5 เครื่องมือการตลาดยอดนิยม ใช้ AI เสริมพลังต่อยอดเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

โดย สิรภัทร เกาฏีระ CFP® นักวางแผนการเงิน
11 มกราคม 2567
5 เครื่องมือการตลาด ใช้เสริมพลัง AI เพื่อการทำงาน
ท่ามกลางกระแสและการเติบโตทางเทคโนโลยี AI คือหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยในโลกปัจจุบัน AI ถูกนำมาใช้งานทั้งทางการแพทย์ การวิเคราะห์แนวโน้มของผู้บริโภค การเงิน และการลงทุน อีกทั้งการประมวลผลอันรวดเร็ว ยังนำไปสู่วิถีชีวิตใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร หรือการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในส่วนของ Machine Learning ได้กลายเป็นนวัตกรรมที่มีอิทธิพลต่อภาคธุรกิจและภาครัฐบาล เพราะความสามารถในการเรียนรู้และเข้าใจในข้อมูลที่ได้รับการถ่ายทอด จนสามารถเลียนแบบพฤติกรรมได้ไม่แตกต่างจากมนุษย์ และยังสามารถทำบางสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจทำได้อีกด้วย
 
ทำความรู้จัก AI คืออะไร
 

ทำความรู้จัก AI คืออะไร และบทบาทความสามารถในปัจจุบัน

ในตลาดโลก ธุรกิจ AI มีมูลค่าเฉลี่ยถึง 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี โดยในมูลค่าทั้งหมดนี้มีสัดส่วนของแอปพลิเคชันถึง 60% และมีแนวโน้มว่าตลาดนี้จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่กลายเป็นเทรนด์เทคโนโลยี ที่ภาคเอกชนและภาครัฐบาลได้นำมาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ช่วยขยายขีดความสามารถด้านการประมวลผลในธุรกิจหรือหน่วยงานที่มีฐานข้อมูลจำนวนมาก ให้สามารถทำงานภายในเวลาอันรวดเร็วได้

โดย AI เป็นชื่อย่อของ Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นให้มีความสามารถในการเรียนรู้ รวมไปถึงการตัดสินใจ การวิเคราะห์ข้อมูล และการแก้ไขปัญหาได้เหมือนกับมนุษย์ เช่น โปรแกรม Chatbot ระบบแนะนำสินค้า และเนื้อหาข้อมูลในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เป็นต้น

โดยบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกอย่าง Mckinsey ได้ให้นิยามไว้ว่า “AI คือ เครื่องจักรที่มีความสามารถในการทำงานเช่นเดียวกับการทำงานขั้นสูงของสมองมนุษย์ ทั้งการรับรู้ การเรียนรู้ และพัฒนาไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ด้วยความเข้าใจในเหตุและผล การมีปฏิสัมพันธ์ต่อสิ่งรอบข้าง การตัดสินใจที่ใช้ข้อมูลเป็นหลักไม่มีอารมณ์เข้ามาข้องเกี่ยว รวมไปถึงการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ”

ยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Artificial Intelligence คือ การสร้างวิดีโอเกม, การสร้างบทความและบทละคร, การออกแบบงานศิลปะ หรือแม้แต่การสร้างบทกวี เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความสามารถเบื้องต้นเท่านั้น เพราะเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ระบบประมวลผลของ AI จึงมีความสามารถในการเข้าใจภาษาธรรมชาติของมนุษย์ได้ ซึ่งภาษาเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ที่ในน้ำเสียงของแต่ละคนก็ล้วนมีอารมณ์ มีความต้องการ และมีเป้าหมายในการพูด แต่ AI ก็สามารถเรียนรู้ และเข้าใจความหลากหลายเหล่านั้นได้ นำไปสู่การโต้ตอบที่สามารถให้คำปรึกษากับมนุษย์ได้ หรือเรียกว่า AI สามารถพูดคุยกับมนุษย์ได้นั่นเอง

หรือในช่วงปี 2565 ต่อเนื่องถึงปี 2566 สำนักข่าว BBC ประเทศอังกฤษ โดยทีมผลิตสื่อ AI ได้ถ่ายทอดข้อมูลเป็นเสียง ภาพ และชุดข้อมูลให้แก่ AI รวมไปถึง Machine Learning ให้ได้ทำการเรียนรู้เพื่อไปสู่การประมวลผลในการทำงาน ทั้งการตัดต่อ และการลำดับภาพ ด้วยการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถทำงานให้เหมือนกับการทำงานขั้นสูงของสมองมนุษย์ ทำให้เกิดผลลัพธ์ คือ รายการของ BBC มีรูปแบบการนำเสนอรายการที่สดใหม่ และมีเนื้อหาที่แตกต่าง

