ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ประกันรถยนต์ใช้รถน้อย ตามไมล์

ประกันทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ประกันรถยนต์ชั้น 1 ตามระยะทาง ที่ให้คุณจ่ายตามไมล์

ประกันทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) คือ ประกันรถยนต์สำหรับคนใช้รถน้อย มีรถหลายคัน หรือใช้รถไม่บ่อย ให้คุณเลือกทำประกันชั้น 1 ได้อย่างคุ้มค่า อุ่นใจ สบายกระเป๋า เพราะสามารถเลือกจ่ายตามระยะทางได้ทุกคัน
ใช้รถน้อย
จ่ายน้อย
ไมล์เติมได้ ทบได้
แบบ UP TO YOU
ไม่ต้องจ่าย
ค่าเสียหายส่วนแรก
เบี้ยเริ่มต้น
เพียง 4,900 บาท
หากคุณเป็นคนที่มีรถหลายคัน หรือเป็นผู้ที่ขับรถน้อย และรู้สึกว่าการลงทุนซื้อประกันภัยรถยนต์หลายคันในราคาแพงทุกปีเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากมีประกันไว้สำหรับกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน แบบนี้จะทำอย่างไรดี ?
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาขอแนะนำ ประกันรถยนต์ตามไมล์ ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ประกันรถใช้น้อย หรือสำหรับผู้ที่มีรถหลายคัน รับประกันภัยโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้รถของคนรุ่นใหม่ที่ใช้รถน้อยลง หรือมีรถหลายคันแล้วเลือกสลับกันใช้ สามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ตามระยะทางได้ ใช้แค่ไหน จ่ายแค่นั้น เป็นทางเลือกของผู้ที่มองหาประกันภัยรถยนต์หลายคัน เพราะให้คุณเลือกจ่ายน้อยได้ทุกคัน คิดเบี้ยประกันตามระยะทาง โดยประกันชั้น 1 เริ่มต้นเพียง 4,900 บาทต่อปี

สรุปจุดแข็งประกันรถยนต์ขับน้อย ถูกใจคนไม่ค่อยใช้รถ หรือมีรถหลายคัน

ประกันรถตามไมล์ ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ให้คุณเลือกจ่ายเบี้ยประกันและความคุ้มครองได้ตามการใช้งานรถยนต์ หากซื้อแล้วไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ก็สามารถซื้อระยะไมล์เพิ่มได้ตามใจก่อนที่ระยะไมล์จริงจะหมด โดยเริ่มต้นที่ 1,350 บาทต่อระยะไมล์ 1,000 กิโลเมตร หรือซื้อแล้วใช้ระยะไมล์ไม่หมดภายในวันคุ้มครอง ก็สามารถนำระยะไมล์ที่เหลือไปทบในปีต่ออายุได้
ที่สำคัญ ประกันรถยนต์แบบเติมไมล์หรือประกันรถยนต์ตามระยะทาง ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ยังเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ทำให้คุณไม่ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ทำให้คุณสามารถใช้รถยนต์ได้อย่างมั่นใจ หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการเกิดอุบัติเหตุได้เลย
ไม่อยากจ่ายเบี้ยประกันภัยรถยนต์หลายคันในราคาแพง ๆ เลือกประกันตามระยะทาง ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา คุ้มครองแบบประกันชั้น 1 ในราคาคุ้มค่าตามการใช้งานรถของคุณ เช็กเบี้ยและซื้อประกันออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ krungsri app ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android ต้องการสอบถามข้อมูลประกันภัย การเคลมเบื้องต้น และแจ้งเติมไมล์แบบออฟไลน์ได้ที่ Customer Care โทร. 1736
 

รับประกันโดย บริษัท
ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

ประกันทิพยเซิร์ฟสเก็ต (Tip Surf Skate)
ประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบตามระยะทาง สำหรับคนใช้รถน้อย และคนที่มีรถหลายคันจากบริษัทประกันชั้นนำของประเทศไทย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลประกันภัยและการเคลมเบื้องต้นที่ Customer Care 1736
ประกันทิพยเซิร์ฟสเก็ต (Tip Surf Skate)
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
  1. เบี้ยประกันรถแบบคุ้มค่า เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถน้อย
  2. ใช้รถมากขึ้น ซื้อไมล์เติมได้
  3. ใช้ไมล์ไม่หมด ต่ออายุแล้วทบไปปีหน้าได้
  4. ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก
 
ตารางผลประโยชน์และความคุ้มครอง
PDF
กรณีสิ้นสุดความคุ้มครอง:
กรณีที่ 1 ความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงเมื่อ ระยะไมล์หมดก่อนวันคุ้มครอง และไม่ได้ซื้อระยะไมล์เพิ่มระหว่างปี
**หากต้องการซื้อเพิ่มระยะไมล์ระหว่างปี ควรแจ้งซื้อระยะไมล์เพิ่มล่วงหน้าก่อนที่ระยะไมล์จริงจะหมด
กรณีที่ 2 ความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงเมื่อ วันคุ้มครองสิ้นสุดลง
**หากในกรณีใช้ระยะไมล์ไม่หมด จะทบระยะไมล์ได้ก็ต่อเมื่อทำการต่ออายุโดยต้องซื้อแผนหลักก่อน เช่น ระยะไมล์เหลือ 1,000 กม. แจ้งต่ออายุโดยซื้อแผนหลัก 5,000 กม. จะได้ทบระยะไมล์ที่ใช้ได้จริง คือ 5,000 + 1,000 = 6,000 กม. ในปีต่ออายุนั้น
* ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับกลุ่มรถและทุนประกันรถ
  1. รถที่รับประกันภัยต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี และซ่อมอู่เท่านั้น
  2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสภาพรถและถ่ายรูปเลขไมล์
  3. เมื่อบริษัทฯ ได้รับชำระเบี้ยประกันภัย แต่ยังไม่ได้มีการตรวจสภาพรถยนต์ จะมีผลคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยเฉพาะกรณีรถยนต์คันที่เอาประกันภัยชนกับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ เท่านั้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ตรวจสภาพรถยนต์คันที่เอาประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรมธรรม์จึงจะให้ความคุ้มครองการชนทุกชนิด
  4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะคืนเบี้ยประกันภัยตามเงื่อนไขกรมธรรม์ กรณีบริษัทฯ ตรวจสภาพรถยนต์คันที่เอาประกันภัยแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่ว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหรือไม่
  5. เบี้ยประกันภัยดังกล่าวรวมภาษีอากร (ไม่รวมพ.ร.บ.)
  6. เบี้ยประกันภัยดังกล่าวคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งที่ติดตั้งมากับรถยนต์ตามมาตรฐานโดยโรงงานประกอบ หรือศูนย์จำหน่าย
  7. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราเบี้ยประกันภัยตามความเหมาะสม
  8. กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ TIP อัพทูไมล์ ไม่สามารถแจ้งยกเลิกในทุกกรณี
  1. สำเนาทะเบียนรถ
  2. เลขไมล์ล่าสุด
  • สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม หรือติดต่อการเคลมเบื้องต้น ได้ที่โทร 1736
  • ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ใช่ผลิตภัณฑ์/บริการของธนาคาร ธนาคารในฐานะเป็นข่องทางในการประชาสัมพันธ์เท่านั้น ไม่มีส่วนในหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด
  • ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น มิใช่ส่วนหนึ่งส่วนใดของสัญญาประกันภัย ความคุ้มครองที่ผู้ขอเอาประกันภัยซื้อ พร้อมข้อกำหนด เงื่อนไข และผลประโยชน์จะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น
  • บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้รับผิดชอบในเงื่อนไขความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยหากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆ กรุณาติดต่อโดยตรงที่ บมจ.ทิพยประกันภัย โทร 1736
  • ลูกค้าควรทำความเข้าใจในเงื่อนไขของความคุ้มครองของแบบประกันภัยก่อนตัดสินใจสมัครทำประกันภัย
  • รับประกันโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

คำถามที่พบบ่อย

กรมธรรม์ประกันรถยนต์ตามไมล์ ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) จะสิ้นสุดลงเมื่อเกิด 2 กรณีดังนี้
  • กรณีที่ 1 ความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงเมื่อ ระยะไมล์หมดก่อนวันคุ้มครอง และไม่ได้ซื้อระยะไมล์เพิ่มระหว่างปี
  • กรณีที่ 2 ความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงเมื่อ วันคุ้มครองสิ้นสุดลง
ประกันรถยนต์ ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) รับประกันภัยรถที่อายุไม่เกิน 10 ปี และซ่อมอู่เท่านั้น
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ไม่สามารถแจ้งยกเลิกในทุกกรณี
ความคุ้มครองของประกันทิพยอัพทูไมล์ (Tip Up to Mile) ไม่สามารถระบุผู้ขับขี่ได้
หากต้องการเติมไมล์ หรือซื้อไมล์เพิ่ม สามารถแจ้งเติมไมล์แบบออฟไลน์ ได้ที่โทร 1736
ช่องทางการติดต่อ

สมัครประกันผ่าน

เว็บไซต์

ช่องทางการเคลม
ติดต่อบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือเคลมประกัน โทร 1736 ตลอด 24 ชั่วโมง

บทความที่เกี่ยวข้อง

รอบรู้เรื่องรถ

ก่อนเคลมประกันรถยนต์ เช็กสิทธิ์สำคัญของเราก่อน

เพื่อนร่วมทางที่ดีที่สุดของรถยนต์คงหนีไม่พ้น &ldquo;<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/non-life-insurance/tip-up-to-mile" target="_blank">ประกันภัย</a>&rdquo; เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเมื่อไหร่ ประกันรถยนต์ก็จะช่วยทำให้เราอุ่นใจมากยิ่งขึ้นแน่นอน อีกทั้งหากถึงช่วงเวลาที่เราต้องเอารถเข้าซ่อม หรือต้องเอา &ldquo;เคลมประกัน&rdquo; แล้วละก็ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวอยู่ตลอดคงได้รับผลกระทบไม่น้อย<br /> &nbsp; <center><img alt="ประกันภัยรถยนต์คืออะไรแบ่งได้กี่ประเภท" class="img-fluid" src="/getmedia/b12de2e6-bf66-4cba-b986-831f8bf4e002/check-before-claim-car-insurance-detail-01.jpeg.aspx" /></center> <br /> คงจะดีกว่าหากเราทำความเข้าใจเรื่องประกันภัยให้มากยิ่งขึ้น และอีกเรื่องสำคัญไม่ควรพลาดคือเราควรรู้สิทธิประโยชน์ที่เราควรได้รับในขณะที่รถเรากำลังส่งซ่อม<br /> <br /> ฉะนั้นแล้วบทความนี้ขออาสาพาเหล่าผู้ใช้รถใช้ถนนไปเรียนรู้เรื่องราวเหล่านั้นพร้อม ๆ กัน โดยเรามาเริ่มทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์ก่อน <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ประกันภัยรถยนต์คืออะไร? แบ่งได้กี่ประเภท</span></h2> </div> ประกันรถยนต์จัดอยู่ในประกันวินาศภัยแบบหนึ่ง ที่คุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดจากการใช้รถ ได้แก่ ความเสียหาย สูญหายของตัวรถยนต์ รวมถึงความสูญเสียหรือเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน ร่างกาย และชีวิต ของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์คันนั้น โดยประกันรถยนต์ก็มี 2 ประเภทด้วยกัน<br /> <br /> <strong>1. การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ </strong>หรือที่เรียกว่า &ldquo;การประกันภัย พ.ร.บ.&rdquo; คือ การประกันภัยรถยนต์ที่กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถทุกคันมีหน้าที่ต้องจัดให้มีการประกันภัย ตามความคุ้มครองที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดไว้ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หากไม่ได้มีการทำ พ.ร.บ. ถือว่าผิดกฎหมาย<br /> <br /> ทั้งนี้ประกันภัยภาคบังคับสำหรับการเสียชีวิตและการบาดเจ็บ มีวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อคนอย่างจำกัด ดังนั้นเจ้าของรถควรพิจารณาซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติมเพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม<br /> <br /> รายละเอียดความคุ้มครองของการประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. <ul style="margin-left:20px"> <li>ให้การคุ้มครองและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และให้การรักษาพยาบาลทันทีในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต</li> <li>เป็นการรับประกันให้โรงพยาบาลหรือสถาบันทางการแพทย์เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลในการรักษาผู้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์</li> <li>เป็นผลประโยชน์ที่รัฐมอบให้ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์</li> <li>ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมประกันในการบรรเทาทุกข์ของผู้ประสบภัยและครอบครัว</li> </ul> <br /> <strong>2. การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ</strong> เป็นการประกันภัยรถยนต์ที่กฎหมายไม่ได้บังคับ แต่เกิดจากความสมัครใจของเจ้าของรถยนต์ เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ประกันภัยรถยนต์มีอยู่หลายประเภท หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าประกันภัยชั้นต่าง ๆ ในแต่ละประเภทก็มีความคุ้มครองแตกต่างกันออกไปอีก ความรับผิดชอบหรือเงินค่าสินไหมทดแทนก็จะมีไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ตามเงื่อนไขตอนที่เลือกทำประกันภัยของแต่ละประเภทประกันที่เลือกซื้อเอาไว้<br /> <br /> ซึ่งจะมีประเภทการคุ้มครองตามรายละเอียดด้านล่าง <ul style="margin-left:20px"> <li>คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์คันเอาประกันภัย</li> <li>คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ให้ความคุ้มครองต่อความรับผิดสำหรับความเสียหายใด ๆ ของบุคคลที่สาม</li> <li>คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ แต่ไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้</li> <li>ความคุ้มครองความรับผิดจากอัคคีภัยและการโจรกรรม (Fire and Theft: F&amp;T) ครอบคลุมความเสียหายต่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถ รวมถึงการตัดแต่งอุปกรณ์และส่วนติดตั้งที่ไหม้หรือขาดหายไปที่ติดอยู่กับรถ</li> </ul> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ตารางสรุปความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ</span></h2> </div> <center><img alt="ตารางสรุปความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ" class="img-fluid" src="/getmedia/c81dd444-3854-462a-b2a4-20bf582486c8/check-before-claim-car-insurance-detail-02.jpg.aspx" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ขั้นตอนการเคลมประกันภัยรถยนต์โดยรวมมีอะไรบ้าง?</span></h2> </div> บ่อยครั้งสิ่งแรกที่ควรทำระหว่างขั้นตอนการเคลมประกันคือใจเย็นและรวบรวมรายละเอียดการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นโทรไปที่ศูนย์ประกันภัย ซึ่งการเคลมประกันก็มีสองรูปแบบเช่นกัน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. เคลมสด</strong></span></h3> การเคลมที่เกิดขึ้นทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน โดยยังมีคู่กรณีอยู่ด้วย (เมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์กับรถยนต์) ซึ่งจะเป็นการโทรติดต่อให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบและออกเอกสารสำหรับทำเรื่องเคลมทันที<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. เคลมแห้ง</strong></span></h3> การเคลมแบบแห้งเป็นการเคลมที่เกิดขึ้นหลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง (ควรไม่เกินสองสามวัน) โดยปกติในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือการชนทำให้เกิดความเสียหายเล็กน้อย บริษัทประกันภัยต้องบันทึกการเกิดอุบัติเหตุอย่างชัดเจน ชนเข้ากับสิ่งใด เมื่อใด ที่ไหน และรายงานการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนด้วยตนเองต่อบริษัทประกันภัยด้วยการเคลมแบบแห้ง มีกรณีพิเศษของ &quot;การเคลมรอบคัน&quot; ซึ่งรวบรวมรายละเอียดของเครื่องหมายต่าง ๆ พันรอบรถของเจ้าของรถทั้งคัน แต่ความคุ้มครองนี้สำหรับประกันชั้นหนึ่งเท่านั้น<br /> <br /> มาถึงอีกหนึ่งความคุ้มครองที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ หรือกำลังมองข้ามไปจนทำให้เสียสิทธิประโยชน์ในส่วนนี้นั่นคือเรื่องของ &ldquo;ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม&rdquo; จะมีอะไรบ้างมาดูกัน<br /> &nbsp; <center><img alt="ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมของการเคลมประกันรถยนต์" class="img-fluid" src="/getmedia/014bd9fb-3ec2-4f19-9d75-93c3d7c163a3/check-before-claim-car-insurance-detail-03.jpeg.aspx" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม ที่เจ้าของรถควรรู้</span></h2> </div> ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม คือ ค่าสินไหมทดแทนจากการเกิดอุบัติเหตุที่ฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีได้ ในขณะที่เรากำลังนำรถเข้าเคลมประกัน ทำความเข้าใจง่าย ๆ ว่าเราไม่มีรถใช้งาน แต่เราได้รับเงินชดเชยแทนนั่นเอง<br /> <br /> หรือถ้าหากท่านใดที่ยังคงสงสัยในเรื่องของค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถกำลังซ่อมอยู่ เราขอส่งไม้ต่อให้กับ Krungsri The COACH <strong>&ldquo;รู้มั้ย? ระหว่างรถรอซ่อม เคลมค่าขาดประโยชน์จากประกันได้นะ&rdquo;</strong> คลิกเลย<br /> <br /> <style type="text/css">.video-container { position: relative; padding-bottom: 56.25%; padding-top: 30px; height: 0; overflow: hidden; } .video-container iframe, .video-container object, .video-container embed { position: absolute; top: 0; left: 0; width: 100%; height: 100%; } </style> <div class="Tmgten video-container"><iframe data-gtm-yt-inspected-13="true" data-gtm-yt-inspected-6="true" data-gtm-yt-inspected-677699_404="true" data-gtm-yt-inspected-677699_86="true" data-gtm-yt-inspected-8="true" data-gtm-yt-inspected-9="true" frameborder="0" height="422" id="668822690" src="https://www.youtube.com/embed/5LZL20aMgp8?rel=0&amp;showinfo=1&amp;enablejsapi=1&amp;origin=https%3A%2F%2Fcms.krungsri.com" width="750"></iframe></div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">มาต่อกันที่ขั้นตอนการขอค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมขณะที่รถกำลังเคลมประกัน</span></h2> </div> <ul style="margin-left:20px"> <li>รอรับใบแจ้งเคลมประกันจากเจ้าหน้าที่ประกันภัย พร้อมกับถ่ายเอกสารไว้เป็นสำเนา</li> <li>นำรถยนต์ไปที่ศูนย์ หรืออู่ซ่อม พร้อมให้ศูนย์หรืออู่ซ่อมประเมินความเสียหายส่งเป็นเอกสารให้เราเก็บไว้ด้วย พร้อมยื่นใบเคลมเพื่อแจ้งซ่อม</li> <li>ขอใบรับรถมาจากศูนย์หรืออู่มาให้เรียบร้อย และถ่ายเอกสารเก็บไว้เสมอ</li> <li>แจ้งศูนย์หรืออู่ให้ถ่ายรูปตอนซ่อมรถแล้วส่งมาให้เราดู เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการยื่นแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม</li> <li>เมื่อรถซ่อมเสร็จก็ให้เราไปรับรถพร้อมขอสำเนาใบรับรถหรือหนังสือส่งมอบรถเสร็จที่ระบุวันที่ไว้อย่างชัดเจน</li> <li>จากนั้นให้เราขอแบบฟอร์มแจ้งเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมจากบริษัทประกันของคู่กรณี หรืออาจจะลองหาแบบฟอร์มจากช่องทางออนไลน์ก็ย่อมได้</li> <li>เตรียมเอกสารของตัวเราเองให้พร้อม เริ่มจากใบขับขี่รถยนต์ และรวมถึงถ่ายสำเนาไว้ด้วย</li> <li>สำเนาทะเบียนรถยนต์ของเรา</li> <li>สำเนาบัญชีธนาคารที่เราต้องการให้โอนเงินค่าขาดประโยชน์กลับมาให้ ซึ่งก็ควรเป็นบัญชีของตัวเราเอง</li> </ul> <br /> นี่ก็เป็นเรื่องราวของประกันภัยกับความคุ้มครองต่าง ๆ ที่เราไม่ควรพลาด โดยเฉพาะกับเรื่องของค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมที่หลาย ๆ คนมองข้ามกันไป แค่เรามีข้อมูลและความรู้ในส่วนนี้ติดไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน เราไม่รู้ว่าระหว่างการเดินทางจะต้องเผชิญกับอะไร แต่เราสามารถเตรียมวิธีรับมือ และรักษาสิทธิประโยชน์ของเราไว้ได้ ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุก ๆ ท่านมีความสุขตลอดทุกการเดินทาง <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
5 Min Read
share
รอบรู้เรื่องรถ

ก่อนต่อประกันรถยนต์ควรตรวจสอบอะไร

<div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="ar-text-content">วิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันต่างอยู่บนพื้นฐานของการเร่งรีบ ระบบขนส่งจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ แต่บ่อยครั้งที่ระบบขนส่งในเมืองไทยก็ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง เพราะสภาพการจราจรที่ติดขัดมากถึงมากที่สุด ผู้คนจึงหันมาโดยสารด้วยรถยนต์ส่วนตัวกันมากขึ้น ประกอบกับราคารถยนต์ที่เป็นแบบ Eco Car ก็มีราคาที่จับต้องได้</div>&nbsp;<div style="display:block;padding:10px;border:solid 3px #FD0;font-size:12pt;text-align:center;"><strong>&quot;เจ้าของรถก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูรถยนต์ของตนเองให้อยู่ในสภาพที่พร้อม<br />ใช้งาน รวมถึงดูแลในเรื่องของประกันรถยนต์ด้วย&quot;</strong></div><div class="ar-text-content mt-40px-all">รถยนต์ส่วนตัวจึงเปรียบเสมือนเพื่อนร่วมเดินทางที่ไปในทุกหนแห่งไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ก็พร้อมจะขับเคลื่อนไปพร้อมกับเจ้าของรถ แต่เจ้าของรถก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูรถยนต์ของตนเองให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน รวมถึงดูแลในเรื่องของประกันรถยนต์ด้วย หากเกิดอุบัติเหตุเฉียวชน ก็สามารถที่จะซ่อมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดให้เป็นภาระกระเป๋าสตางค์ เพราะประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพียงแค่ส่งเบี้ยประกันประจำปีก็พอแล้ว</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">แต่ทั้งนี้หากคุณมีประกันภัยรถยนต์อยู่แล้ว แต่เมื่อครบกำหนดที่จะต้องต่อประกันภัยรถยนต์ คุณกลับรู้สึกว่าตลอดปีที่ผ่านมาไม่ได้เคลมประกันอะไร จะทำประกันต่อกับบริษัทเดิมหรือมองหาบริษัทประกันที่ไหนดี เราจึงขอแนะนำแนวทางดังต่อไปนี้</div><div class="row ar-mg-rm mt-40px-xl mt-24px-xs"><h2 class="ar-text-sub-title">คุณภาพของบริษัทประกัน</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">สิ่งแรกที่เมื่อคุณเริ่มลังเลว่าจะเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ใหม่ต้องทำการพิจารณา คือ เรื่องของการบริการ เวลาเกิดอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่ให้บริการเป็นอย่างไร โทรเรียกแล้วมาเคลมในเวลาที่รวดเร็วหรือไม่ หรือต้องให้คุณต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ ถึงจะเดินทางมาถึงได้ รวมถึงเงื่อนไขของกรมธรรม์ตรงกับที่ระบุไว้ในสัญญาหรือไม่ มีการเล่นตุกติกหรือโปร่งใสแค่ไหน</div><div class="row ar-mg-rm mt-40px-xl mt-24px-xs"><h2 class="ar-text-sub-title">ราคาเบี้ยและทุนประกัน</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">หากตัดสินใจที่จะต่อประกันกับบริษัทเดิม ควรทำการสอบถามว่าคุณสามารถที่จะขอลดหย่อนเบี้ยประกันได้หรือไม่ ในกรณีปีที่ผ่านมาไม่มีการเคลมเลยก็อาจจะได้รับการลดเบี้ยประกันเพราะประวัติใส แต่ในกรณีที่เฉี่ยวชนบ่อย เคลมตลอดปี เบี้ยประกันก็อาจจะสูงขึ้น ซึ่งต้องทำใจ และอาจจะมองหาบริษัทประกันอื่นทดแทน หากไม่อยากที่จะจ่ายเบี้ยประกันที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">สำหรับเรื่องของทุนประกันนั้น รถยนต์ทุกคันย่อมมีค่าเสื่อมราคาเมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง จึงส่งผลให้ทุนประกันลดลง เช่น ก่อนหน้าทุนประกันอยู่ที่ 500,000 บาท ในอีก 2 ปีข้างหน้าอาจจะลดลงเหลือที่ 400,000 บาท</div><div class="row ar-mg-rm mt-40px-xl mt-24px-xs"><h2 class="ar-text-sub-title">มองหาบริษัทประกันอื่นๆ</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ในกรณีที่คุณเคลมประกันบ่อยในช่วงปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าหากต่อประกันกับบริษัทเดิม จะต้องเสียเบี้ยประกันที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมองหาบริษัทประกันอื่น โดยการตรวจสอบบริษัทที่เบี้ยประกันถูกกว่า ซึ่งในส่วนนี้ผู้ต้องการเลือกซื้อประกันรถยนต์สามารถค้นหาข้อมูลได้จากตัวแทนหรือตามอินเทอร์เน็ต เพราะจะมีนักขับทั้งหลายที่มีประสบการณ์ได้เขียนริวิวเกี่ยวกับประกันที่ตนเองได้ซื้อไว้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่สามารถใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อประกันของคุณได้เป็นอย่างไร แต่ก็ต้องเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะบางครั้งอาจจะเป็นข้อมูลที่มีการปรุงแต่งเกินความเป็นจริง</div><div class="row ar-mg-rm mt-40px-xl mt-24px-xs"><h2 class="ar-text-sub-title">เปรียบเทียบและตัดสินใจซื้อ</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">สุดท้ายเมื่อได้ทำการมองหาบริษัทประกันที่ตนเองสนใจแล้ว จึงค่อยทำการเปรียบเทียบว่าหากเลือกที่จะซื้อประกันกับบริษัทเดิม กับบริษัทใหม่ มีความคุ้มค่าแตกต่างกันอย่างไร</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">ท้ายที่สุดแล้วการเลือกซื้อประกันรถยนต์อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ เพราะหากวันใดวันหนึ่ง รถคันเก่งของคุณอาจจะต้องเจออุบัติเหตุ ถ้าเฉี่ยวชนนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าชนหนัก ประกันรถยนต์ที่คุณได้ซื้อไว้ก็จะช่วยคุณอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถยนต์ของคุณและค่าซ่อมให้กับรถคู่กรณีอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงไม่ควรมองข้ามการทำประกันรถยนต์เด็ดขาด ทำไว้อย่างน้อยก็อุ่นใจเมื่อมีเหตุต้องใช้</div></div>
money-hub
3 Min Read
share
รอบรู้เรื่องรถ

