การซื้อหนังสือมาดอง หรือกองไว ไม่ใช่พฤติกรรมที่แปลกอะไรมากนัก ในหมู่นักอ่านตัวยงก็พบพฤติกรรมแบบนี้กันอยู่บ่อย ๆ และมีชื่อเรียกว่าพฤติกรรมนี้ว่า "ซึนโดคุ (Tsundoku)"
สาเหตุของสิ่งนี้อาจเกิดจากความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ผ่านมาทั้งวัน การเดินทางที่ทำให้หมดแรง พอกลับถึงบ้านขอแค่ได้เอนกายพักบนโซฟานุ่ม ๆ ก็หมดเวลาแล้ว การอ่านหนังสือที่ตั้งใจไว้เลยต้องเลื่อนออกไปก่อน พฤติกรรมแบบนี้มีทางปรับจูนอยู่นะ ถ้าเราค่อย ๆ เรียงลำดับ หรือแบ่งเวลาที่เหมาะเจาะ
ไม่ใช่เราคนเดียวที่เป็น “นักดองหนังสือ” ถ้ารู้จักพฤติกรรมที่ชื่อว่า “ซึนโดคุ (Tsundoku)”
ที่ญี่ปุ่นจะมีชื่อเรียกนักอ่านตัวยงที่ชอบซื้อหนังสือมาแต่ยังไม่อ่านว่า ซึนโดคุ (Tsundoku) เป็นอาการของคนที่ชอบเก็บสะสมหนังสือมีความตั้งใจที่จะซื้ออ่าน แต่สุดท้ายไม่ได้อ่าน หรืออ่านไม่จบ แต่ก็วนกลับไปซื้อใหม่อยู่เรื่อย คลั่งที่ได้ซื้อ ชอบที่ได้เก็บ มีไว้ก่อนเพราะกลัวหลายอย่าง เช่น หนังสือจะไม่ตีพิมพ์แล้ว คำโปรยน่าสนใจขอซื้อไว้เผื่ออ่านต่อ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า คุณไม่ใช่คนแปลกอะไรเลยที่ขยันซื้อแต่กลับยังไม่ได้อ่านมันแบบจริง ๆ จัง ๆ
ทริคเคลียร์หนังสือที่ดองไว้ ให้อ่านจบไว
เมื่ออยากให้ชีวิตง่ายได้ทุกวัน ทริคเคลียร์หนังสือที่ดองไว้ที่จะแนะนำต่อไปนี้จึงไม่ยุ่งยากที่จะเริ่มต้นเลย
"เลือกเล่ม - วางใกล้ ๆ - ปิด Noti - สลับไปมา - ทำประจำ"
1. เลือกหนังสือเล่มโปรดหรือที่อยากอ่านสุด ๆ
อย่าให้ความกดดันของสังคมรอบข้างมาเป็นตัวกำหนดหนังสือที่จะอ่าน มันจะทำให้เราไปไม่รอด เช่น เล่มนี้ฮิตสุด เล่มนี้ได้รางวัลซีไรต์ เล่มนี้โอป้าซารางเฮแนะนำให้อ่าน ฯลฯ ถ้ายังมีความคิดแบบนี้อยู่ก็วางหนังสือลงก่อนเพราะมันจะทำให้เราทนไปไม่ถึงหน้าสุดท้ายของเล่มแน่ ๆ
ยิ่งกดดันตัวเองให้ทนอ่านก็จะกลายเป็นความฝืน พอฝืนจนสุดทัดทานก็จะพลานเป็นเบื่อแทนแล้วสุดท้ายก็ต้องโบกมือลาไม่อ่านต่อในที่สุด
2. วางหนังสือ (เล่มที่เลือกแล้ว) ไว้ใกล้ ๆ ที่ที่เราผ่อนคลาย
ลองสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างดูนะ เมื่อเรารู้สึกสบายก็จะอยากทำอะไรที่ผ่อนคลายขึ้นไปอีก อย่างตอนเห็นกองหนังสืออยู่ใกล้ ๆ ก็จะหยิบมาเปิดดู แม้จะไม่ได้ตั้งในอ่านเล่มนั้นก็ตามเถอะ แต่ก็หลวมตัวอ่านไปแล้วเกือบทั้งหน้า ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก ถ้ามีหนังสือเล่นโปรดนี้อยู่ใกล้ ๆ ก็จะไม่เปิดใจอ่านต่อได้เรื่อย ๆ
3. ปิด Notification จากมือถือซะก่อน
จงใจแข็งแล้วท่่องไว้ "ถ้ามีเรื่องด่วนอะไร ต้องมีคนโทรมา" เพื่อทำให้มีสมาธิ อ่านหนังสือ ดังนั้นถ้าแค่ Notification เด้งมาก็แปลว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบอ่าน เรื่องเม้าท์มอยในโซเชียลรอได้นะรู้ยัง ยิ่งถ้าคุณเป็นพวก Social Addiction แล้วไม่ทำตามในข้อนี้ มิชชั่นการอ่านหนังสือให้จบก็จะพังลงง่าย ๆ ในพริบตา
4. อ่านเล่มโปรดหลายเล่มสลับไปมา
โจทย์ที่หลายคนอยากรู้ว่า “ทำไงให้มีอารมณ์ อ่านหนังสือ” คำแนะนำที่จะได้จากตรงนี้เลยก็ คือ ให้เลือกหนังสือเล่มโปรดมาหลาย ๆ เรื่อง แล้วสลับอ่านดู
การอ่านหนังสือแบบหลายเล่มไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แถมยังได้ความแปลกใหม่ไม่จำเจ อะไรที่เราทำแล้วรู้สึกสนุกก็จะอยากทำต่อ การอ่านหนังสือก็เช่นกัน เมื่อเรารู้สึกสนุกที่ได้อ่านแล้ว อาการติดก็จะตามมา
5. อ่านหนังสือให้ทำประจำซ้ำๆ
คุณเคยได้ยิน ทฤษฎี 21 วัน ไหม?
ดร. แมคเวล มอลท์ (Dr. Maxwell Maltz) ผู้ริเริ่มทฤษฎี 21 วัน (21-Day Habit Theory) บอกไว้ว่า
“พฤติกรรมอะไรที่ทำอย่างซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน พฤติกรรมนั้นจะกลายมาเป็นนิสัยใหม่ไปโดยปริยาย”
การอ่านหนังสือก็เช่นกัน ถ้าทำประจำทุกวันคุณก็จะเสพติดจินตนาการที่ได้จากการอ่านหนังสือ วันไหนที่ไม่ได้อ่านก็จะรู้สึกความสนุกของวันนั้นมีอะไรขาดหายไป
การเริ่มและทำให้ครบ 21 วันอาจดูฝืนและยาก แต่ถ้าลอง
ตั้งเป้าหมายที่ทำได้ง่าย ๆ ก็จะทำให้เราทำต่อได้จบครบ เช่น อาจตั้งเป้าหมายเพียงอ่านหนังสือแค่วันละ 1 หน้า อ่านหนังสือวันละ 10 นาที ฯลฯ พอเราผ่านจุดง่าย ๆ แบบนี้ได้ พฤติกรรมเราก็จะเปลี่ยนไป พร้อมที่จะทำต่อไปได้แบบไม่ต้องฝืน
ถ้าใครได้อ่านมาถึงตรงนี้นั่นแปลว่าคุณก็เป็นนักอ่านอยู่พอสมควร ถึงเวลาแล้วที่จะปิดโน๊ตบุ๊ค วางสมาร์ทโฟม แล้วหันไปหยิบหนังสือที่ดองไว้มาเกาะอ่านกันแล้ว
สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมนอกเหนือจากปรับพฤติกรรมตัวเอง คือ ต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการอ่าน ตั้งแต่
แต่งบ้านให้มีมุมสบายๆ เปิดเพลงเบา ๆ ที่มีแต่ดนตรีกล่อมเพื่อให้ตอนอ่านจะได้ไม่ให้ร้องตาม หรือแวะหาคาเฟ่เงียบ ๆ อ่านหนังสือ แต่ที่สำคัญไม่ควรลืมเลยก็เป็นเรื่อง
“แบ่งเวลาให้กับหนังสือพวกนี้สักนิดสักหน่อย” เพื่อเป้าหมายในการเคลียร์หนังสือที่ดองไว้ก็จะบรรลุได้ไม่ยาก