นอกจากนี้ AI ยังได้เปิดประตูการทำงานใหม่ ๆ ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ด้วยความสามารถในการจดจำใบหน้า การแยกเพศ การรับข้อมูลเสียงและวิเคราะห์ได้ว่า เสียงนั้น ๆ กำลังอยู่ในอารมณ์แบบใด ช่วยวิเคราะห์วิดีโอการสัมภาษณ์พนักงาน และช่วยประมวลผลออกมาได้ว่า ผู้ที่มาสมัครงานมีการศึกษาอยู่ในระดับใด และสิ่งที่ผู้สมัครงานได้ให้คำสัมภาษณ์ไว้นั้น มีจุดใดบ้างที่เป็นข้อมูลเท็จ รวมไปถึงช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้มาสัมภาษณ์ และให้คำปรึกษาได้ว่า บุคคลนั้น ๆ เหมาะสมกับอาชีพใด หรือมีจุดใดบ้างที่ควรพัฒนา

และในอุตสาหกรรมการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ระบุว่า สำหรับประเทศไทยได้ใช้งาน AI และ Machine Learning แล้วอย่างแน่นอน 100% ส่วนอุตสาหกรรมค้าปลีกใช้งาน AI ประมาณ 60% และภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีการใช้งาน AI แต่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของ Machine Learning เพราะภาคอุตสาหกรรมการผลิตจะมุ่งเน้นใช้งาน AI ร่วมกับระบบ Automation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า
 
5 เครื่องมือการตลาด ที่นำ AI มาเสริมประสิทธิภาพการทำงานได้
 

5 เครื่องมือการตลาดที่สามารถนำ AI มาพัฒนาต่อยอดประสิทธิภาพการทำงานได้

ความสามารถในการเรียนรู้ของ AI ทำให้เกิดความนิยมอย่างรวดเร็ว อย่างในชีวิตประจำวัน AI ถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้ทำงานร่วมกับเครื่องมือทางการตลาด เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น
 

1. Canva

แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ช่วยให้งานกราฟิกและงานออกแบบสามารถทำได้ง่าย แม้ไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้งานด้านกราฟิกด้วยคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมการออกแบบที่มีความซับซ้อน ก็สามารถลงมือศึกษาและทำด้วยตนเองได้ในไม่กี่นาที อีกทั้ง Canva ยังมีเวอร์ชันแอปพลิเคชันสำหรับการทำงานบนสมาร์ตโฟน ช่วยให้สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตสินค้า, การสร้างโลโก้, การออกแบบโปสเตอร์, ทำนามบัตร, ตัดต่อวิดีโอ และงานด้านออกแบบอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยใน Canva มีการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในส่วนของการช่วยทำให้การสร้างกราฟิกและการออกแบบเป็นไปได้โดยง่าย คือ
  • การเสนอแนวคิดและเทมเพลต โดย Canva มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Canva Pro ที่มี AI-powered Design Suggestions ซึ่งสามารถใช้แนวคิดและเทมเพลตที่เหมาะสมกับงานได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้การวิเคราะห์จากเนื้อหาที่ได้รับการถ่ายทอดเข้าไป
  • การปรับแต่งรูปภาพ Canva มีฟีเจอร์ในการปรับแต่งรูปภาพที่มีการใช้ AI เพื่อทำให้การปรับแต่งเป็นไปอย่างรวดเร็ว และง่ายดาย รวมไปถึงการแปลภาษา และคิดข้อความประกอบให้ได้ด้วย
  • การตัดต่อวิดีโอ Canva Pro มีเครื่องมือตัดต่อวิดีโอที่มีการใช้งาน AI เพื่อช่วยให้กระบวนการตัดต่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การจัดวางอัตโนมัติ Canva มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Magic Resize ที่ใช้งาน AI สำหรับปรับขนาดองค์ประกอบของงานออกแบบให้เหมาะกับขนาดที่ต้องการ
 

2. Adobe

Adobe คือ บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านซอฟต์แวร์และบริการสื่อดิจิทัล มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่นิยมในวงการออกแบบและตกแต่งรูปภาพ กราฟิก วิดีโอ และสื่อดิจิทัลอื่น ๆ อย่าง Adobe Creative Cloud ที่มีโปรแกรมสำหรับเป็นองค์ประกอบ เช่น Adobe Photoshop, Illustrator, InDesign, Premiere Pro และ After Effects เป็นต้น

