เคยรู้สึกไหมว่าพอทำงานไปนาน ๆ จะรู้สึกอยากหนีไปตะลุยที่ไหนสักแห่งบนโลกที่ไม่มีใครตามตัวเจอ แถมอยากหายไปนาน ๆ ให้คุ้มค่า จัดหนักให้เต็มที่ จะได้แพ็คกระเป๋าแล้วลายาวเลยทีเดียว
วันนี้เรามี 4 ทริป
เที่ยวต่างประเทศมาแนะนำครับ เป็นทริปที่หากได้ไปประเทศหนึ่งแล้ว ยังสามารถเดินทางหรือข้ามแดนไปประเทศใกล้เคียงต่อได้ด้วย เรียกได้ว่า ไปทั้งทีก็ต้องเที่ยวให้คุ้มสักหน่อย
1. โบราณสถานกลางทะเลทราย บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์: จอร์แดน – อิสราเอล – อิยิปต์
ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ละแวกนี้พร้อมมอบประสบการณ์แนวอินเดียน่าโจนส์ให้แก่ผู้ไปเยือนเสมอ ทั้ง 3 ประเทศมีเขตติดต่อที่สะดวกต่อการข้ามแดน คงไม่มีใครไม่รู้จัก โบราณสถานอายุกว่า 2,000 ปีที่เมืองเพตรา (Petra) แห่งจอร์แดน มหานครในอดีตที่เป็นศูนย์รวมทั้งวิหาร โรงละคร ที่สร้างขึ้นโดยวิธีการเจาะภูเขา จนถูกยกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
ตะลุยทะเลทรายวาดิรัม แล้วข้ามจากฝั่งไปอิสราเอลได้ที่ด่าน King Hussein Bridge ซึ่งด่านนี้เป็นด่านเดียวที่มีการอนุโลมให้ข้ามแดนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า จากนั้นเที่ยวเมืองเยรูซาเลม (Jerusalem) ชมสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวประวัติของพระเยซู รวมถึงเมืองท่าที่สำคัญอย่าง เทล อาวีฟ (Tel Aviv)
จากตอนใต้ของอิสราเอลยังสามารถข้ามแดนไปยังประเทศอียิปต์เพื่อเที่ยวชมมหาพีระมิดแห่งกิซา และล่องเรือชมแม่น้ำไนล์ได้ด้วยครับ
2. สวรรค์แห่งหมู่เกาะแปซิฟิค: นิวซีแลนด์ – วานูอาตู – ออสเตรเลีย
หากเดินทางมุ่งหน้าลงใต้ ปลายทางที่น่าสนใจอย่างนิวซีแลนด์ซึ่งตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟนี้ เป็นปลายทางแห่งฝันของนักเดินทางสายธรรมชาติและสายผจญภัย ทั้งเทรคกิ้ง นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปเดินเทรคธารน้ำแข็ง Franz Josef (เป็นกิจกรรมที่เรียกกันว่า Heli-Hike) ปีนผาน้ำแข็ง
ลอดถ้ำหนอนเรืองแสง แถมที่นี่ยังเป็นสถานที่โดดบันจี้จัมพ์ที่ขึ้นชื่อระดับโลกด้วยครับ
จากนิวซีแลนด์ เราสามารถนั่งเครื่องไปลงประเทศวานูอาตูที่อยู่ใกล้เคียง
วานูอาตูได้รับการยกย่องให้เป็นประเทศที่ “มีความสุขที่สุดในโลก” เป็นหมู่เกาะทางเหนือของนิวซีแลนด์และทางตะวันออกของออสเตรเลีย คนไทยเข้าประเทศนี้ได้โดย
ไม่ต้องใช้วีซ่า มีทั้งจุดดำน้ำ ภูเขาไฟ ความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของชนพื้นเมือง รวมถึงการกระโดดบันจี้จัมพ์ ที่ว่ากันว่ากิจกรรมหวาดเสียวชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่นี่
ขากลับแนะนำให้ตีตั๋วจากวานูอาตูไปลงซิดนีย์ (แทนที่จะลงนิวซีแลนด์ เพราะวานูอาตูไม่มี direct flight มาไทยครับ) อยู่เที่ยวซิดนีย์ก่อน แล้วค่อยบินกลับไทย
3. ย่ำแดนซาฟารี พิชิตยอดเขาคิลิมันจาโร: เคนย่า – แทนซาเนีย
สำหรับนักเดินทางที่หลงใหลการท่องเที่ยวแบบซาฟารี คงไม่มีทริปไหนที่ใช้เวลาได้คุ้มค่าเท่าทริปเคนย่า – แทนซาเนียอีกแล้ว การส่องสัตว์สไตล์ซาฟารีที่เขตสงวนธรรมชาติมาไซมาร่า (Maasai Mara) ในเคนย่า คือความสมบูรณ์แบบที่ทำให้หลายคนหวนนึกถึง
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Lion King ทั้งครอบครัวสิงโต ฝูงม้าลาย และกวางอิมพาล่า มีฉากหลังเป็นดวงอาทิตย์กลมโตและทุ่งหญ้าสีน้ำตาลอ่อน ก่อนเดินทางต้องตรวจสอบฤดูที่จะเดินทางให้ดีครับ เพราะควรไปช่วง high season เพื่อให้มีโอกาสได้เห็นฉากตระการตาของฤดูการอพยพย้ายถิ่นของสัตว์ป่าด้วย หากไปช่วง low season อาจได้ราคาถูก แต่จะผิดหวังที่ไม่ได้เห็นสัตว์ป่ามากเท่าที่ควร แถมอาจเจอฝนตลอดทริป
เราสามารถข้ามแดนไปยังประเทศแทนซาเนียที่ด่านพรมแดน Namanga เพื่อท่องโลกซาฟารีต่อที่อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Serengati) แล้วทดสอบร่างกายกับการเทรคขึ้นสู่ยอดเขาคิลิมานจาโรที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา เตรียมฟิตร่างกายไว้อย่างน้อยสามเดือนล่วงหน้านะครับ เพราะได้ข่าวว่าโหดหินเอาการเลยทีเดียว
4. เยือนแดนวัฒนธรรมเก่าแก่ชาวอินคา ใกล้ชิดอัลปาก้าบนเทือกเขาแอนดีส: เปรู – ชิลี – อาร์เจนตินา
ภาพ: อัลปาก้า ยืนขนพริ้วไสวอยู่บนเทือกเขาแอนดีส เปรู
ลัดฟ้าสู่ทวีปอเมริกาใต้และเริ่มต้นกันที่ประเทศเปรูเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของเส้นทางชาวอินคาอย่าง มาชูปิกชู (Machu Picchu) แล้วข้ามมายังอาร์เจนตินาเพื่อสัมผัสความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอิกัวซู จุดแบ่งเขตแดนของ 3 ประเทศ (อาร์เจนติน่า-บราซิล-ปารากวัย) นอกจากนี้ยังสามารถข้ามพรมแดนมายังประเทศชิลี ชมโมอายหลายร้อยตัวที่เกาะอิสเตอร์ หรือเที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่เมือง Santiago
การท่องเที่ยวใน 3 ประเทศนี้นักเดินทางชาวไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าครับ ซึ่งแต่ละครั้งนั้นสามารถพำนักในแต่ละประเทศได้ไม่เกิน 90 วัน ดีต่อใจจริง ๆ
จะไปเที่ยวชุดใหญ่ไฟกระพริบแบบนี้ทั้งที ต้องเตรียมวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้าเป็นปีนะครับ จะได้ไม่มีสะดุด หรือหากใครจำเป็น และอยากพาครอบครัวไปทัวร์ดูเองบ้าง ลองดู
สินเชื่อส่วนบุคคลที่ยื่นกู้ได้ง่ายผ่านมือถืออย่าง
Krungsri iFIN ดอกเบี้ยต่ำ สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องไปถึงธนาคารครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก:
jetradar.co.th,
thainz.co.nz,
thaibizaustralia.com