ด้วยจิตสำนึกและความรับผิดชอบในฐานะสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบของประเทศไทย (Domestic Systemically Important Bank: D-SIB) กรุงศรีตระหนักดีว่าธนาคารพาณิชย์เปรียบเสมือนตัวกลางทางการเงินในการระดมทุนและจัดสรรทรัพยากรทางการเงินเพื่อสนับสนุนลูกค้าธุรกิจ ลูกค้ารายย่อย รวมถึงภาคสังคมและระบบเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งการสนับสนุนสินเชื่อของธนาคารอาจก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวก หรือผลกระทบเชิงลบโดยทางตรงหรือทางอ้อมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้
ด้วยเหตุนี้ กรุงศรีจึงให้ความสำคัญกับสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินโดยคำนึงถึงและเชื่อมโยงกับมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ควบคู่ไปกับมิติด้านเศรษฐกิจ ตามแนวทาง
“การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ” (Responsible Lending) โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนธุรกิจหรือธุรกรรมที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวก สร้างคุณค่าและประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในระยะยาว อาทิ การลงทุนเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน การสร้างรายได้ และพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคม การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล รวมไปถึงการสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่สังคมและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
นอกจากนี้ การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและพิจารณามิติด้าน ESG ยังช่วยป้องกันความเสี่ยงของธนาคารทั้งในด้านการเงิน การปฏิบัติงาน ชื่อเสียง และการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและสังคมพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
แนวทางการบริหารจัดการ
- ลงนามรับในหลักการธนาคารที่รับผิดชอบ (Principles for Responsible Banking: PRB) ที่ริเริ่มโดยสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน (UNEP FI) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการธนาคารเพื่อความยั่งยืน
- ดำเนินงานตามหลักการ “การธนาคารอย่างยั่งยืน” (Sustainable Banking) โดยให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามแนวทาง “การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ” (Responsible Lending) ซึ่งการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจะครอบคลุมมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ควบคู่ไปกับมิติด้านเศรษฐกิจ
- กำหนด “นโยบายเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อ” เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์และแนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อ โดยมีการสื่อสารหรือเผยแพร่นโยบายดังกล่าวแก่พนักงานธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเน้นย้ำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตระหนักถึงความเสี่ยงด้าน ESG ทั้งนี้ นโยบายฉบับนี้ครอบคลุมธนาคารทุกสาขา สำนักงานของธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งมีการทบทวนนโยบายดังกล่าวเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อจำเป็นกรณีมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ เพื่อให้สามารถปรับปรุงการให้บริการของธนาคารด้านการพิจารณาสินเชื่อให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงมิติ ESG ตามขอบเขตดังนี้
- มิติด้านสิ่งแวดล้อม: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การตัดไม้ทำลายป่าและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การปนเปื้อนและมลพิษบนดินและอากาศ การป้องกันและลดมลพิษทางทะเล วัตถุอันตรายและการจัดการของเสีย
- มิติด้านสังคม: ด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ชุมชนสัมพันธ์และสิทธิของชุมชน ปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่สูงเกินไป การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
- มิติด้านบรรษัทภิบาล: ด้านจริยธรรมและความซื่อสัตย์ขององค์กร จรรยาบรรณธุรกิจ การต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน การบริหารจัดการความเสี่ยง การตรวจสอบ การรายงานและความโปร่งใส
- กำหนด “นโยบายเพื่อการให้สินเชื่ออย่างยั่งยืน” เพื่อกําหนดกรอบพื้นฐานสําหรับการให้สินเชื่ออย่างยั่งยืน โดยให้ความสําคัญกับความเสี่ยงเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance Risk: “ESG Risk”) ซึ่งเกิดจากธุรกรรมการให้สินเชื่อ โดยมุ่งหวังส่งเสริมความยั่งยืนในธุรกิจสินเชื่อและเสริมสร้างผลกระทบที่ดีแก่สังคมโดยรวม
นโยบายเพื่อการให้สินเชื่ออย่างยั่งยืน
นโยบายเพื่อการให้สินเชื่ออย่างยั่งยืน
PDF