นอกจากนี้ Adobe ยังผลิตซอฟต์แวร์และการให้บริการอื่น ๆ ที่รวมเอาความชาญฉลาดของ AI เข้ามาประยุกต์ใช้งาน เพื่อสร้างสื่อดิจิทัลที่มีความสร้างสรรค์ เช่น
  • Adobe Photoshop ที่สามารถตกแต่งและตัดต่อรูปภาพได้อย่างง่ายดาย
  • Adobe Acrobat เพื่อสร้างและแก้ไขไฟล์ PDF
  • Adobe XD เพื่อช่วยออกแบบประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้งาน
  • Adobe Spark เพื่อการสร้างเว็บไซต์ วิดีโอ และงานกราฟิก
  • Adobe Stock เพื่อให้บริการซื้อขายภาพถ่าย วิดีโอ และเนื้อหาสื่อดิจิทัล เป็นต้น

โดย Adobe ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน เพื่อประสบการณ์ทำงานที่ดีขึ้น คือ Adobe Sensei เป็นปัญญาประดิษฐ์ของ Adobe ที่ถูกนำไปใช้ในหลายผลิตภัณฑ์ เช่น Photoshop, Illustrator, Premiere Pro และ After Effects เป็นต้น ให้มีความสามารถในการทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ การปรับปรุงรูปแบบงาน และเพิ่มความสามารถการเรียนรู้ของเครื่องมือ นอกจากนี้ Adobe Sensei ยังช่วยให้การทำงานของฟังก์ชันต่าง ๆ เร็วขึ้น เช่น การใช้งาน Auto Selection Tool ของ Adobe Photoshop ก็ใช้การเรียนรู้ของเครื่องมือ เพื่อทำให้การเลือกตัวอย่างรูปภาพมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
 

3. Notion

แพลตฟอร์มเพื่อการทำงานเป็นทีม มีรูปแบบที่มีความหลากหลาย ทั้งความสามารถเบื้องต้นที่ช่วยให้สามารถสร้างและจัดการงานได้ตามต้องการ ผู้ใช้งานสามารถผสานข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ อีกทั้ง Notion ยังได้นำ AI เข้ามาอำนวยความสะดวกในการใช้งาน เช่น ความสามารถในการสร้างฐานข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลเป็นตาราง และการใส่รูปที่สวยงามให้กับข้อมูล

โดย Notion สามารถรองรับการทำงานแบบ Collaborative ช่วยให้ทีมของผู้ใช้งานสามารถทำงานร่วมกันบนหน้างานเดียวกันได้ รวมไปถึงการให้บริการในรูปแบบของแอปพลิเคชัน เพื่อความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้เข้ากับสไตล์ของผู้ใช้งานได้ในทุกที่ทุกเวลา

และถึงแม้ว่า Notion ยังไม่เคยประกาศถึงการใช้งานปัญญาประดิษฐ์อย่างเป็นทางการและยังไม่มีการโฆษณาอย่างชัดเจน แต่เครื่องมือและฟีเจอร์ใน Notion ได้รับการอัปเดตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นคุณสมบัติของ AI คือ
  • ค้นหาและเรียงลำดับ Notion มีฟังก์ชันการค้นหาที่สมบูรณ์แบบ ช่วยให้ผู้ใช้งานหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยการค้นหานี้อาจมีการนำเอา AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  • คัดลอกและวางอัตโนมัติ Notion มีความสามารถในการจัดระเบียบข้อมูลที่คัดลอกและวางลงในหน้า Notion โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการทำงานของ AI ที่ใช้เชื่อมโยงกับระบบอัตโนมัติ
  • ให้คำแนะนำ Notion ใช้ AI สำหรับเพิ่มความสามารถในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้ และการจัดระเบียบข้อมูล
 

4. Salesforce

บริษัทและแพลตฟอร์มด้านการให้บริการ Cloud Computing ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบเพื่อบริหารจัดการลูกค้า รวมไปถึงให้บริการด้านการสื่อสาร ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการธุรกิจ มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากมาย โดยเฉพาะ Salesforce CRM ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า ช่วยสร้างให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า และติดตามกระบวนการขายทั้งหมดได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดคือการผสานการทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างลงตัว Salesforce จึงมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรม CRM รวมไปถึง Cloud Computing ที่ธุรกิจขนาดใหญ่รวมไปถึงขนาดกลางนิยมใช้

โดย Salesforce ได้นำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในหลาย ๆ ส่วนของแพลตฟอร์ม เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารลูกค้า การขาย และกระบวนการทางธุรกิจทั่วไป เช่น
  • Einstein AI คือ AI ที่ฝังอยู่ในแพลตฟอร์มของ Salesforce มีความสามารถในการให้คำแนะนำอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการประมวลผลแนวโน้ม
  • Sales Cloud Einstein ฟังก์ชันที่ใช้ในการทำนายแนวโน้มของการขาย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจ
  • Service Cloud Einstein ช่วยตอบสนองต่อคำถามของลูกค้า และคำนวณปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้น
  • Marketing Cloud Einstein ช่วยคำนวณแนวโน้มความสำเร็จของการสร้างแคมเปญ
  • Einstein Analytics ฟังก์ชันเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล และทำการรายงานผล ที่ใช้ AI เป็นตัวช่วยทำความเข้าใจข้อมูล ช่วยศึกษาแนวโน้ม และทำการตัดสินใจทางธุรกิจ ก่อนจะนำเสนอเป็นรายงาน
  • Chatbots ระบบโต้ตอบอัตโนมัติ เพื่อช่วยตอบคำถามลูกค้า และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแบบทั่วไป
 

5. Zapier

แพลตฟอร์มอัตโนมัติที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน และบริการต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันได้โดยที่ไม่ต้องเขียนโค้ด และไม่ต้องใช้ทักษะหรือความเชี่ยวชาญทางเทคนิค Zapier ให้ผู้ใช้งานสร้าง Zaps ซึ่งตัวกลางสำหรับเชื่อมโยงอัตโนมัติระหว่างแอปพลิเคชันที่ต่างกัน เช่น
  • เมื่อผู้ใช้งานได้รับอีเมล Zapier จะทำการเพิ่มเวลา และบันทึกกิจกรรมลงใน Calendar
  • เมื่อผู้ใช้งานมีแพลนงานใหม่ Zapier จะส่งข้อความแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนด
  • Zapier มีความสามารถในการทำงานเชื่อมต่อกับหลายร้อยแอปพลิเคชัน ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน ที่ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้งานเป็นประจำ

โดย Zapier ยังไม่มีการโฆษณาอย่างชัดเจนว่าใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบ แต่การทำงานแบบอัตโนมัติที่ช่วยเชื่อมต่อระหว่างแอปพลิเคชันให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ ล้วนเป็นผลงานของ AI ที่ช่วยออกแบบและประมวลผล
 

ผสาน AI เข้ากับการทำงานของคุณได้อย่างลงตัว

AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์ แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์ และช่วย “ทดแทน” การทำงานบางอย่างที่มนุษย์ยังไม่อาจทำได้ หรืองานที่มีโอกาสก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์สูง ตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัดเป็นของบริษัท Tesla ซึ่งได้ทำการบันทึกข้อมูลสถิติไว้ว่า มีผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุเฉลี่ยปีละ 1.3 ล้านคน โดยทั้งหมดเกิดจากความประมาท หรือก็คือความผิดพลาดของมนุษย์ จึงเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สมองของ AI ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ และ Machine Learning จะกลายเป็นผู้ช่วยดูแลรักษาชีวิตของผู้คนบนท้องถนนในยุคที่เทคโนโลยีเบ่งบาน และถูกนำมาใช้ในรถยนต์

ดังนั้นแล้ว AI จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกที่สามารถทำงานได้ในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูง สามารถพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ได้ มีความคิดสร้างสรรค์ และช่วยมนุษย์แก้ปัญหาด้วยฐานข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งรวดเร็วและดีกว่าการตัดสินใจของมนุษย์เอง ที่ในบางเรื่องสำคัญมักจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สุดท้ายแล้ว AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะการเรียนรู้ที่จะใช้งาน AI อย่างเหมาะสมและลงตัว คือ การอยู่ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของมนุษย์และเทคโนโลยี

สามารถติดตามข้อมูลความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI การเงินการลงทุน และสาระความรู้อื่น ๆ เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทั้งนี้ทาง KRUNGSRI PRIME ได้มีการจัดสัมมนาเกี่ยวกับ AI เพื่อเป็นการอัปเดตเทรนด์อนาคต สนใจร่วมเป็นลูกค้า KRUNGSRI PRIME เพื่อรับสิทธิ์ในการเข้าร่วมงานสัมมนาทางด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ รวมถึงรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ สามารถติดต่อมาได้ที่ช่องทางฮอตไลน์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น.-17.00 น. หรือฝากข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับก็ได้เช่นกัน
สนใจร่วมเป็นลูกค้า ด้วยการเลือก KRUNGSRI PRIME ต่อยอดเงินให้เติบโต​
KRUNGSRI PRIME ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน และต่อยอดเงินล้านของคุณให้เติบโตสู่ล้านถัดๆไป นอกจากนี้ KRUNGSRI PRIME ยังมอบความพิเศษด้วยสิทธิ์ต่างๆทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ที่ถูกคัดสรรมาให้แก่ลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