รวมเรื่องควรรู้การต่อภาษีรถยนต์ 2568

ปัจจุบัน รถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นของใครหลายคน ไม่ว่าจะซื้อเพราะเหตุผลด้านการเดินทางหรือความสะดวกสบาย แต่สิ่งสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องไม่มองข้ามคือ <strong>&ldquo;การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี&rdquo;</strong> หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า &ldquo;การต่อทะเบียนรถ&rdquo;<br /> <br /> การละเลยเรื่องนี้อาจทำให้ถูกปรับ หรือเจอปัญหาที่ไม่คาดคิดได้ ดังนั้น Krungsri The COACH จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจอย่างง่าย ๆ ถึงเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการ ต่อภาษีรถยนต์ต้องใช้อะไรบ้างและมีช่องทางไหนบ้างที่สามารถดำเนินการได้สะดวกที่สุด?<br /> <br /> เพราะการรู้ข้อมูลเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า ไม่เพียงช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย แต่ยังทำให้การใช้รถของคุณเป็นเรื่องที่มั่นใจ และสบายใจมากขึ้นอีกด้วย <div class="ar-category"> <div class="accordion" id="ar-drop"> <div class="row"> <div class="col-12"> <div id="ar-category"> <div class="card bg-transparent"> <div aria-expanded="false" class="card-header arrow active collapsed" data-bs-target="#collapse-26012" data-bs-toggle="collapse" id="heading26012"> <h3><button class="btn btn-link btn-ar-drop" type="button">คลิกอ่านหัวข้อที่สนใจ</button></h3> </div> <div class="collapse" data-bs-parent="#ar-drop" id="collapse-26012" style=""> <div class="card-body"> <ul class="ar-ul"> <li><a href="#title-1">การต่อภาษีรถยนต์สำคัญอย่างไร ? </a></li> <li><a href="#title-2">ถ้าไม่ต่อภาษีรถยนต์จะเป็นอย่างไร ?</a></li> <li><a href="#title-3">หากกลัวลืม สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ไหม ?</a></li> <li><a href="#title-4">ต่อภาษีรถยนต์ทำได้ที่ไหนบ้าง ?</a></li> <li><a href="#title-5">ต่อภาษีรถยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?</a></li> <li><a href="#title-6">4 ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ ฉบับเข้าใจง่าย</a></li> <li><a href="#title-7">ค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์</a></li> <li><a href="#title-8">ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ กี่วันถึงจะได้เอกสาร ?</a></li> </ul> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">การต่อภาษีรถยนต์สำคัญอย่างไร ? </span></h2> </div> นี่อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่งคำตอบพื้นฐานก็คือ เป็นหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่หากมองให้ลึกกว่านั้น การใช้รถยนต์ย่อมทำให้ถนนเกิดการสึกหรอ และจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมหรือสร้างเส้นทางใหม่ การที่เจ้าของรถทุกคนร่วมกันชำระภาษี จึงเปรียบเสมือนการช่วยสนับสนุนให้ภาครัฐสามารถพัฒนาถนนและระบบคมนาคมให้ดียิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางของทุกคน<br /> <br /> ดังนั้น การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ไม่ใช่แค่การทำตามกฎของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น แต่ยังเป็นความรับผิดชอบสำคัญของเจ้าของรถทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ ที่ต้องตระหนักว่า รถทุกคันที่จดทะเบียนแล้ว มีหน้าที่ต้องต่อภาษีอย่างต่อเนื่องทุกปี<br /> &nbsp; <center><img alt="ความสำคัญการต่อภาษีรถยนต์" class="img-fluid" height="433" loading="lazy" src="/getmedia/60cc35d8-f224-4746-b35b-07350d5abc34/things-car-owner-should-know-detail-01.jpg.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" width="650" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-2"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ถ้าไม่ต่อภาษีรถยนต์จะเป็นอย่างไร ?</span></h2> </div> หากละเลยการต่อภาษีรถยนต์ย่อมถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนใช้รถควรรู้ แต่ถ้าหากไม่ต่อภาษีจะต้องปฏิบัติ ดังนี้<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. เสียค่าปรับ</strong></span></h3> ตามปกติแล้ว การต่อภาษีรถยนต์ สามารถทำได้ล่วงหน้าก่อนทะเบียนรถยนต์ หมดอายุไม่เกิน 3 เดือน (หรือ 90 วัน) แต่ถ้าต่อภาษีรถยนต์ล่าช้าจะโดนค่าปรับ 1% ของภาษีรถยนต์/เดือน ยิ่งปล่อยไว้นาน ค่าปรับก็จะยิ่งเพิ่ม หากปล่อยไว้นาน อาจโดนค่าปรับย้อนจนหลังอ่วมแน่นอน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. ถูกระงับทะเบียนรถยนต์</strong></span></h3> เมื่อปล่อยรถไว้นาน โดยไม่ได้ทำการต่อทะเบียนรถยนต์เกิน 3 ปี ทางขนส่งจะดำเนินการระงับทะเบียนรถทันที แต่ถ้าหากจะใช้รถคันเดิม จะต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่พร้อมคืนป้ายทะเบียนรถ รวมถึงดำเนินการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลัง สำหรับรถของใครที่มีการซ่อมเป็นเวลายาวนาน หรือจอดไว้ไม่ได้ใช้งาน ขนส่งก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เราสามารถยื่นแสดงการระงับใช้รถชั่วคราวล่วงหน้าที่ขนส่งได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียภาษีในช่วงเวลานั้น ๆ<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะ</strong></span></h3> นอกจากค่าปรับแล้ว การไม่ต่อภาษีรถยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก เช่น ค่าตรวจสภาพ ค่าป้ายใหม่ เป็นต้น นี่ยังไม่นับค่าเดินทางไปๆ มาๆ กรณีเตรียมเอกสารไม่ครบหรือโดนเรียกเอกสารเพิ่มเติมอีก ซึ่งเทียบแล้วการยื่นต่อภาษีรถตามปกติ ยังมีแต่ข้อดีมากกว่าข้อเสีย<br /> <br /> เพราะฉะนั้น ทุกคนควรดำเนินการต่อภาษีรถยนต์เป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะให้ไม่ต้องเสียค่าปรับย้อนหลัง แถมประหยัดเวลาอีกด้วย <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-3"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">หากกลัวลืม สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ไหม ?</span></h2> </div> หมดกังวลเรื่องการลืมไปได้เลย เพราะคุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือนก่อนวันที่ป้ายภาษีจะหมดอายุ การวางแผนต่อภาษีล่วงหน้าไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการลืม แต่ยังทำให้คุณมีเวลาเตรียมเอกสาร และจัดการทุกอย่างได้อย่างสบายใจ ในทางกลับกัน หากปล่อยให้ขาดต่อภาษีแม้เพียงวันเดียว ก็จะถูกคิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 1 ของค่าภาษีต่อเดือนทันที<br /> <br /> อ่านมาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงสงสัยใช่ไหมว่าเอ๊ะ ! แล้วการต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ) และการต่อประกันภัยภาคสมัครใจ ต้องทำยังไงบ้าง? เราขอแนะนำ &ldquo;Krungsri The COACH Ep.31 3 ข้อเจ้าของรถต้องรู้ ถ้าไม่อยากถูกจับ ถูกปรับ&rdquo; ดูคลิปเต็มแบบรวดเดียวจบเข้าใจเรื่องของการต่อภาษีรถยนต์ และเอกสารในการใช้ต่อภาษีรถยนต์<br /> <br /> <style type="text/css">.video-container { position: relative; padding-bottom: 56.25%; padding-top: 30px; height: 0; overflow: hidden; } .video-container iframe, .video-container object, .video-container embed { position: absolute; top: 0; left: 0; width: 100%; height: 100%; } </style> <div class="Tmgten video-container"><iframe data-gtm-yt-inspected-11="true" data-gtm-yt-inspected-13="true" data-gtm-yt-inspected-677699_404="true" data-gtm-yt-inspected-677699_86="true" data-gtm-yt-inspected-8="true" frameborder="0" height="422" id="668822690" src="https://www.youtube.com/embed/82hZqQWUWXQ?rel=0&amp;showinfo=1&amp;enablejsapi=1&amp;origin=https%3A%2F%2Fcms.krungsri.com" width="750"></iframe></div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-4"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ต่อภาษีรถยนต์ทำได้ที่ไหนบ้าง ?</span></h2> </div> ในปัจจุบัน การต่อภาษีรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะมีช่องทางอำนวยความสะดวกมากมายให้เลือกใช้บริการได้ตามความถนัด ทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ดังนี้<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ช่องทางออฟไลน์ (Walk-in)</strong></span></h3> <ul> <li><strong>สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ</strong> : ไม่ว่ารถของคุณจะจดทะเบียนที่จังหวัดไหน ก็สามารถยื่นเรื่องได้ทุกสาขาใกล้บ้าน</li> <li><strong>บริการเลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)</strong> : สะดวกสบาย ไม่ต้องลงจากรถ เพียงยื่นเอกสาร และชำระเงินที่ช่องบริการพิเศษ ณ สำนักงานขนส่งบางแห่ง</li> <li><strong>ที่ทำการไปรษณีย์ไทย</strong> : สามารถยื่นเรื่องได้ที่ไปรษณีย์ใกล้บ้าน โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเล็กน้อย</li> <li><strong>เคาน์เตอร์เซอร์วิส</strong> : ในร้าน 7-Eleven หรือจุดบริการที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส</li> <li><strong>ห้างสรรพสินค้า</strong> : ที่เข้าร่วมโครงการ &ldquo;ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี&rdquo; ซึ่งมักจะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์</li> <li><strong>ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)</strong> : อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่สะดวกใช้บริการผ่านธนาคาร</li> </ul> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ช่องทางออนไลน์</strong></span></h3> <ul> <li><strong>เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (DLT e-Service)</strong> : เป็นช่องทางหลักที่สะดวกสบาย สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง</li> <li><strong>แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax</strong> : ต่อภาษีผ่านสมาร์ตโฟนได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน</li> </ul> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-5"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ต่อภาษีรถยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?