อิ่มบุญ อิ่มตา แถมยังอิ่มท้อง: ชวนเที่ยว 3 วัดเก่าแก่ในกรุง

อิ่มบุญ อิ่มตา แถมยังอิ่มท้อง: ชวนเที่ยว 3 วัดเก่าแก่ในกรุง

By Krungsri Plearn Plearn
หน้าร้อนนี้ หากใครยังไม่มีแผนจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ลองหันมาท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ในกรุงเทพฯ ก็ดีนะครับ เพราะเมืองกรุงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เพลิดเพลินกันอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นทริปเที่ยววัด ชมโบราณสถาน หรือออกไปหาของกินอร่อย ๆ แต่ถ้าใครอยากรวบทั้งสองทริปไว้ด้วยกัน ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยว 3 วัดเก่ากลางกรุง ซึ่งไม่เพียงจะอิ่มใจกับการทำบุญ อิ่มตากับความงามของวัดวาอาราม แต่ยังมีร้านอาหารรสเด็ดให้แวะไปอิ่มท้องกันอีกด้วย

1. วัดเทพธิดาราม เรียกขานตามความงามของขัตติยนารี

“พระปรางค์มีสี่ทิศพิสดาร โบสถ์วิหารการเปรียญล้วนเขียนทอง
ที่หน้าบันปั้นอย่างเมืองกวางตุ้ง ดูเรืองรุ่งรูปนกผกผยอง
กระเบื้องเคลือบเหลือบสลับเหลี่ยมรับรอง ศาลาสองหน้ารอบขอบกำแพง”
“รำพันพิลาป” ของท่านสุนทรภู่
วัดเทพธิดาราม เป็นวัดเก่าแก่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ริมกำแพงเมืองฝั่งตะวันออก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2379 ถวายเป็นพระราชกุศลพระราชทานแก่พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ คือพระองค์เจ้าวิลาส กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ผู้ทรงมีพระสิริโฉมงดงามและเป็นที่รักยิ่งของพระราชบิดา จึงพระราชทานชื่อให้ว่า “วัดเทพธิดาราม” ซึ่งอาจสื่อถึงพระนาม “อัปสรสุดาเทพ” นั่นเอง
จุดเด่นของวัดคือ หน้าบันของพระอุโบสถและพระวิหาร ประดับด้วยกระเบื้องลวดลายแบบจีนตามพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 มีพระปรางค์ประจำทิศทั้งสี่ของพระอุโบสถ และภายในพระวิหารมีประติมากรรมพระอริยสาวิกา (ภิกษุณี) กำลังเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
วัดเทพธิดารามเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นวัดที่สุนทรภู่เคยมาบวชเรียน นอกจากนี้ หอไตรของวัดเทพธิดารามยังได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโกเมื่อปี 2011 อีกด้วย
ภาพ: พระปรางค์วัดเทพธิดาราม ได้ชื่อว่าเป็นพระปรางค์ที่สร้างมาถูกต้องตรงตามแบบแผนมากที่สุด
ภาพ: แมววัดเทพธิดาราม นั่งข้างกระเบื้องลายจีน สถาปัตยกรรมในวัดคาดว่าได้รับอิทธิพลจากการค้าขายกับจีนในสมัยรัชกาลที่ 3

2. วัดราชนัดดาราม กับโลหะปราสาทแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในโลก

เดินเลยวัดเทพธิดารามมาทางทิศเหนือ จะพบ “วัดราชนัดดาราม” วัดเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งสร้างพระราชทานเป็นพระเกียรติแก่พระราชนัดดาของพระองค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี ตั้งอยู่ใกล้ “ป้อมมหากาฬ” หนึ่งในสองป้อมรอบพระนครที่ยังหลงเหลือให้เห็น
วัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น คือ โลหะปราสาท เป็นอาคารยอดปราสาท 37 ยอด หมายถึงพระโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ที่ยอดปราสาทชั้นบนสุดใช้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตรงกลางปราสาทมีบันไดเวียนให้ขึ้นไปชมวิวกรุงเทพฯ ได้โดยรอบ โลหะปราสาทหลังนี้ รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างแทนเจดีย์ประธานของวัด ราวปีพ.ศ.2394 แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็สิ้นรัชกาล จึงมีการซ่อมสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์เรื่อยมา จนเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2506 สมัยรัชกาลที่ 9 จึงนับว่าใช้เวลาสร้างยาวนานมากเลยทีเดียว
โลหะปราสาทของวัดราชนัดดารามนี้ ถือเป็นโลหะปราสาทเพียงแห่งเดียวในโลกที่ยังเหลือให้ชมกัน โดยเชื่อว่าหลังแรกสร้างขึ้นในอินเดียสมัยพุทธกาล หลังที่สองสร้างในศรีลังกา สมัยพระเจ้าทุฏฐคามณีแห่งกรุงอนุราธปุระ ซึ่งทั้งสองหลังได้เสื่อมสลายไปหมดแล้ว

อิ่มท้องที่ถนนดินสอ

อิ่มบุญกับการเที่ยววัดมาพอสมควรแล้วก็ถึงเวลาเติมพลังด้วยของกินอร่อย ๆ โดยจากวัดราชนัดดารามเดินมาทางทิศตะวันตกเลี้ยวขวาไปทางถนนดินสอ ที่นี่มีร้านอาหารและของกินขึ้นชื่อมากมาย ใครชอบอาหารภัตตาคาร บรรยากาศย้อนยุค อาจมาชิมสารพัดเมนูที่ “ร้านเมธาวลัย ศรแดง” หรือตรงเข้าไปอีกนิดจะพบกับร้านอาหารไทยขึ้นชื่ออย่าง “ร้านครัวอัปษร” ซึ่งทุกคนยกนิ้วให้ว่าไม่มีผิดหวัง
หรือหากใครติดใจบรรยากาศร้านอาหารแนวห้องแถวเก่า ๆ ลองแวะไป “ร้านมิตรโกหย่วน” แล้วแวะไปชิมเป็ดย่างอบน้ำผึ้ง-ข้าวหมูแดงรสเด็ด “ร้านเทียนซ้ง” ก็ได้ ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ กับขนมปังอุ่น ๆ ที่ “ร้านมนต์นมสด” อย่าลืมแวะซื้อBขนมนางเล็ดและไข่ปลาหมึกย่าง ที่วางขายอยู่แถวนั้นติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยนะครับ

3. วัดสุทัศนเทพวราราม

เดิมทีวัดแห่งนี้มีนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” สร้างในปี พ.ศ.2350 สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) เมื่อครั้งโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระศรีศากยมุนีจากเมืองสุโขทัยมาประดิษฐานไว้กลางพระนคร แต่เพราะมาสร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 3 จึงพระราชทานนามให้ใหม่ว่า “วัดสุทัศนเทพวราราม” เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 3 องค์ที่มีชื่อคล้องจองกัน ได้แก่ พระศรีศากยมุนี พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และพระพุทธเสรฏฐมุนี ถือเป็นพุทธสถานเก่าแก่สวยงามใจกลางกรุงที่ต้องมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต
เสาร์อาทิตย์นี้หากใครอยากหาที่เที่ยวแบบสงบ ๆ เดินชมสถาปัตยกรรมและซึมซับบรรยากาศความเก่าแก่ พร้อมชิมอาหารสตรีทฟู้ด ตอนบ่ายคล้อยไปจนถึงช่วงแสงสวยยามเย็น ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยววัดทั้ง 3 แห่งนี้กันนะครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก ท่องวัดผ่านเว็บ,Manager
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา