7 Tips ในการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับคุณ
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

7 Tips ในการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับคุณ

icon-access-time Posted On 08 มีนาคม 2565
by Krungsri The COACH

หากพูดถึงการบริหารจัดการเงินแล้วล่ะก็ การจัดพอร์ตการลงทุนคือสิ่งที่ควรใส่ใจลำดับต้นๆ เพื่อความมั่นคงระยะยาวในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกองทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์และธุรกิจต่างๆ ซึ่งพอร์ตที่หลายคนคุ้นชินกัน คือ พอร์ตหุ้นและพอร์ตกองทุนเนื่องจากสามารถติดตามผลการลงทุนได้ง่าย แล้วการจัดพอร์ตมีอะไรสำคัญบ้าง วันนี้ Plan Your Money เอา Tips ดีๆ มาฝากคุณ

 
  1. จัดพอร์ตการลงทุน ห้ามมองข้ามเรื่องความเสี่ยงเด็ดขาด
    เชื่อหรือไม่ว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก่าพลาดกันไม่น้อยด้วยเหตุผลมากมาย กับการจัดการความเสี่ยงของพอร์ตตัวเอง ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งอายุ ทรัพย์สิน รวมถึงความรู้ความสามารถในการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงเวลาปัจจุบันที่ทรัพย์สินหลายประเภทมีความผันผวนสูงเกินกว่าที่เคยเป็นตามกลไกของตลาดโลก

    ก่อนจัดพอร์ตลงทุนและปรับพอร์ตแต่ละครั้ง นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงในการลงทุนที่ตนเองรับได้อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนที่กำลังดำเนินอยู่นั้นเหมาะกับตัวคุณมากที่สุด

    โดยคุณสามารถเช็คความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ที่แบบประเมินความเสี่ยงเพื่อการลงทุน

  2. ลงทุนในเทรนด์ใหม่และสิ่งที่ตนเองสนใจ
    การลงทุนตามเทรนด์เป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่จะดีกว่าหากคุณลงทุนในสิ่งที่ตนเองสนใจด้วย เนื่องจากการให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตนเองใส่ใจจะมีแนวโน้มที่คุณจะติดตามการลงทุนนั้นๆ ได้ดี และจัดพอร์ตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตหุ้น กองทุน และการลงทุนในสิ่งอื่นๆ

    สำหรับเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ได้แก่
    • เทคโนโลยี
    • การแพทย์
    • คริปโตเคอร์เรนซี
    • สิ่งแวดล้อม
    • สาธารณูปโภคพื้นฐาน

    โดยเฉพาะเทรนด์การลงทุนในต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น หากคุณมีความสนใจในตลาดต่างประเทศและเทคโนโลยี รวมถึงกำลังศึกษาการลงทุนในด้านนี้อยู่ล่ะก็ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองทุนที่น่าสนใจจากทางกรุงศรี

ลงทุนในเทรนด์ใหม่และสิ่งที่ตนเองสนใจ
 
  1. พอร์ตการลงทุนที่ดีควรมีหลากหลาย
    การจัดพอร์ตที่ดีไม่ใช่การวางแผนแบบสุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่เป็นการจัดการที่มีความสมดุลทั้งในแง่ของการจัดการความเสี่ยงและการทำกำไรจากพอร์ตนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน ตราสารหนี้ และการลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป

    แยกพอร์ตตามเป้าหมายการลงทุน
    • เป้าหมายระยะสั้น (เก็บเงินระยะสั้น ผลตอบแทนต่ำ)
      สำหรับเป้าหมายระยะสั้นควรให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำเป็นส่วนใหญ่ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ หรือเน้นการออมเงินแบบฝากประจำกับธนาคาร เพื่อความสามารถในการเก็บออมและการสำรองเงินที่พอเหมาะ ทำให้พอร์ตมีสภาพคล่องสูง สามารถใช้จ่ายได้ทันท่วงทีเมื่อต้องการ

    • เป้าหมายระยะกลาง (เก็บเงินหลายปี ผลตอบแทนปานกลาง)
      สำหรับเป้าหมายระยะกลางที่ใช้เวลาเก็บ 1 ปีขึ้นไป ขอแนะนำว่าให้ผสมผสานการลงทุนเพิ่มเติมลงในกองทุนรวมหุ้นและกองทุนผสมต่างๆ โดยเฉพาะกองทุนในต่างประเทศและกองทุนเทคโนโลยีที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง

    • เป้าหมายระยะยาว (เก็บเงินเพื่อการเกษียณ ผลตอบแทนสูง)
      สำหรับเป้าหมายระยะยาว สิ่งสำคัญ คือ การดูความคุ้มค่าในการลงทุนรวมถึงผลตอบแทนรูปแบบอื่นๆ เช่น การออมเพื่อการเกษียณ การลดหย่อนภาษีอย่างกองทุน SSF และ RMF ผสมผสานไปกับกองทุนที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงอย่างกองทุนรวมหุ้นประเภทต่างๆ โดยควร Rebalance พอร์ตอย่างสม่ำเสมอ