</span></h2> </div> การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้ขั้นตอนการต่อภาษีรวดเร็ว และราบรื่น โดยเอกสารหลักที่ต้องใช้มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น <ul> <li><strong>สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์</strong> : หรือที่เรียกกันว่า &ldquo;เล่มทะเบียน&rdquo; สามารถใช้ได้ทั้งตัวจริงหรือสำเนา</li> <li><strong>เอกสาร พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ</strong> : ต้องเป็นฉบับที่ยังไม่หมดอายุ เพราะหากไม่มี พ.ร.บ. จะไม่สามารถต่อภาษีได้</li> <li><strong>ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (ตรอ.)</strong> : เอกสารนี้จำเป็นสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก</li> </ul> &nbsp; <center><img alt="ประกันภัยภาคบังคับ พ.ร.บ.รถยนต์" class="img-fluid" height="433" loading="lazy" src="/getmedia/f42a07ee-fda7-44fa-a94c-a1c0b5af3098/things-car-owner-should-know-detail-02.jpg.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" width="650" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-6"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">4 ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ ฉบับเข้าใจง่าย</span></h2> </div> เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน เราได้สรุปขั้นตอนหลัก ๆ ในการต่อภาษีรถยนต์มาให้แล้ว รับรองว่าไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด &nbsp;<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. นำรถไปตรวจสภาพ (สำหรับรถที่เข้าเกณฑ์)</strong></span></h3> หากรถของคุณมีอายุเกิน 7 ปี (รถจักรยานยนต์เกิน 5 ปี) ให้นำรถไปตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อรับใบรับรองมาประกอบการยื่นต่อภาษี<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. เตรียมเอกสารให้พร้อม</strong></span></h3> รวบรวมเอกสารสำคัญ 2-3 อย่างตามที่ระบุไว้ข้างต้น ได้แก่ เล่มทะเบียน พ.ร.บ. และใบตรวจสภาพรถ (ถ้ามี) ให้ครบถ้วน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. เลือกช่องทาง และชำระภาษี</strong></span></h3> เลือกช่องทางที่คุณสะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยื่นเอกสารด้วยตนเองตามจุดบริการต่าง ๆ หรือเลือกทำผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นชำระค่าภาษีตามที่เจ้าหน้าที่ หรือระบบแจ้ง<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>4. รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี</strong></span></h3> หลังจากชำระเงินเรียบร้อย คุณจะได้รับป้ายสี่เหลี่ยม หรือที่เรียกว่า &ldquo;ป้ายวงกลม&rdquo; ซึ่งเป็นหลักฐานการเสียภาษีประจำปี เพื่อนำไปติดที่กระจกหน้ารถให้เห็นได้ชัดเจน <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-7"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์</span></h2> </div> อัตราค่าภาษีรถยนต์จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภท ขนาดเครื่องยนต์ (CC) และน้ำหนักของรถ โดยมีหลักการคำนวณเบื้องต้น ดังนี้<br /> <br /> รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (เช่น รถเก๋ง, SUV) : คิดตามความจุกระบอกสูบ (CC) ของเครื่องยนต์ ได้แก่ <ul> <li><strong>600 ซีซีแรก</strong> : ซีซีละ 0.50 บาท</li> <li><strong>601 - 1,800 ซีซี</strong> : ซีซีละ 1.50 บาท</li> <li><strong>1,801 ซีซีขึ้นไป</strong> : ซีซีละ 4.00 บาท</li> </ul> <br /> ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (เช่น รถตู้) จะคิดตามน้ำหนักของรถ &nbsp;<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>เงื่อนไขในการได้รับส่วนลดภาษีรถยนต์</strong></span></h3> สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานหลายปี จะมีข่าวดีคือ การได้รับส่วนลดค่าภาษี ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้พอสมควร <ul> <li><strong>รถยนต์อายุครบ 6 ปี</strong> : ได้รับส่วนลด 10%</li> <li><strong>รถยนต์อายุครบ 7 ปี</strong> : ได้รับส่วนลด 20%</li> <li><strong>รถยนต์อายุครบ 8 ปี</strong> : ได้รับส่วนลด 30%</li> <li><strong>รถยนต์อายุครบ 9 ปี</strong> : ได้รับส่วนลด 40%</li> <li><strong>รถยนต์อายุเกิน 10 ปีขึ้นไป</strong> : ได้รับส่วนลดสูงสุด 50%</li> </ul> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-8"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ กี่วันถึงจะได้เอกสาร ?</span></h2> </div> หลังจากชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์เรียบร้อยแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการจัดส่งใบเสร็จรับเงิน และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายวงกลม) ให้คุณทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกได้เลย<br /> <br /> การต่อภาษีรถยนต์ถือเป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถทุกคนที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำทุกปี ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับที่ไม่จำเป็น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาเส้นทางคมนาคมของประเทศอีกด้วย ปัจจุบันมีช่องทางในการต่อภาษีที่สะดวกสบาย และหลากหลาย การเตรียมเอกสารให้พร้อม และดำเนินการต่อภาษีล่วงหน้า จะช่วยให้คุณจัดการทุกอย่างได้อย่างราบรื่น และใช้รถยนต์คันโปรดได้อย่างสบายใจไร้กังวล<br /> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
5 Min Read
share
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา