช่น การเข้าไปค้นหาข้อมูลธุรกิจเราใน Google, Pantip.com หรือ Social Media ต่าง ๆ ว่ามีการพูดถึงเราในแง่ไหนบ้าง เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากธุรกิจเรา เมื่อรู้แบบนี้แล้วสิ่งต่อไปที่ควรจะทำคือการเปลี่ยนความคิดเดิม ๆ ให้ออกนอกกรอบ พร้อมเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อไปปรับปรุงธุรกิจให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า รวมถึงคอยศึกษาดูเทรนด์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ อย่างในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้คนต่าง ๆ เริ่มมีพฤติกรรมที่ชอบอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้หลาย ๆ ผู้ประกอบการเริ่มถอดบทเรียนธุรกิจจากการปรับตัวเข้าหาผู้คนที่อยู่บ้านจนมีบริการเดลิเวอรี่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสปาที่สามารถเรียกใช้บริการนวดผ่อนคลายกันได้ถึงที่บ้าน หรือแม้กระทั่งธุรกิจคาร์แคร์ที่เดี๋ยวนี้ก็มีให้เรียกใช้บริการได้ถึงที่บ้านแล้ว

“ภาษี” เรื่องปวดหัวที่ต้องเจอ แต่หลายธุรกิจกลับทำพลาด

หลาย ๆ ครั้งที่มีการศึกษาเคสตัวอย่างจากบทเรียนธุรกิจที่เคยพลาด จะเห็นว่ามีสาเหตุมาจากการเสียภาษีนิติบุคคลมากเกินความจำเป็น เพราะคำนวณภาษีอย่างไม่ถูกต้องจนทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายภาษี ดังนั้น การจะทำธุรกิจให้ประสบความเร็จต้องไม่มองข้ามเรื่องภาษี และมีการวางแผนภาษีธุรกิจที่เหมาะสม ควรศึกษาความรู้เรื่องภาษีอย่างละเอียด รวมถึงการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย อย่างรอบคอบ เพื่อที่นำกำไรมาคำนวณภาษี และสิ่งที่สำคัญกับการได้เรียนรู้บทเรียนธุรกิจในเรื่องภาษี คือ อย่าปกปิดหรือเจตนาหลบเลี่ยงภาษีเป็นอันขาด เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย จนนำไปสู่การล้มละลายในที่สุด

เลือกแบ่งผลประโยน์หุ้นส่วนไม่ดี มีสิทธิ์พาบริษัทพัง

‘หุ้นส่วน’ หนึ่งในหัวข้อเด่นของบทเรียนธุรกิจที่ต้องนั่งศึกษาอย่างจริงจัง เพราะ หลาย ๆ ครั้งก็อาจจะผิดพลาดได้ โดยเฉพาะการแบ่งรายได้ ซึ่งหลาย ๆ ธุรกิจอาจจะใช้วิธีการที่ผิดด้วยการหารกำไรแจกจ่ายให้หุ้นส่วนในจำนวนที่เท่า ๆ กัน เช่น มีผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจ 4 คนเมื่อได้กำไรมาแล้วก็หารให้เท่า ๆ กัน ซึ่งจริง ๆ แล้วในแง่ของการแบ่งรายได้ควรจะให้ผู้ที่ลงทุนมากได้มาก ลงทุนน้อยได้น้อย

ส่วนการแบ่งหุ้นอีกวิธีนั้น เริ่มจากเราการที่เราหา Keyman ในทีมก่อน ซึ่งจะต้องเป็นคนสำคัญที่ในธุรกิจขาดไม่ได้อย่างเช่น CEO เพื่อเป็นผู้รวบรวมหุ้นให้มากกว่า 50% ขึ้นไป ส่วนหุ้นส่วนที่เหลือให้ถือหุ้นในสัดส่วนรองลงมา ตามหน้าที่ และตำแหน่งที่ทำงาน การแบ่งหุ้นแบบนี้เพื่อป้องกันปัญหาการตกลงกันไม่ได้ในอนาคตแล้วต่างฝ่ายต่างมีเสียงโหวตเท่า ๆ กันก็จะทำให้ไม่มีคนตัดสินใจ และนำไปสู่การยุบธุรกิจในที่สุด
ล้มแล้วสู้ ถอดบทเรียนธุรกิจล้มละลาย ที่กลับมาปังกว่าเดิม

ให้ความจริงใจ และยึดหลักรักษาคุณภาพ

หลาย ๆ ครั้งที่การถอดบทเรียนธุรกิจจะพบว่าเกิดวิกฤต หรือการเปลี่ยนแปลงของโลกกลายเป็นตัวแปรที่ทำให้กิจการของคุณต้องมีอันยุบหรือปิดตัวไป ดังนั้นการที่จะอยู่ให้รอดในช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำธุรกิจนั้นจะต้องมาจากการสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแรงด้วยการให้ความเชื่อมั่น และรักษาคุณภาพไว้อย่างมั่นคงก็จะเป็นการสร้างจุดยืนที่ธุรกิจไหน ๆ ก็ไม่สามารถมาล้มได้

ยกตัวอย่างบทเรียนธุรกิจของร้านกาแฟนางเงือกชื่อดังที่เคยประสบปัญหาการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 ที่ต้องยุบสาขา และจ่ายค่าดูแลพนักงานเป็นเงินจำนวนมาก สุดท้ายทาง CEO ของร้านก็แก้เกมกลับมาด้วยการดึงภาพลักษณ์เก่าที่มีมนต์ขลัง โดยกลับมาสนใจเรื่องของรสชาติ การรักษาคุณภาพ การให้บริการ และบรรยากาศในร้านให้ดีมากขึ้น จากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ทำให้ร้านกลับมายิ่งใหญ่ จนมีลูกค้าติดใจ และเป็นลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก
ล้มแล้วสู้ ถอดบทเรียนธุรกิจล้มละลาย ที่กลับมาปังกว่าเดิม

จับไอเดียใหม่ ๆ เปลี่ยนเป็นโอกาสอีกครั้ง

เมื่อเกิดปัญหาล้มละลายแล้วหลาย ๆ คนอาจจะจมอยู่กับความทุกข์ ความเศร้า จนลืมไปว่าเราสามารถพลิกกลับมาปังได้อีกครั้งด้วยไอเดียที่อยู่รอบตัวเรา ที่สามารถหยิบจับ มาดัดแปลงให้เกิดสิ่งใหม่ได้ หรือจะเป็นไอเดียธุรกิจที่เอาไว้แก้ปัญหาก็สามารถกลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง

ตัวอย่างบทเรียนธุรกิจสายสร้างสรรค์จาก Suzy Batiz นักธุรกิจหญิงที่ล้มละลายถึงสองครั้งแต่ก็พลิกกลับมาเป็นเศรษฐีได้ ด้วยการค้นพบกลิ่นไม่พึงประสงค์จากห้องน้ำภายในบ้านของเธอเองจนทำให้เธอปิ๊งไอเดียว่าเราควรจะมีน้ำหอมสำหรับห้องน้ำขึ้นจนเป็นที่มาของแบรนด์น้ำหอมที่มีชื่อว่า Poo-Pourri ที่เป็นน้ำหอมดับกลิ่นที่ฉีดลงในถังชักโครกก่อนขับถ่าย ซึ่งจะทำให้ช่วยดับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์และยังเป็นมิตรต่อผู้ใช้คนถัดไป ซึ่งไอเดียนี้ทำให้ Poo-Pourri สร้างยอดขายในปีแรกได้สูงถึง 1,000,000 เหรียญสหรัฐ จนทำให้เธอติด 1 ใน 10 อันดับผู้ประกอบการหญิง ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของสหรัฐฯ ในปี 2019
สำหรับใครที่ตอนนี้กำลังประสบปัญหาทางด้านธุรกิจอยู่มาอ่านบทความนี้แล้วก็ได้ตัวอย่าง หรือข้อมูลดี ๆ จากการถอดบทเรียนธุรกิจที่เคยล้มเหลวและหาวิธีการทำธุรกิจให้กลับมาปังมากกว่าเดิมได้ และถ้าใครชอบก็อย่าลืมส่งต่อบทความนี้ให้กับเพื่อน ๆ หรือคนที่กำลังประสบปัญหาทางด้านธุรกิจอ่านกันนะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Follow us on
ลงทะเบียนรับข่าวสาร
บริการส่งข้อมูลความรู้ ให้ลูกค้าธุรกิจผ่านอีเมล์
บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทาง E-mail
  • บทวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี
  • ผลการสำรวจดัชนีภาวะธุรกิจ SME รายไตรมาส โดยกรุงศรี
  • ข่าวสาร และกิจกรรมของธนาคาร
  • บริการทางการเงิน และโปรโมชั่นใหม่ๆ ของธนาคาร
Powered by
© 2567 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
Follow