      นอกจากการแบ่งพอร์ตการลงทุนตาม 3 รูปแบบนี้ ยังมีการจัดพอร์ตอีกมากมายให้คุณเลือกสรร โดยสามารถพิจารณาและปรับพอร์ตตามความเสี่ยงและความเหมาะสมของตัวเอง ซึ่งคุณสามารถจัดพอร์ตเองแบบง่ายๆ เบื้องต้นได้ที่ตัวช่วยทางการเงินจากกรุงศรี

  2. ติดตามเทรนด์การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
    แม้ว่าการซื้อกองทุนจะทำให้คุณไม่จำเป็นต้องจัดการสินทรัพย์ต่างๆ ด้วยตนเอง แต่การติดตามเทรนด์การลงทุนเป็นระยะๆ ก็จะทำให้คุณรู้ว่ากองทุนตัวไหนดี กองทุนตัวไหนน่าสนใจ รวมถึงมีความรู้รอบตัวระดับหนึ่งว่าเทรนด์การลงทุนประเภทไหนกำลังจะมา เพื่อให้คุณมีความรู้และความเข้าใจในการจัดพอร์ตรูปแบบต่างๆ ครั้งต่อไปมากขึ้น

ติดตามเทรนด์การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
 
  1. เริ่มจัดพอร์ตเลยไม่ต้องรอ
    การจัดพอร์ตไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิดและสามารถเริ่มได้ทันที แม้แต่คนที่เริ่มลงทุนไปแล้วก็สามารถจัดพอร์ตตามสไตล์ของตนเองได้ แต่อาจใช้เวลาปรับเปลี่ยน เพิ่ม-ลด การลงทุนต่างๆ ให้เหมาะสมมากขึ้นตามจังหวะเวลา

    ดังนั้น เราขอแนะนำว่าถ้าคุณยังไม่เคยจัดพอร์ตอย่างจริงจัง คุณควรเริ่มจัดพอร์ตเลยเสียแต่ตอนนี้ ซึ่งถ้าคุณเป็นลูกค้าของทางธนาคารกรุงศรีอยุทธยา สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านบริการ Smart Advisor ของแอปพลิเคชัน KMA
 
Smart Advisor ของแอปพลิเคชัน KMA
Smart Advisor ของแอปพลิเคชัน KMA
Smart Advisor ของแอปพลิเคชัน KMA
 
  1. ปรับพอร์ตตามสถานการณ์ต่างๆ
    การจัดพอร์ตที่ดีไม่ควรนิ่งจนเกินไป ดังที่อธิบายในหัวข้อของเทรนด์การลงทุน พอร์ตต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาแม้แต่พอร์ตระยะยาวเองก็ตาม หากกองทุนหรือหุ้นตัวไหนสามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้ การเลือก Take Profit ออกมาบ้างตามจังหวะก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

    แน่นอนว่า การศึกษากองทุนและหุ้นตัวใหม่เพื่อใส่ในพอร์ตเองก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน นอกจากการ Take Profit แล้ว การเลือก Rebalance พอร์ตเมื่อถึงจังหวะสำคัญหรือมีการเปลี่ยนแปลงทางการเงินต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด

  2. มีสติในทุกการตัดสินใจลงทุน
    ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอและมีตัวอย่างให้เห็นอยู่ตลอดมาดังอ้างอิงจากข้อที่แล้ว ทั้งในกรณีของ Digital Disruption ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลาดเกือบทั้งหมด และดันเทคโนโลยีดิจิทัลขึ้นมาเป็นแถวหน้าของการลงทุน หรือแม้แต่การอุบัติของ Covid-19 ที่ทำให้ตลาดทั่วโลกผันผวนยากจะคาดเดา

    สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน คือ “การมีสติในทุกการลงทุน” พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รู้จักรอในเวลาที่เหมาะสม รู้จักเข้าใจเวลาที่ควร เพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด

สรุป
การจัดพอร์ตการลงทุนเป็นสิ่งที่ทั้งมือใหม่และมือเก่าต้องให้ความสำคัญ และมีการปรับพอร์ตอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน เพื่ออัปเดตพอร์ตของคุณอย่างสม่ำเสมอ

หากคุณสนใจวิธีจัดพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทางทีม Plan Your Money ยินดีที่จะเป็นผู้ช่วยในการวางแผนการเงินของคุณโดยเฉพาะ สามารถติดต่อเราผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับที่บริการที่ปรึกษาการเงิน Plan Your Money

Ref
https://www.finvest.co.th
https://www.setinvestnow.com
https://www.finnomena.com
https://www.edwardjones.com
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา